tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษถือเป็นประเด็นสำคัญในไวยากรณ์อย่างยิ่งที่ผู้เรียนจำเป็นต้องเข้าใจและใช้อย่างชํานาญ
Eng Breaking จะช่วยคุณสรุปประเด็นไวยากรณ์ของ tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียดในภาษาอังกฤษได้ละเอียดที่สุดในบทความด้านล่าง
ดูเลยตอนนี้เพื่อฝึกฝนโครงสร้าง วิธีใช้ และตัวชี้บอกของกาลทั้งหมดให้เชี่ยวชาญ
1 – ปัจจุบันกาล – Simple Present tense
1.1 – นิยาม
ปัจจุบันกาล (Simple Present Tense) เป็น Tense ที่ใช้อธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซ้ำๆ หรือเพื่อแสดงถึงความจริงที่เห็นได้ชัด
1.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาล
กริยาปกติ | กริยา tobe | |
ประโยคบอกเล่า |
S + V(s/es) + O ตัวอย่าง: She plays tennis..(เธอเล่นเทนนิส). |
S + am/is/are + N/Adj ตัวอย่าง: He is a teacher.(เขาเป็นครู) |
ประโยคปฏิเสธ |
S + do/does + not + V (ไม่เปลี่ยนรูป) + O ตัวอย่าง: They do not (don’t) play tennis.(พวกเขาไม่เล่นเทนนิส). |
S + am/is/are + not + N/Adj ตัวอย่าง: He is not (isn’t) a teacher.(เขาไม่ใช่ครู). |
ประโยคคำถาม | Do/Does + S + V (ไม่เปลี่ยนรูป) + O?ตัวอย่าง: Does she play tennis? |
Am/Is/Are + S + N/Adj? ตัวอย่าง: Is he a teacher? |
1.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาล
- อธิบายการกระทำหรือกิจวัตรที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
ตัวอย่าง: I go to school every day.
(ฉันไปโรงเรียนทุกวัน)
- แอธิบายถึงความจริงที่เห็นได้ชัด
ตัวอย่าง: The sun rises in the east.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก)
- อธิบายตารางเวลาหรือกำหนดการที่แน่นอน
ตัวอย่าง: The train leaves at 8 PM.
(รถไฟออกเวลา 20.00 น)
- อธิบายถึงอารมณ์ การรับรู้ และสภาวะในขณะที่พูด
ตัวอย่าง: I love chocolate.
(ฉันชอบชอคโกแลต)
- อธิบายถึงความสามารถของบุคคล
ตัวอย่าง: She speaks English fluently.
(เธอพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง)
1.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาล
- คำวิเศษณ์แสดงความถี่
usually (ตามปรกติ)
often (บ่อยๆ)
sometimes (บางครั้งบางคราว)
seldom (นานๆครั้ง)
rarely (ไม่ค่อยจะ)
never (ไม่เคย)
ตัวอย่าง:
She always gets up early.
(เธอมักจะตื่นเช้าเสมอ)
- คำบอกเวลา
everyday (ทุกวัน)
every week (ทุกสัปดาห์)
every month (ทุกเดือน)
every year (ทุกปี)
in the morning/afternoon/evening (ในตอนเช้า/กลางวัน/เย็น)
on Mondays/Tuesdays/etc. (ในวันจันทร์/อังคาร/ฯลฯ)
at the weekend (ในวันหยุดสุดสัปดาห์)
once a week (สัปดาห์ละครั้ง)
twice a month (สองครั้งต่อเดือน)
ตัวอย่าง:
We have a meeting once a week.
(เราประชุมกันสัปดาห์ละครั้ง)
ดูเพิ่ม
- ใช้ Possessive adjective/Possessive pronoun ง่ายนิดเดียว
- Past Simple Tense vs Present Perfect Tense ใช้ต่างกันอย่างไร
2 – ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง – Present Continuous
2.1 – นิยาม
ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง (Present Continuous) เป็นกาลในภาษาอังกฤษที่ใช้อธิบายการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดและการกระทำนั้นยังไม่สิ้นสุด
2.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาลต่อเนื่อง
ประโยคบอกเล่า | ะโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S+am/is/are+V-ing | S+am/is/are+not+V-ing | Am/Is/Are+S+V-ing? |
dụตัวอย่าง | She is watching TV.(เธอกำลังดูโทรทัศน์) | She is not watching TV.(เธอไม่ได้กำลังดูทีวี | Is she watching TV?(เธอกำลังดูทีวีอยู่ใช่ไหม?) |
2.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง
- อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด
ตัวอย่าง: I am studying now.
(ตอนนี้ฉันกําลังเรียนอยู่)
- แผนงานหรือความตั้งใจในอนาคตอันใกล้นี้
ตัวอย่าง: We are meeting them tomorrow.
(เรากำลังจะพบพวกเขาพรุ่งนี้)
- ใช้ในประโยคคําสั่ง/แนะนำ
ตัวอย่าง: Watch out! The car is coming.
(ระวัง! รถกําลังมา)
- การกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนทำให้รำคาญหรือชื่นชม (ปกติจะใช้กับ “always”)
ตัวอย่าง: She is always complaining about something.
(เธอมักจะบ่นเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง)
2.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาลต่อเนื่อง
Present Continuous Tense มักอยู่ในประโยคที่มีคำต่อไปนี้
- Now (ตอนนี้)
- Right now (เดี๋ยวนี้)
- At the moment (ในขณะนี้)
- At present (ในปัจจุบัน)
- Listen! (ฟัง!)
- Watch out! (ระวัง!)
- Look! (ดู!)
- Be quiet! (เงียบ!)
- Hey! (เฮ้!)
ตัวอย่าง:
She is reading a book now.
(ตอนนี้เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่)
3 – ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ – Present Perfect
3.1 – นิยาม
ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ (Present Perfect) ในภาษาอังกฤษใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และอาจดำเนินต่อไปในอนาคต
3.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาลสมบูรณ์
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S+have/has+V3/ed | S+have/has+not+V3/ed | Have/Has+S+V3/ed? |
ตัวอย่าง | I have finished my homework.(ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว) | He has not eaten breakfast yet.(ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย) | Have you read this book?(คุณอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วหรือยัง?) |
3.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาลสมบูรณ์
- อธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นแล้วจนถึงปัจจุบัน โดยไม่ระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อใด
ตัวอย่าง:
I have already finished my work.
(ฉันทํางานของฉันเสร็จแล้ว)
- อธิบายการกระทำที่เริ่มต้นในอดีตและดำเนินต่อไปในปัจจุบัน
ตัวอย่าง:
We have lived here since 2000.
(เราได้อาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 2000)
- อธิบายการกระทำในอดีต แต่ยังคงมีผลมาถึงปัจจุบัน
ตัวอย่าง:
She has lost her key (and she still hasn’t found it).
(เธอได้ทำกุญแจหาย (และยังหาไม่เจอ))
- อธิบายการกระทำที่เพิ่งเกิดขึ้น
ตัวอย่าง:
He has just gone out.
(เขาเพิ่งออกไป)
3.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาลสมบูรณ์
ในประโยคประกอบด้วยคำต่างๆ เช่น ever, never, so far, until now, up to now, up to the present, for, since, just, recently, lately, already, yet, this is the first/second…time
หมายเหตุ:
Since + เวลาที่เจาะจง
For + ระยะเวลา
ตัวอย่าง:
She has lived in Bangkok since 2015.
(เธอได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯมาตั้งแต่ปี 2015)
They have been married for 10 years.
(พวกเขาแต่งงานกันมา 10 ปีแล้ว)
4 – ปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ – Present Perfect Continuous
4.1 – นิยาม
ปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ (Present Perfect Continuous) ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และอาจดำเนินต่อไปในอนาคต เน้นความต่อเนื่องของการกระทำ
4.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + have/has + been + V-ing | S + have/has + not + been + V-ing | Have/Has + S + been + V-ing? |
ตัวอย่าง | She has been reading the book for two hours. (เธออ่านหนังสือเล่มนี้มาสองชั่วโมงแล้ว) | They have not been eating since this morning. (พวกเขาไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้านี้) | Have you been waiting here for long? (คุณรออยู่ที่นี่มานานไหม?) |
4.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์
- อธิบายถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีต ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคต
ตัวอย่าง:
I have been studying English for three years.
(ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาสามปีแล้ว)
- อธิบายการกระทำที่เพิ่งเสร็จสิ้นและมีผลชัดเจนในปัจจุบัน
ตัวอย่าง:
I am tired because I have been working all day.
(ฉันเหนื่อยเพราะฉันทำงานมาทั้งวัน)
- เน้นความต่อเนื่องและระยะเวลาของการกระทำมากกว่าผลลัพธ์
ตัวอย่าง:
They have been working on this project for hours.
(พวกเขาได้ทำงานในโครงการนี้มาเป็นเวลาหลายชั่วโมง)
4.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์
- Since, for
- All + เวลา: all day, all week…
- Recently, lately: เมื่อไม่นานมานี้
ตัวอย่าง: I have been reading a lot of books recently.
(ช่วงนี้ฉันอ่านหนังสือเยอะมาก)
คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกาลปัจจุบันได้ที่ Britishcouncil
5 – อดีตกาล – Simple Past
5.1 – นิยาม
Past Simple Tense ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอดีต การกระทำนี้ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันอีกต่อไป
5.2 – โครงสร้างอดีตกาล
ประโยค | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + V2/ed | S + did not + V1 | Did + S + V1? |
ตัวอย่าง | She visited Paris last year. (เธอไปปารีสเมื่อปีที่แล้ว) | They did not see the movie last night. (พวกเขาไม่ได้ดูหนังเมื่อคืนนี้) | Did you finish your homework yesterday? (เมื่อวานคุณทำการบ้านเสร็จหรือยัง?) |
5.3 – วิธีใช้อดีตกาล
- อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอดีต
ตัวอย่าง:
I visited my grandparents last weekend.
(ฉันไปเยี่ยมปู่ย่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา)
- อธิบายถึงกิจวัตรหรือสภาพในอดีต
ตัวอย่าง:
When I was a child, I played soccer every day.
(ตอนเด็กๆ ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน)
- กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันในอดีต
ตัวอย่าง:
She finished her homework, then she went to bed.
(เธอทำการบ้านเสร็จแล้วก็เข้านอน)
- ใช้กับประโยคเงื่อนไขประเภทที่ 2
โครงสร้างประโยคแบบมีเงื่อนไขประเภทที่ 2: If + S + V2/ed, S + would + V1
ตัวอย่าง:
If I had a lot of money, I would travel around the world.
(ถ้าฉันมีเงินมาก ฉันจะไปเที่ยวรอบโลก)
5.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาล
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้ร่วมกับอดีตกาล ได้แก่:
- Yesterday: เมื่อวาน
- Last + เวลา: last night, last week, last month…
- เวลา + ago: two days ago, three years ago…
- In + ปีในอดีต: in 1990, in 2010…
- When + ช่วงที่ผ่านมา: when I was a child, when he arrived…
ตัวอย่าง:
He bought a new car two days ago.
(เขาซื้อรถใหม่เมื่อสองวันก่อน)
I didn’t go to the party last night.
(ฉันไม่ได้ไปงานปาร์ตี้เมื่อคืนนี้)
6 – อดีตกาลต่อเนื่อง – Past Continuous
6.1 – นิยาม
อดีตกาลต่อเนื่องใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอดีตหรือเมื่อมีการกระทำอื่นเข้ามาแทรกแซง กาลนี้เน้นความต่อเนื่องของการกระทำในอดีต
6.2 – โครงสร้างอดีตกาลต่อเนื่อง
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + was/were + V-ing | S + was/were + not + V-ing | Was/Were + S + V-ing? |
ตัวอย่าง | He was playing the piano at 7 PM yesterday. (เขากำลังเล่นเปียโนตอน 7 โมงเมื่อคืนนี้) | They were not studying at 10 PM last night. (พวกเขาไม่ได้กำลังเรียนตอน 10 โมงเมื่อคืนนี้) | Were you sleeping when I called? (คุณกําลังนอนหลับตอนที่ฉันโทรหาคุณหรือเปล่า?) |
6.3 – วิธีใช้อดีตกาลต่อเนื่อง
- อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต
ตัวอย่าง:
At 8 o’clock last night, I was watching TV.
(เมื่อคืนเวลา 8 โมง ฉันกำลังดูทีวีอยู่)
- อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อมีการกระทำอื่นเข้ามาแทรกแซง
ตัวอย่าง:
I was reading a book when she called.
(ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ตอนที่เธอโทรมา)
- อธิบายการกระทำสองอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีต
ตัวอย่าง:
While I was cooking, he was doing his homework.
(ในขณะที่ฉันกำลังทำอาหาร เขาก็กำลังทำการบ้าน)
- อธิบายการกระทำที่กินเวลาเป็นระยะเวลาหนึ่งในอดีต
ตัวอย่าง:
They were living in Paris for several years.
(พวกเขาอาศัยอยู่ในปารีสเป็นเวลาหลายปี)
6.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาลต่อเนื่อง
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักจะใช้ร่วมกับอดีตกาลต่อเนื่อง ได้แก่:
- At + เวลาที่เฉพาะเจาะจงในอดีต: at 9 o’clock last night, at that time…
- When + ประโยคอดีตธรรมดา: when she arrived, when he called…
- While + ประโยคอดีตต่อเนื่อง: while I was working, while they were playing…
- All + เวลา: all day, all night…
ตัวอย่าง:
She was driving to work at 8 o’clock this morning.
(เธอกำลังขับรถไปทำงานตอน 8 โมงเช้าวันนี้)
7 – อดีตกาลสมบูรณ์ – Past Perfect
7.1 – นิยาม
Past Perfect Tense ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นก่อนการกระทำอื่นหรือเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต มักใช้เพื่อเน้นการสิ้นสุดของการกระทำหนึ่งก่อนที่การกระทำอื่นจะเกิดขึ้น
7.2 – โครงสร้างอดีตกาลสมบูรณ์
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + had + V3/ed | S + had + not + V3/ed | Had + S + V3/ed? |
ตัวอย่าง | She had already eaten when I arrived. (เธอกินเสร็จแล้วเมื่อฉันมาถึง) | They had not visited the museum before they moved to New York. (พวกเขาไม่เคยไปที่พิพิธภัณฑ์ ก่อนที่จะย้ายไปนิวยอร์ก) | Had you finished the report before the meeting? (คุณทำรายงานเสร็จก่อนประชุมแล้วหรือยัง?) |
7.3 – วิธีใช้อดีตกาลสมบูรณ์
- อธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นก่อนการกระทำอื่นในอดีต
ตัวอย่าง:
She had left before he arrived.
(เธอออกไปแล้วก่อนที่เขาจะมา)
- อธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นก่อนเวลาที่กำหนดในอดีต
ตัวอย่าง:
By 8PM, they had finished their homework.
(ก่อน 8 โมงเย็น พวกเขาทำการบ้านเสร็จแล้ว)
- อธิบายถึงประสบการณ์หรือสภาวะที่มีอยู่ก่อนเวลาหนึ่งในอดีต
ตัวอย่าง:
He had never seen such a beautiful sunset before.
(เขาไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน)
7.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาลสมบูรณ์
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้ร่วมกับอดีตกาลสมบูรณ์ ได้แก่:
- Before + ประโยคอดีตเรียบง่าย: before he came, before they left…
- After + ประโยคอดีตเรียบง่าย: after I had finished, after they had gone…
- By + เวลาในอดีต: by 5 PM, by the end of the day…
- When + ประโยคอดีตเรียบง่าย: when she arrived, when we got there…
ตัวอย่าง:
By the time we got to the theater, the movie had started.
(เมื่อเราไปถึงโรงหนัง หนังก็เริ่มฉายแล้ว)
She had lived in Paris for five years before she moved to London.
(เธอได้อาศัยอยู่ในปารีสเป็นเวลาห้าปีก่อนจะย้ายไปลอนดอน)
คุณก็อาจจะสนใ
8 – อดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ – Past Perfect Continuous
8.1 – นิยาม
Past Perfect Continuous ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เริ่มขึ้นก่อนเวลาหนึ่งหรือการกระทำอื่นในอดีต กินเวลาอย่างต่อเนื่องและอาจดำเนินต่อไปจนถึงเวลานั้น กาลนี้เน้นความต่อเนื่องและระยะเวลาของการกระทำ
8.2 – โครงสร้างอดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์
ประโยคบอกเล่า | hประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + had + been + V-ing | S + had + not + been + V-ing | Had + S + been + V-ing? |
ตัวอย่าง | By the time the meeting ended, they had been discussing the issue for three hours. (เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง พวกเขาได้หารือเรื่องนั้นมาเป็นเวลาสามชั่วโมง) | They had not been studying for long when the teacher entered the room. (พวกเขาไม่ได้เรียนหนังสือนานเมื่อครูเข้ามาในห้อง) | Had you been waiting long before he called? (คุณรอนานไหมก่อนที่เขาจะโทรมา?) |
8.3 – วิธีใช้อดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ – Past perfect continuous
- อธิบายถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นก่อนเวลาหนึ่งหรือการกระทำอื่นในอดีตและดำเนินต่อไปจนถึงเวลานั้น
ตัวอย่าง:
They had been working for hours before the boss arrived.
(พวกเขาได้ทำงานใาหลายชั่วโมงก่อนที่เจ้านายจะมาถึง)
- อธิบายถึงการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีตและก่อให้เกิดผลหรือผลกระทบในเวลานั้น
ตัวอย่าง:
She was tired because she had been running.
(เธอเหนื่อยเพราะเธอวิ่งมา)
- เน้นระยะเวลาของการกระทำในอดีต
ตัวอย่าง:
We had been living in the city for ten years before we moved to the countryside.
(เราอาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลาสิบปีก่อนจะย้ายไปอยู่ชนบท)
8.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักจะใช้ร่วมกับอดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ ได้แก่ :
- For + ระยะเวลา: for two hours, for a long time…
- Since + เวลาที่เจาะจง: since 5 o’clock, since last month…
- Before + ประโยคอดีตเรียบง่าย: before he came, before they left…
- When + ประโยคอดีตเรียบง่าย: when she arrived, when we got there…
ตัวอย่าง:
She had been reading for an hour before she realized it was time to leave.
(เธอได้อ่านหนังสือมาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะตระหนักว่าถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว)
When she arrived, they had been waiting for two hours.
(เมื่อเธอมาถึง พวกเขาได้รอมาสองชั่วโมงแล้ว)
9 – อนาคตกาล – Simple Future
9.1 – นิยาม
Simple Future Tense ใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มักใช้เพื่อพูดถึงการคาดการณ์ คำสัญญา การตัดสินใจในทันที หรือเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น
9.2 – โครงสร้างอนาคตกาล
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + will + V1 | S + will + not + V1 (won’t) | Will + S + V1? |
ตัวอย่าง | They will start the project next month. (พวกเขาจะเริ่มโครงการในเดือนหน้า) | She won’t come to the party tomorrow. (เธอจะไม่มางานปาร์ตี้พรุ่งนี้) | Will you call me later? (Bạn sẽ gọi cho tôi sau chứ?)(คุณจะโทรหาฉันทีหลังไหม?) |
9.3 – วิธีใช้อนาคตกาล
- อธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่าง:
I will travel to Japan next year.
(ฉันจะไปเที่ยวญี่ปุ่นปีหน้า)
- อธิบายถึงคำสัญญาหรือคำมั่นสัญญา
ตัวอย่าง:
I will help you with your homework.
(ฉันจะช่วยคุณทำการบ้าน)
- แสดงการตัดสินใจทันทีในขณะที่พูด
ตัวอย่าง:
It’s cold. I will close the window.
(มันหนาว ฉันจะปิดหน้าต่าง)
- อธิบายถึงการคาดการณ์หรือความคาดหวังในอนาคต
ตัวอย่าง:
She will be a great teacher.
(เธอจะเป็นครูที่เยี่ยมยอด)
9.4 – ตัวชี้บอกอนาคตกาล
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้ร่วมกับอนาคตกาล ได้แก่:
- Tomorrow: พรุ่งนี้
- Next + เวลา: next week, next month, next year…
- In + ระยะเวลา: in a few days, in a week, in two months…
- Soon: เร็วๆนี้
- Later: ภายหลัง
ตัวอย่าง:
I will finish my homework in an hour.
(ฉันจะทำการบ้านให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง)
He won’t go to the meeting next week.
(เขาจะไม่ไปประชุมในสัปดาห์หน้า)
10 – อนาคตกาลต่อเนื่อง – Future Continuous
10.1 – นิยาม
อนาคตกาลต่อเนื่องใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่เจาะจงในอนาคตหรือเมื่อมีการกระทำอื่นเกิดขึ้นในอนาคต กาลนี้เน้นถึงความต่อเนื่องของการกระทำในอนาคต
10.2 – โครงสร้างอนาคตกาลต่อเนื่อง
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + will be + V-ing | S + will not be (won’t be) + V-ing | Will + S + be + V-ing? |
ตัวอย่าง | We will be having dinner at 7 PM. (เราจะทานอาหารเย็นเวลา 19.00 น.) | She will not be attending the meeting next week. ((เธอจะไม่เข้าร่วมการประชุมในสัปดาห์หน้า) | Will they be working on the project at this time tomorrow?(พวกเขาจะทำงานในโครงการพรุ่งนี้เวลานี้หรือไม่) |
10.3 – วิธีใช้อนาคตกาลต่อเนื่อง
- อธิบายการกระทำที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต
ตัวอย่าง:
At 8PM tonight, I will be watching TV.
(คืนนี้ 8 โมงฉันจะดูทีวี)
- อธิบายถึงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อมีการกระทำอื่นเกิดขึ้น
ตัวอย่าง:
I will be studying when you arrive.
(ฉันจะกำลังเรียนอยู่เมื่อคุณมาถึง)
- อธิบายการกระทำสองอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันในอนาคต
ตัวอย่าง:
While they will be traveling, we will be working.
(ขณะที่พวกเขากําลังเดินทาง เรากําลังทํางาน)
- อธิบายแผนการหรือความตั้งใจในอนาคต
ตัวอย่าง:
This time next week, we will be relaxing on the beach.
(เวลานี้ในสัปดาห์หน้า เราจะกำลังพักผ่อนที่ชายหาด)
10.4 – ตัวชี้บอกอนาคตกาลต่อเนื่อง
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้กับอนาคตกาลต่อเนื่อง ได้แก่:
- At + เวลาที่แน่นอนในอนาคต: at 10 o’clock tomorrow, at 5 PM next Friday…
- When + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: when he arrives, when they start…
- While + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: while she is cooking, while we are waiting…
- This time + ระยะเวลา: this time next year, this time tomorrow…
This time next year, I will be studying abroad.
(ในช่วงเวลานี้ในปีหน้า ฉันจะไปเรียนต่างประเทศ)
11 – อนาคตกาลสมบูรณ์– Future Perfect
11.1 – นิยาม
Future Perfect ใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะแล้วเสร็จก่อนเวลาอื่นหรือการกระทำอื่นในอนาคต
11.2 – โครงสร้าว
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + will have + V3/ed | S + will not have (won’t have) + V3/ed | Will + S + have + V3/ed? |
ตัวอย่าง | By the time we reach the airport, the flight will have taken off. (ตอนที่เราไปถึงสนามบิน เที่ยวบินจะขึ้นแล้ว) | They will not have finished the report by the deadline. (พวกเขาจะทำรายงานไม่เสร็จก่อนกำหนดเวลา) | Will you have completed the assignment before the meeting? (คุณจะทำงานให้เสร็จก่อนการประชุมหรือไม่) |
11.3 – วิธีใช้ Future Perfect Tense
- อธิบายถึงการกระทำที่จะแล้วเสร็จก่อนเวลาที่กำหนดในอนาคต
ตัวอย่าง:
By next Friday, I will have completed the project.
(ภายในวันศุกร์หน้า ฉันจะทำโครงการเสร็จ)
- อธิบายถึงการกระทำที่จะเสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการกระทำอื่นเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่าง:
She will have left before you arrive.
(เธอจะออกไปก่อนที่คุณจะมาถึง)
- อธิบายถึงการกระทำที่จะแล้วเสร็จในเวลาที่กำหนดในอนาคต
ตัวอย่าง:
By the end of this year, they will have moved into their new house.
(ภายในสิ้นปีนี้พวกเขาจะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้ว)
11.4 – สัตัวชี้บอกอนาคตกาลสมบูรณ์
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้กับอนาคตกาลสมบูรณ์ ได้แก่:
- By + เวลาที่แน่นอนในอนาคต: by next month, by 5 PM tomorrow…
- Before + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: before she comes, before they start…
- By the time + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: by the time you arrive, by the time they finish…
- In + ระยะเวลา: in a week, in two years…
ตัวอย่าง:
She will have graduated by next June.
(เธอจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนมิถุนายนปีหน้า)
12 – อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง – Future Perfect Continuous
12.1. นิยาม
อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่องใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่ดำเนินต่อไปจนกระทั่งเวลาอื่นหรือการกระทำอื่นในอนาคต
12.2. โครงสร้างอนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง
ประโยคบอกเล่า | ประโยคปฏิเสธ | ประโยคคำถาม | |
โครงสร้าง | S + will have been + V-ing | S + will not have been (won’t have been) + V-ing | Will + S + have been + V-ing? |
ตัวอย่าง | She will have been working at the company for ten years by the end of this year.(เธอจะทำงานที่บริษัทนี้มาสิบปีแล้วในสิ้นปีนี้) | He will not have been living in this city for a year by next July.(เดือนกรกฎาคมปีหน้า เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว) | Will you have been working here for five years by the end of this month?(สิ้นเดือนนี้คุณจะทำงานที่นี่ครบ 5 ปีแล้วใช่ไหม?) |
12.3. วิธีใช้อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง
- อธิบายการกระทำที่จะดำเนินต่อไปจนถึงเวลาที่กำหนดในอนาคต
ตัวอย่าง:
By next month, I will have been working at this company for five years.
(ในเดือนหน้า ฉันก็จะทำงานที่บริษัทนี้มาห้าปีแล้ว)
- อธิบายถึงการกระทำต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นจนกระทั่งมีการกระทำอื่นเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่าง:
By the time they arrive, we will have been waiting for them for two hours.
(เมื่อพวกเขามาถึงเราจะได้รอพวกเขาอยู่สองชั่วโมง)
- เน้นระยะเวลาและความต่อเนื่องของการกระทำในอนาคต
ตัวอย่าง:
She will have been studying for three hours by the time the class starts.
(เธอจะได้เรียนมา 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มคลาส)
12.4. ตัวชี้บอกอนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง
คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้กับอนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่องได้แก่:
- By + เวลาที่แน่นอนในอนาคต: by next week, by 5 PM tomorrow…
- By the time + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: by the time you arrive, by the time the event starts…
- For + ระยะเวลา: for two hours, for several years…
- Since + เวลาที่เจาะจง: since last month, since they arrived…
ตัวอย่าง:
By next year, I will have been studying English for ten years.
(ถึงปีหน้าฉันก็จะเรียนภาษาอังกฤษมา 10 ปีแล้ว)
13 – เคล็ดลับในการจำ tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษ
13.1 – ตารางกาลภาษาอังกฤษ – สรุป
เพื่อที่จะสรุปความรู้ด้วยวิธีที่สมเหตุสมผลและเข้าใจง่ายที่สุด Engbreaking ได้รวบรวม 12 tenses ในภาษาอังกฤษไว้ในตารางต่อไปนี้:
13.2 – จำคำกริยาที่ใช้ในแต่ละกาลในภาษาอังกฤษ
- กาลที่อยู่ในปัจจุบัน กริยา และกริยาช่วยผันเป็น V1 ในตารางกริยาไม่ปกติหรือที่เรียกว่า V1
- กาลที่อยู่อดีตใช้กริยาและกริยาช่วยผันเป็นช่อง 2 ในตารางกริยาไม่ปกติ (V2/ed)
- กาลสมบูรณ์ กริยา และกริยาช่วยผันเป็นช่อง 3 ในตารางกริยาไม่ปกติ (V3/ed)
- กาลอนาคตจะต้องมาพร้อมกับ will/shall
13.3 – จำโครงสร้างกาลในภาษาอังกฤษตามชื่อ
- Simple: ง่ายดาย มีเพียงกริยาหลักเท่านั้น
- Continuous: ต่อเนื่อง, มี “be” + กริยารูป “-ing”.
- Perfect: สมบูรณ์, มี “have” + กริยาช่อง3
- Perfect Continuous: สมบูรณ์ต่อเนื่อง, มี “have been” + กริยารูป “-ing”
13.4 – ปฏิบัติ และ ฝึกฝน tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษ
- จดโครงสร้างและตัวอย่างสำหรับแต่ละกาลลงในสมุดบันทึกและทบทวนเป็นประจำ
- ทำแบบฝึกหัดไวยากรณ์และเขียนประโยคเพื่อฝึกการใช้กาล
- สร้าง flashcards พร้อมประโยคตัวอย่างและโครงสร้างเพื่อทบทวน
- ใช้แอปพลิเคชันเรียนไวยากรณ์บนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อฝึกฝนได้ทุกที่ทุกเวลา
- อ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ และเอกสารเป็นภาษาอังกฤษเพื่อดูกาลที่ใช้ในการเขียน
13.5 – วาดระยะเวลาในการใช้กาล
วาดระยะเวลาในการใช้กาลในภาษาอังกฤษจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แทนที่จะจำแค่ตัวบ่งชี้เท่านั้น
13.6 – ใช้แผนที่ความคิดเพื่อเรียนรู้กาลทั้งหมดในภาษาอังกฤษ
การใช้แผนที่ความคิด (mind map) ยังเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมาก ช่วยให้คุณจัดระบบความรู้เกี่ยวกับกาลทั้ง 12 กาลด้วยวิธีที่สมเหตุสมผล สอดคล้องกัน และเข้าใจง่ายที่สุด
13.7 – หาศูนย์ภาษาอังกฤษเพื่อเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
- เลือกศูนย์ที่มีชื่อเสียง: หาศูนย์ภาษาอังกฤษที่มีครูคุณภาพและวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ
- ดูรีวิวและความคิดเห็น: อ่านรีวิวจากนักเรียนคนก่อนเพื่อเลือกศูนย์ที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
14 – แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษพร้อมคำตอบ
แบบฝึกหัดที่ 1: ผันคำกริยา tense ทั้ง 12
ผันคำกริยาในวงเล็บด้วยกาลที่ถูกต้องในประโยคต่อไปนี้:
- She (write) __________ a letter when I called her.
- By next year, I (complete) __________ my degree.
- When they were children, they (play) __________ outside every day.
- I (not see) __________ him for ages.
- If he had known about the meeting, he (attend) __________ it.
คำตอบ:
- She was writing a letter when I called her.
- By next year, I will have completed my degree.
- When they were children, they played outside every day.
- I have not seen him for ages.
- If he had known about the meeting, he would have attended it.
แบบฝึกหัดที่ 2: กรอกข้อมูล tense ทั้ง 12 ในช่องว่าง
เติมกาลที่เหมาะสมของกริยาลงในช่องว่าง:
- By the time we get there, the movie (start) __________.
- She (never/meet) __________ his parents before the party.
- They (travel) __________ to Europe last summer.
- If I see him, I (tell) __________ him about the change.
- She (be) __________ a teacher for 10 years before she retired.
คำตอบ:
- By the time we get there, the movie will have started.
- She had never met his parents before the party.
- They traveled to Europe last summer.
- If I see him, I will tell him about the change.
- She had been a teacher for 10 years before she retired.
แบบฝึกหัดที่ 3: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง
เลือกกาลที่ถูกต้องเพื่อเติมประโยคต่อไปนี้:
- By the time we arrived, they (finish) __________ their meal.
a) finished
b) will have finished
c) had finished
- I (meet) __________ him at the café last week.
a) met
b) meet
c) have met
- If she (study) __________ harder, she would have passed the exam.
a) studies
b) had studied
c) will study
- Right now, I (read) __________ a really interesting book.
a) read
b) am reading
c) have read
- They (be) __________ at the party when I called them.
a) were
b) are
c) had been
คำตอบ:
- By the time we arrived, they had finished their meal.
- I met him at the café last week.
- If she had studied harder, she would have passed the exam.
- Right now, I am reading a really interesting book.
- They were at the party when I called them.
ข้างต้นเป็นการสรุปความรู้ด้านไวยากรณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับ tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษที่ครบถ้วนที่สุด หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณรวบรวมความรู้และนำใช้กาลในการพูดและการเขียนได้อย่างถูกต้อง
หากคุณมีคำถามหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะติดต่อ Eng Breaking เพื่อรับการช่วยเหลือ!
ดูเพิ่ม:
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .