tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด: โครงสร้าง  วิธีใช้ และตัวชี้บอก

tense ทั้ง 12

tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษถือเป็นประเด็นสำคัญในไวยากรณ์อย่างยิ่งที่ผู้เรียนจำเป็นต้องเข้าใจและใช้อย่างชํานาญ

Eng Breaking จะช่วยคุณสรุปประเด็นไวยากรณ์ของ tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียดในภาษาอังกฤษได้ละเอียดที่สุดในบทความด้านล่าง

ดูเลยตอนนี้เพื่อฝึกฝนโครงสร้าง  วิธีใช้ และตัวชี้บอกของกาลทั้งหมดให้เชี่ยวชาญ

1 – ปัจจุบันกาล – Simple Present tense

1.1 – นิยาม

ปัจจุบันกาล  (Simple Present Tense) เป็น Tense ที่ใช้อธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซ้ำๆ หรือเพื่อแสดงถึงความจริงที่เห็นได้ชัด

1.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาล

กริยาปกติ กริยา tobe
ประโยคบอกเล่า S + V(s/es) + O
ตัวอย่าง: She plays tennis..(เธอเล่นเทนนิส).
S + am/is/are + N/Adj
ตัวอย่าง: He is a teacher.(เขาเป็นครู)
ประโยคปฏิเสธ S + do/does + not + V (ไม่เปลี่ยนรูป) + O
ตัวอย่าง: They do not (don’t) play tennis.(พวกเขาไม่เล่นเทนนิส).
S + am/is/are + not + N/Adj
ตัวอย่าง: He is not (isn’t) a teacher.(เขาไม่ใช่ครู).
ประโยคคำถาม Do/Does + S + V (ไม่เปลี่ยนรูป) + O?ตัวอย่าง: Does she play tennis? Am/Is/Are + S + N/Adj?
ตัวอย่าง: Is he a teacher?

1.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาล

  • อธิบายการกระทำหรือกิจวัตรที่เกิดขึ้นซ้ำๆ

ตัวอย่าง: I go to school every day.
(ฉันไปโรงเรียนทุกวัน)

  • แอธิบายถึงความจริงที่เห็นได้ชัด

ตัวอย่าง: The sun rises in the east.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก)

  • อธิบายตารางเวลาหรือกำหนดการที่แน่นอน

ตัวอย่าง: The train leaves at 8 PM.
(รถไฟออกเวลา 20.00 น)

  • อธิบายถึงอารมณ์ การรับรู้ และสภาวะในขณะที่พูด

ตัวอย่าง: I love chocolate.
(ฉันชอบชอคโกแลต)

  • อธิบายถึงความสามารถของบุคคล

ตัวอย่าง: She speaks English fluently.
(เธอพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง)

tense ทั้ง 12 - Simple Present tense

1.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาล

  • คำวิเศษณ์แสดงความถี่

usually (ตามปรกติ)

often (บ่อยๆ)

sometimes (บางครั้งบางคราว)

seldom (นานๆครั้ง)

rarely (ไม่ค่อยจะ)

never (ไม่เคย)

ตัวอย่าง:

She always gets up early.
(เธอมักจะตื่นเช้าเสมอ)

  • คำบอกเวลา

everyday (ทุกวัน)

every week (ทุกสัปดาห์)

every month (ทุกเดือน)

every year (ทุกปี)

in the morning/afternoon/evening (ในตอนเช้า/กลางวัน/เย็น)

on Mondays/Tuesdays/etc. (ในวันจันทร์/อังคาร/ฯลฯ)

at the weekend (ในวันหยุดสุดสัปดาห์)

once a week (สัปดาห์ละครั้ง)

twice a month (สองครั้งต่อเดือน)

ตัวอย่าง:

We have a meeting once a week.
(เราประชุมกันสัปดาห์ละครั้ง)

ดูเพิ่ม

2 – ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง – Present Continuous

2.1 – นิยาม

ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง (Present Continuous) เป็นกาลในภาษาอังกฤษที่ใช้อธิบายการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดและการกระทำนั้นยังไม่สิ้นสุด

2.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาลต่อเนื่อง

ประโยคบอกเล่า  ะโยคปฏิเสธ  ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S+am/is/are+V-ing S+am/is/are+not+V-ing Am/Is/Are+S+V-ing?
dụตัวอย่าง She is watching TV.(เธอกำลังดูโทรทัศน์) She is not watching TV.(เธอไม่ได้กำลังดูทีวี Is she watching TV?(เธอกำลังดูทีวีอยู่ใช่ไหม?)

2.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง

  • อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด

ตัวอย่าง:  I am studying now. 
(ตอนนี้ฉันกําลังเรียนอยู่)

  • แผนงานหรือความตั้งใจในอนาคตอันใกล้นี้

ตัวอย่าง: We are meeting them tomorrow. 
(เรากำลังจะพบพวกเขาพรุ่งนี้)

  • ใช้ในประโยคคําสั่ง/แนะนำ

ตัวอย่าง: Watch out! The car is coming. 
(ระวัง! รถกําลังมา)

  • การกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนทำให้รำคาญหรือชื่นชม (ปกติจะใช้กับ “always”)

ตัวอย่าง: She is always complaining about something.
(เธอมักจะบ่นเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง)

2.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาลต่อเนื่อง

Present Continuous Tense มักอยู่ในประโยคที่มีคำต่อไปนี้

  • Now (ตอนนี้)
  • Right now (เดี๋ยวนี้)
  • At the moment (ในขณะนี้)
  • At present (ในปัจจุบัน)
  • Listen! (ฟัง!)
  • Watch out! (ระวัง!)
  • Look! (ดู!)
  • Be quiet! (เงียบ!)
  • Hey! (เฮ้!)

ตัวอย่าง:

She is reading a book now.
(ตอนนี้เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่)

3 – ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ – Present Perfect

3.1 – นิยาม

ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ (Present Perfect) ในภาษาอังกฤษใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และอาจดำเนินต่อไปในอนาคต

3.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาลสมบูรณ์

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ   ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S+have/has+V3/ed S+have/has+not+V3/ed Have/Has+S+V3/ed?
ตัวอย่าง I have finished my homework.(ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว) He has not eaten breakfast yet.(ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย) Have you read this book?(คุณอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วหรือยัง?)

3.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาลสมบูรณ์

  • อธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นแล้วจนถึงปัจจุบัน โดยไม่ระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อใด

ตัวอย่าง:

I have already finished my work.
(ฉันทํางานของฉันเสร็จแล้ว)

  • อธิบายการกระทำที่เริ่มต้นในอดีตและดำเนินต่อไปในปัจจุบัน

ตัวอย่าง:

We have lived here since 2000.
(เราได้อาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 2000)

  • อธิบายการกระทำในอดีต แต่ยังคงมีผลมาถึงปัจจุบัน

ตัวอย่าง:

She has lost her key (and she still hasn’t found it).
(เธอได้ทำกุญแจหาย (และยังหาไม่เจอ))

  • อธิบายการกระทำที่เพิ่งเกิดขึ้น

ตัวอย่าง:

He has just gone out.
(เขาเพิ่งออกไป)

3.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาลสมบูรณ์

ในประโยคประกอบด้วยคำต่างๆ เช่น  ever, never, so far, until now, up to now, up to the present, for, since, just, recently, lately, already, yet, this is the first/second…time

หมายเหตุ:

Since + เวลาที่เจาะจง

For + ระยะเวลา

ตัวอย่าง:

She has lived in Bangkok since 2015.
(เธอได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯมาตั้งแต่ปี 2015)

They have been married for 10 years.
(พวกเขาแต่งงานกันมา 10 ปีแล้ว)

4 – ปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ – Present Perfect Continuous

4.1 – นิยาม

ปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ (Present Perfect Continuous) ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เริ่มต้นในอดีต ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และอาจดำเนินต่อไปในอนาคต เน้นความต่อเนื่องของการกระทำ

4.2 – โครงสร้างปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ   ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + have/has + been + V-ing S + have/has + not + been + V-ing Have/Has + S + been + V-ing?
ตัวอย่าง She has been reading the book for two hours. (เธออ่านหนังสือเล่มนี้มาสองชั่วโมงแล้ว) They have not been eating since this morning. (พวกเขาไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้านี้) Have you been waiting here for long? (คุณรออยู่ที่นี่มานานไหม?)

4.3 – วิธีใช้ปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์

  • อธิบายถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีต ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคต

ตัวอย่าง:

I have been studying English for three years.
(ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาสามปีแล้ว)

  • อธิบายการกระทำที่เพิ่งเสร็จสิ้นและมีผลชัดเจนในปัจจุบัน

ตัวอย่าง:

I am tired because I have been working all day.
(ฉันเหนื่อยเพราะฉันทำงานมาทั้งวัน)

  • เน้นความต่อเนื่องและระยะเวลาของการกระทำมากกว่าผลลัพธ์

ตัวอย่าง:

They have been working on this project for hours.
(พวกเขาได้ทำงานในโครงการนี้มาเป็นเวลาหลายชั่วโมง)

4.4 – ตัวชี้บอกปัจจุบันกาลต่อเนื่องสมบูรณ์

  • Since, for
  • All + เวลา: all day, all week…
  • Recently, lately: เมื่อไม่นานมานี้

ตัวอย่าง: I have been reading a lot of books recently.
(ช่วงนี้ฉันอ่านหนังสือเยอะมาก)

คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกาลปัจจุบันได้ที่ Britishcouncil

5 – อดีตกาล – Simple Past

5.1 – นิยาม

Past Simple Tense ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอดีต การกระทำนี้ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันอีกต่อไป

5.2 – โครงสร้างอดีตกาล

ประโยค ประโยคปฏิเสธ  ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + V2/ed S + did not + V1 Did + S + V1?
ตัวอย่าง She visited Paris last year. (เธอไปปารีสเมื่อปีที่แล้ว) They did not see the movie last night. (พวกเขาไม่ได้ดูหนังเมื่อคืนนี้) Did you finish your homework yesterday? (เมื่อวานคุณทำการบ้านเสร็จหรือยัง?)

5.3 – วิธีใช้อดีตกาล

  • อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอดีต

ตัวอย่าง:

I visited my grandparents last weekend. 
(ฉันไปเยี่ยมปู่ย่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา)

  • อธิบายถึงกิจวัตรหรือสภาพในอดีต

ตัวอย่าง:

When I was a child, I played soccer every day. 
(ตอนเด็กๆ ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน)

  • กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันในอดีต

ตัวอย่าง:

She finished her homework, then she went to bed. 
(เธอทำการบ้านเสร็จแล้วก็เข้านอน)

  • ใช้กับประโยคเงื่อนไขประเภทที่ 2

โครงสร้างประโยคแบบมีเงื่อนไขประเภทที่ 2: If + S + V2/ed, S + would + V1

ตัวอย่าง:

If I had a lot of money, I would travel around the world.
(ถ้าฉันมีเงินมาก ฉันจะไปเที่ยวรอบโลก)

5.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาล

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้ร่วมกับอดีตกาล ได้แก่:

  • Yesterday: เมื่อวาน
  • Last + เวลา: last night, last week, last month…
  • เวลา + ago: two days ago, three years ago…
  • In + ปีในอดีต: in 1990, in 2010…
  • When + ช่วงที่ผ่านมา: when I was a child, when he arrived…

ตัวอย่าง:

He bought a new car two days ago. 

(เขาซื้อรถใหม่เมื่อสองวันก่อน)

I didn’t go to the party last night.

(ฉันไม่ได้ไปงานปาร์ตี้เมื่อคืนนี้)

 tense ทั้ง 12 - Simple Present tense

6 – อดีตกาลต่อเนื่อง – Past Continuous

6.1 – นิยาม

อดีตกาลต่อเนื่องใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอดีตหรือเมื่อมีการกระทำอื่นเข้ามาแทรกแซง กาลนี้เน้นความต่อเนื่องของการกระทำในอดีต

6.2 – โครงสร้างอดีตกาลต่อเนื่อง

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ   ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + was/were + V-ing S + was/were + not + V-ing Was/Were + S + V-ing?
ตัวอย่าง He was playing the piano at 7 PM yesterday. (เขากำลังเล่นเปียโนตอน 7 โมงเมื่อคืนนี้) They were not studying at 10 PM last night. (พวกเขาไม่ได้กำลังเรียนตอน 10 โมงเมื่อคืนนี้) Were you sleeping when I called? (คุณกําลังนอนหลับตอนที่ฉันโทรหาคุณหรือเปล่า?)

6.3 – วิธีใช้อดีตกาลต่อเนื่อง

  • อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต

ตัวอย่าง:

At 8 o’clock last night, I was watching TV. 

(เมื่อคืนเวลา 8 โมง ฉันกำลังดูทีวีอยู่)

  • อธิบายการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อมีการกระทำอื่นเข้ามาแทรกแซง

ตัวอย่าง:

I was reading a book when she called. 

(ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ตอนที่เธอโทรมา)

  • อธิบายการกระทำสองอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีต

ตัวอย่าง:

While I was cooking, he was doing his homework. 

(ในขณะที่ฉันกำลังทำอาหาร เขาก็กำลังทำการบ้าน)

  • อธิบายการกระทำที่กินเวลาเป็นระยะเวลาหนึ่งในอดีต 

ตัวอย่าง:

They were living in Paris for several years. 

(พวกเขาอาศัยอยู่ในปารีสเป็นเวลาหลายปี)

6.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาลต่อเนื่อง

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักจะใช้ร่วมกับอดีตกาลต่อเนื่อง ได้แก่:

  • At + เวลาที่เฉพาะเจาะจงในอดีต: at 9 o’clock last night, at that time…
  • When + ประโยคอดีตธรรมดา: when she arrived, when he called…
  • While + ประโยคอดีตต่อเนื่อง: while I was working, while they were playing…
  • All + เวลา: all day, all night…

ตัวอย่าง:

She was driving to work at 8 o’clock this morning. 

(เธอกำลังขับรถไปทำงานตอน 8 โมงเช้าวันนี้)

7 – อดีตกาลสมบูรณ์ – Past Perfect

7.1 – นิยาม

Past Perfect Tense ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นก่อนการกระทำอื่นหรือเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต มักใช้เพื่อเน้นการสิ้นสุดของการกระทำหนึ่งก่อนที่การกระทำอื่นจะเกิดขึ้น

7.2 – โครงสร้างอดีตกาลสมบูรณ์

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ   ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + had + V3/ed S + had + not + V3/ed Had + S + V3/ed?
ตัวอย่าง She had already eaten when I arrived. (เธอกินเสร็จแล้วเมื่อฉันมาถึง) They had not visited the museum before they moved to New York. (พวกเขาไม่เคยไปที่พิพิธภัณฑ์ ก่อนที่จะย้ายไปนิวยอร์ก) Had you finished the report before the meeting? (คุณทำรายงานเสร็จก่อนประชุมแล้วหรือยัง?)

7.3 – วิธีใช้อดีตกาลสมบูรณ์

  • อธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นก่อนการกระทำอื่นในอดีต

ตัวอย่าง:

She had left before he arrived.
(เธอออกไปแล้วก่อนที่เขาจะมา)

  • อธิบายการกระทำที่เสร็จสิ้นก่อนเวลาที่กำหนดในอดีต

ตัวอย่าง:

By 8PM, they had finished their homework.
(ก่อน 8 โมงเย็น พวกเขาทำการบ้านเสร็จแล้ว)

  • อธิบายถึงประสบการณ์หรือสภาวะที่มีอยู่ก่อนเวลาหนึ่งในอดีต

ตัวอย่าง:

He had never seen such a beautiful sunset before.
(เขาไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน)

7.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาลสมบูรณ์

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้ร่วมกับอดีตกาลสมบูรณ์ ได้แก่:

  • Before + ประโยคอดีตเรียบง่าย: before he came, before they left…
  • After + ประโยคอดีตเรียบง่าย: after I had finished, after they had gone…
  • By + เวลาในอดีต: by 5 PM, by the end of the day…
  • When + ประโยคอดีตเรียบง่าย: when she arrived, when we got there…

ตัวอย่าง:

By the time we got to the theater, the movie had started. 
(เมื่อเราไปถึงโรงหนัง หนังก็เริ่มฉายแล้ว)

She had lived in Paris for five years before she moved to London. 
(เธอได้อาศัยอยู่ในปารีสเป็นเวลาห้าปีก่อนจะย้ายไปลอนดอน)

คุณก็อาจจะสนใ

8 – อดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ – Past Perfect Continuous

8.1 – นิยาม

Past Perfect Continuous ใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่เริ่มขึ้นก่อนเวลาหนึ่งหรือการกระทำอื่นในอดีต กินเวลาอย่างต่อเนื่องและอาจดำเนินต่อไปจนถึงเวลานั้น กาลนี้เน้นความต่อเนื่องและระยะเวลาของการกระทำ

8.2 – โครงสร้างอดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์

ประโยคบอกเล่า  hประโยคปฏิเสธ  ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + had + been + V-ing S + had + not + been + V-ing Had + S + been + V-ing?
ตัวอย่าง By the time the meeting ended, they had been discussing the issue for three hours. (เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง พวกเขาได้หารือเรื่องนั้นมาเป็นเวลาสามชั่วโมง) They had not been studying for long when the teacher entered the room. (พวกเขาไม่ได้เรียนหนังสือนานเมื่อครูเข้ามาในห้อง) Had you been waiting long before he called? (คุณรอนานไหมก่อนที่เขาจะโทรมา?)

8.3 – วิธีใช้อดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ – Past perfect continuous

  • อธิบายถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นก่อนเวลาหนึ่งหรือการกระทำอื่นในอดีตและดำเนินต่อไปจนถึงเวลานั้น

ตัวอย่าง:

They had been working for hours before the boss arrived. 
(พวกเขาได้ทำงานใาหลายชั่วโมงก่อนที่เจ้านายจะมาถึง)

  • อธิบายถึงการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีตและก่อให้เกิดผลหรือผลกระทบในเวลานั้น

ตัวอย่าง:

She was tired because she had been running. 
(เธอเหนื่อยเพราะเธอวิ่งมา)

  • เน้นระยะเวลาของการกระทำในอดีต

ตัวอย่าง:

We had been living in the city for ten years before we moved to the countryside.
(เราอาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลาสิบปีก่อนจะย้ายไปอยู่ชนบท)

8.4 – สิ่งชี้บอกอดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักจะใช้ร่วมกับอดีตกาลต่อเนื่องสมบูรณ์ ได้แก่ :

  • For + ระยะเวลา: for two hours, for a long time…
  • Since + เวลาที่เจาะจง: since 5 o’clock, since last month…
  • Before + ประโยคอดีตเรียบง่าย: before he came, before they left…
  • When + ประโยคอดีตเรียบง่าย: when she arrived, when we got there…

ตัวอย่าง:

She had been reading for an hour before she realized it was time to leave. 
(เธอได้อ่านหนังสือมาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะตระหนักว่าถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว)

When she arrived, they had been waiting for two hours.
(เมื่อเธอมาถึง พวกเขาได้รอมาสองชั่วโมงแล้ว)

9 – อนาคตกาล – Simple Future

9.1 – นิยาม

Simple Future Tense ใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มักใช้เพื่อพูดถึงการคาดการณ์ คำสัญญา การตัดสินใจในทันที หรือเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น

9.2 – โครงสร้างอนาคตกาล

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ  ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + will + V1 S + will + not + V1 (won’t) Will + S + V1?
ตัวอย่าง They will start the project next month. (พวกเขาจะเริ่มโครงการในเดือนหน้า) She won’t come to the party tomorrow. (เธอจะไม่มางานปาร์ตี้พรุ่งนี้) Will you call me later? (Bạn sẽ gọi cho tôi sau chứ?)(คุณจะโทรหาฉันทีหลังไหม?)

9.3 – วิธีใช้อนาคตกาล

  • อธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่าง:

I will travel to Japan next year. 
(ฉันจะไปเที่ยวญี่ปุ่นปีหน้า)

  • อธิบายถึงคำสัญญาหรือคำมั่นสัญญา

ตัวอย่าง:

I will help you with your homework. 
(ฉันจะช่วยคุณทำการบ้าน)

  • แสดงการตัดสินใจทันทีในขณะที่พูด

ตัวอย่าง:

It’s cold. I will close the window. 
(มันหนาว ฉันจะปิดหน้าต่าง)

  • อธิบายถึงการคาดการณ์หรือความคาดหวังในอนาคต

ตัวอย่าง:

She will be a great teacher. 
(เธอจะเป็นครูที่เยี่ยมยอด)

9.4 – ตัวชี้บอกอนาคตกาล

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้ร่วมกับอนาคตกาล ได้แก่:

  • Tomorrow: พรุ่งนี้
  • Next + เวลา: next week, next month, next year…
  • In + ระยะเวลา: in a few days, in a week, in two months…
  • Soon: เร็วๆนี้
  • Later: ภายหลัง

ตัวอย่าง:

I will finish my homework in an hour.
(ฉันจะทำการบ้านให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง)

He won’t go to the meeting next week.
(เขาจะไม่ไปประชุมในสัปดาห์หน้า)

12 tense - Simple Future

10 – อนาคตกาลต่อเนื่อง – Future Continuous

10.1 – นิยาม

อนาคตกาลต่อเนื่องใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่เจาะจงในอนาคตหรือเมื่อมีการกระทำอื่นเกิดขึ้นในอนาคต กาลนี้เน้นถึงความต่อเนื่องของการกระทำในอนาคต

10.2 – โครงสร้างอนาคตกาลต่อเนื่อง

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ  ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + will be + V-ing S + will not be (won’t be) + V-ing Will + S + be + V-ing?
ตัวอย่าง We will be having dinner at 7 PM. (เราจะทานอาหารเย็นเวลา 19.00 น.) She will not be attending the meeting next week. ((เธอจะไม่เข้าร่วมการประชุมในสัปดาห์หน้า) Will they be working on the project at this time tomorrow?(พวกเขาจะทำงานในโครงการพรุ่งนี้เวลานี้หรือไม่)

10.3 – วิธีใช้อนาคตกาลต่อเนื่อง

  • อธิบายการกระทำที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต

ตัวอย่าง:

At 8PM tonight, I will be watching TV.
(คืนนี้ 8 โมงฉันจะดูทีวี)

  • อธิบายถึงการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อมีการกระทำอื่นเกิดขึ้น

ตัวอย่าง:

I will be studying when you arrive.
(ฉันจะกำลังเรียนอยู่เมื่อคุณมาถึง)

  • อธิบายการกระทำสองอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกันในอนาคต

ตัวอย่าง:

While they will be traveling, we will be working.
(ขณะที่พวกเขากําลังเดินทาง เรากําลังทํางาน)

  • อธิบายแผนการหรือความตั้งใจในอนาคต 

ตัวอย่าง:

This time next week, we will be relaxing on the beach.
(เวลานี้ในสัปดาห์หน้า เราจะกำลังพักผ่อนที่ชายหาด)

10.4 – ตัวชี้บอกอนาคตกาลต่อเนื่อง

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้กับอนาคตกาลต่อเนื่อง ได้แก่:

  • At + เวลาที่แน่นอนในอนาคต: at 10 o’clock tomorrow, at 5 PM next Friday…
  • When + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: when he arrives, when they start…
  • While + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: while she is cooking, while we are waiting…
  • This time + ระยะเวลา: this time next year, this time tomorrow…

This time next year, I will be studying abroad.
(ในช่วงเวลานี้ในปีหน้า ฉันจะไปเรียนต่างประเทศ)

11 – อนาคตกาลสมบูรณ์– Future Perfect

11.1 – นิยาม

Future Perfect ใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะแล้วเสร็จก่อนเวลาอื่นหรือการกระทำอื่นในอนาคต

11.2 – โครงสร้าว

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ   ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + will have + V3/ed S + will not have (won’t have) + V3/ed Will + S + have + V3/ed?
ตัวอย่าง By the time we reach the airport, the flight will have taken off. (ตอนที่เราไปถึงสนามบิน เที่ยวบินจะขึ้นแล้ว) They will not have finished the report by the deadline. (พวกเขาจะทำรายงานไม่เสร็จก่อนกำหนดเวลา) Will you have completed the assignment before the meeting? (คุณจะทำงานให้เสร็จก่อนการประชุมหรือไม่)

11.3 – วิธีใช้ Future Perfect Tense

  • อธิบายถึงการกระทำที่จะแล้วเสร็จก่อนเวลาที่กำหนดในอนาคต

ตัวอย่าง:

By next Friday, I will have completed the project. 
(ภายในวันศุกร์หน้า ฉันจะทำโครงการเสร็จ)

  • อธิบายถึงการกระทำที่จะเสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการกระทำอื่นเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่าง:

She will have left before you arrive. 
(เธอจะออกไปก่อนที่คุณจะมาถึง)

  • อธิบายถึงการกระทำที่จะแล้วเสร็จในเวลาที่กำหนดในอนาคต

ตัวอย่าง:

By the end of this year, they will have moved into their new house. 
(ภายในสิ้นปีนี้พวกเขาจะย้ายเข้าบ้านใหม่แล้ว)

11.4 – สัตัวชี้บอกอนาคตกาลสมบูรณ์

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้กับอนาคตกาลสมบูรณ์ ได้แก่:

  • By + เวลาที่แน่นอนในอนาคต: by next month, by 5 PM tomorrow…
  • Before + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: before she comes, before they start…
  • By the time + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: by the time you arrive, by the time they finish…
  • In + ระยะเวลา: in a week, in two years…

ตัวอย่าง:

She will have graduated by next June. 
(เธอจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนมิถุนายนปีหน้า)

12 – อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง – Future Perfect Continuous

12.1. นิยาม

อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่องใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่ดำเนินต่อไปจนกระทั่งเวลาอื่นหรือการกระทำอื่นในอนาคต

12.2. โครงสร้างอนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง 

ประโยคบอกเล่า  ประโยคปฏิเสธ   ประโยคคำถาม
โครงสร้าง S + will have been + V-ing S + will not have been (won’t have been) + V-ing Will + S + have been + V-ing?
ตัวอย่าง She will have been working at the company for ten years by the end of this year.(เธอจะทำงานที่บริษัทนี้มาสิบปีแล้วในสิ้นปีนี้) He will not have been living in this city for a year by next July.(เดือนกรกฎาคมปีหน้า เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว) Will you have been working here for five years by the end of this month?(สิ้นเดือนนี้คุณจะทำงานที่นี่ครบ 5 ปีแล้วใช่ไหม?)

12.3. วิธีใช้อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง

  •  อธิบายการกระทำที่จะดำเนินต่อไปจนถึงเวลาที่กำหนดในอนาคต

ตัวอย่าง:

By next month, I will have been working at this company for five years.
(ในเดือนหน้า ฉันก็จะทำงานที่บริษัทนี้มาห้าปีแล้ว)

  • อธิบายถึงการกระทำต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นจนกระทั่งมีการกระทำอื่นเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่าง:

By the time they arrive, we will have been waiting for them for two hours.
(เมื่อพวกเขามาถึงเราจะได้รอพวกเขาอยู่สองชั่วโมง)

  • เน้นระยะเวลาและความต่อเนื่องของการกระทำในอนาคต

ตัวอย่าง:

She will have been studying for three hours by the time the class starts.
(เธอจะได้เรียนมา 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มคลาส)

12.4. ตัวชี้บอกอนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง

คำวิเศษณ์และวลีวิเศษณ์บางคำที่มักใช้กับอนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่องได้แก่:

  • By + เวลาที่แน่นอนในอนาคต: by next week, by 5 PM tomorrow…
  • By the time + ประโยคอนาคตเรียบง่าย: by the time you arrive, by the time the event starts…
  • For + ระยะเวลา: for two hours, for several years…
  • Since + เวลาที่เจาะจง: since last month, since they arrived…

ตัวอย่าง:

By next year, I will have been studying English for ten years.
(ถึงปีหน้าฉันก็จะเรียนภาษาอังกฤษมา 10 ปีแล้ว)

13 – เคล็ดลับในการจำ tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษ

13.1 – ตารางกาลภาษาอังกฤษ – สรุป

เพื่อที่จะสรุปความรู้ด้วยวิธีที่สมเหตุสมผลและเข้าใจง่ายที่สุด Engbreaking ได้รวบรวม 12 tenses ในภาษาอังกฤษไว้ในตารางต่อไปนี้:

เคล็ดลับในการจำ  tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษ

13.2 – จำคำกริยาที่ใช้ในแต่ละกาลในภาษาอังกฤษ

  • กาลที่อยู่ในปัจจุบัน กริยา และกริยาช่วยผันเป็น V1 ในตารางกริยาไม่ปกติหรือที่เรียกว่า V1
  • กาลที่อยู่อดีตใช้กริยาและกริยาช่วยผันเป็นช่อง 2 ในตารางกริยาไม่ปกติ (V2/ed)
  • กาลสมบูรณ์ กริยา และกริยาช่วยผันเป็นช่อง 3 ในตารางกริยาไม่ปกติ (V3/ed)
  • กาลอนาคตจะต้องมาพร้อมกับ will/shall

13.3 – จำโครงสร้างกาลในภาษาอังกฤษตามชื่อ

  • Simple: ง่ายดาย มีเพียงกริยาหลักเท่านั้น
  • Continuous: ต่อเนื่อง, มี “be” + กริยารูป “-ing”.
  • Perfect: สมบูรณ์, มี “have” + กริยาช่อง3
  • Perfect Continuous: สมบูรณ์ต่อเนื่อง, มี “have been” + กริยารูป “-ing”

13.4 – ปฏิบัติ และ ฝึกฝน tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษ

  • จดโครงสร้างและตัวอย่างสำหรับแต่ละกาลลงในสมุดบันทึกและทบทวนเป็นประจำ
  • ทำแบบฝึกหัดไวยากรณ์และเขียนประโยคเพื่อฝึกการใช้กาล
  • สร้าง flashcards พร้อมประโยคตัวอย่างและโครงสร้างเพื่อทบทวน
  • ใช้แอปพลิเคชันเรียนไวยากรณ์บนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อฝึกฝนได้ทุกที่ทุกเวลา
  • อ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ และเอกสารเป็นภาษาอังกฤษเพื่อดูกาลที่ใช้ในการเขียน

13.5 – วาดระยะเวลาในการใช้กาล

วาดระยะเวลาในการใช้กาลในภาษาอังกฤษจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แทนที่จะจำแค่ตัวบ่งชี้เท่านั้น

tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด

13.6 – ใช้แผนที่ความคิดเพื่อเรียนรู้กาลทั้งหมดในภาษาอังกฤษ

การใช้แผนที่ความคิด (mind map) ยังเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมาก ช่วยให้คุณจัดระบบความรู้เกี่ยวกับกาลทั้ง 12 กาลด้วยวิธีที่สมเหตุสมผล สอดคล้องกัน และเข้าใจง่ายที่สุด

ใช้แผนที่ความคิดเพื่อเรียนรู้กาลทั้งหมดในภาษาอังกฤษ

13.7 – หาศูนย์ภาษาอังกฤษเพื่อเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เลือกศูนย์ที่มีชื่อเสียง: หาศูนย์ภาษาอังกฤษที่มีครูคุณภาพและวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ
  • ดูรีวิวและความคิดเห็น: อ่านรีวิวจากนักเรียนคนก่อนเพื่อเลือกศูนย์ที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

14 – แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษพร้อมคำตอบ

แบบฝึกหัดที่ 1: ผันคำกริยา tense ทั้ง 12

ผันคำกริยาในวงเล็บด้วยกาลที่ถูกต้องในประโยคต่อไปนี้:

  1. She (write) __________ a letter when I called her.
  2. By next year, I (complete) __________ my degree.
  3. When they were children, they (play) __________ outside every day.
  4. I (not see) __________ him for ages.
  5. If he had known about the meeting, he (attend) __________ it.

คำตอบ:

  1. She was writing a letter when I called her.
  2. By next year, I will have completed my degree.
  3. When they were children, they played outside every day.
  4. I have not seen him for ages.
  5. If he had known about the meeting, he would have attended it.

แบบฝึกหัดที่ 2: กรอกข้อมูล tense ทั้ง 12 ในช่องว่าง

เติมกาลที่เหมาะสมของกริยาลงในช่องว่าง:

  1. By the time we get there, the movie (start) __________.
  2. She (never/meet) __________ his parents before the party.
  3. They (travel) __________ to Europe last summer.
  4. If I see him, I (tell) __________ him about the change.
  5. She (be) __________ a teacher for 10 years before she retired.

คำตอบ:

  1. By the time we get there, the movie will have started.
  2. She had never met his parents before the party.
  3. They traveled to Europe last summer.
  4. If I see him, I will tell him about the change.
  5. She had been a teacher for 10 years before she retired.

แบบฝึกหัดที่ 3: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

เลือกกาลที่ถูกต้องเพื่อเติมประโยคต่อไปนี้:

  1. By the time we arrived, they (finish) __________ their meal.

a) finished

b) will have finished

c) had finished

  1. I (meet) __________ him at the café last week.

a) met

b) meet

c) have met

  1. If she (study) __________ harder, she would have passed the exam.

a) studies

b) had studied

c) will study

  1. Right now, I (read) __________ a really interesting book.

a) read

b) am reading

c) have read

  1. They (be) __________ at the party when I called them.

a) were

b) are

c) had been

คำตอบ:

  1. By the time we arrived, they had finished their meal.
  2. I met him at the café last week.
  3. If she had studied harder, she would have passed the exam.
  4. Right now, I am reading a really interesting book.
  5. They were at the party when I called them.

ข้างต้นเป็นการสรุปความรู้ด้านไวยากรณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับ tense ทั้ง 12 ในภาษาอังกฤษที่ครบถ้วนที่สุด หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณรวบรวมความรู้และนำใช้กาลในการพูดและการเขียนได้อย่างถูกต้อง

หากคุณมีคำถามหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะติดต่อ Eng Breaking เพื่อรับการช่วยเหลือ!

ดูเพิ่ม:

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน

ความคิดเห็น 635 รายการ
 
  • Sudarat Manee

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Mik Jakkaphat

    เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Soda Sodaaa

    เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ

    ถูกใจ ตอบกลับ20 ชั่วโมง
  • RueThaiRut

    เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ

    ถูกใจ ตอบกลับ2 นาที
  • เจมส์ ธีรพงศ์

    มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Cat Catt

    ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Meawww Jhaa

    เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?

    ถูกใจ ตอบกลับ5 ชั่วโมง
  • Naphawan MeeJaiii

    นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!

    ถูกใจ ตอบกลับ15 นาที
  • GotCha

    ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ป๋อง ฤทธิเดช

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ดวงใจ มาเต็ม

    เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • หนูน้อย หมวกแดง

    เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *