Say, tell, speak, talk มีความหมายเกี่ยบข้องกับเรื่อง “การพูด” โดยรวมและเป็นกริยาในภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่จะมีการใช้ในบริบทที่ไม่เหมือนกันบ้าง และวิธีการใช้ say tell speak talk ต่างกันอย่างไร วันนี้ Eng Breaking จะมารวมความรู้เกี่ยวกับการใช้ของคำเหล่านี้ พร้อมแบบฝึกหัดเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่าง say tell speak talk กันนะคะ
1 – วิธีการใช้ Say tell speak talk แตกต่างกันอย่างไร
เพื่อเข้าใจความแตกต่างในการใช้ say tell speak talk ในภาษาอังกฤษ ก่อนอื่นเราต้องเรียนรู้กันว่าคำเหล่านี้มีความหมายอะไร สามารถใช้ได้ในกรณีอะไรบ้าง
วิธีการใช้ Say
คำกริยา “Say” ออกเสียงว่า /seɪ/ (มีรูปแบบกริยาช่องที่ 2 และช่องที่ 3 คือ said) ซึ่งนิยมใช้กับความหมายคือ “พูด” เพื่อเน้นว่า ใครพูดอะไรโดยข้อความหลัง Say ถ้าใส่เครื่องหมายคำพูดหมายความว่า เราถอดคำพูดของอีกบุคคลหนึ่งมาพูด แต่ถ้าไม่ใส่เครื่องหมายคำพูดแสดงว่า เราดัดแปลงคำพูดของผู้อื่นมาพูด
ตัวอย่างเช่น:
- He said: “No, I will not come with you”.
(เขาพูดว่า: “ไม่ ผมจะไม่มากับคุณ”)
He said no and that he would not come with me.
(เขาปฏิเสธและพูดว่าเขาจะไม่มากับผม.)
ส่วนใหญ่ Say จะใช้โดยไม่มีกรรมที่เป็นคน ถ้าต้องการใช้กรรมที่เป็นคน หลัง Say ต้องตามด้วยคำบุพบท ‘to’ เพื่อเข้าใจได้ง่ายเราสามารถดูตัวอย่างดังต่อไปนี้
- She said that she was teaching English online.
= เธอบอกว่าเธอสอนภาษาอังกฤษออนไลน์
- John said to us that he was sorry.
= จอห์นบอกพวกเราว่าเขาเสียใจ
ส่วนที่ตามหลัง “say” มักจะเป็นประโยคโดยตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งรายงานสิ่งที่ใครสักคนได้พูดหรือกล่าวถึง
วิธีการใช้ Tell
“Tell” ออกเสียงว่า /tel/ ((มีรูปแบบกริยาช่องที่ 2 และช่องที่ 3 คือ told) สามารถแปลได้ว่า “บอก” โดยคำว่า Tell ใช้ในการให้ข้อมูลแก่ใครบางคนด้วยการพูดหรือเขียน
หลังจากกริยา “tell” มักจะมีกรรมทั้งสองประเภท กรรมเป็นคน กรรมเป็นสิ่งของตามหลังด้วย
เรามีตัวอย่างประโยค:
- He told me the truth.
= เขาบอกความจริงกับผม
Tell ใช้ในความหมาย สั่งสอน ให้ความรู้ หรือ บอกให้รู้ แจ้งให้ทราบ เท่านั้น ในประโยคมักจะใช้ question words ด้วย wh- (when, where, what…)
ตัวอย่างเช่น:
- Please tell me what happened.
= ได้โปรดบอกกับฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น
- I forget to tell her when the festival starts.
= ผมลืมบอกกับเธอว่าเมื่อไรเทศกาลจะเริ่ม
นอกจากนั้น Tell ก็ได้ใช้เพื่อบอกบางคนให้ทำบางสิ่งบางอย่าง ในโครงสร้าง tell someone to do something เช่น
ตัวอย่างเช่น
- The dentist told him to brush his teeth regularly.
= ทันตแพทย์บอกให้เขาต้องแปรงฟันเป็นประจำ
เมื่อใช้ tell จำเป็นต้องมีกรรมตามหลัง
ตัวอย่างเช่น:
- My mother told us to do the homework.
= คุณแม่บอกให้พวกเราไปทำการบ้าน
วิธีการใช้ Speak
“Speak” ออกเสียงว่า /spiːk/ (มีรูปกริยาช่องที่ 2 คือ spoke และรูปกริยาช่องที่ 3 คือ spoken) โดย Speak จะใช้ในการสื่อสารทางเดียว (One-way communication) และใช้ในการแลกเปลี่ยนเรื่องที่ค่อนข้างจริงจัง หรือสถานการณ์ที่เป็นทางการ
ตัวอย่างเช่น:
- Can I speak to the manager please?
= รบกวนให้ผมคุยกับผู้จัดการได้ไหมครับ ?
- The Prime Minister speaks in the Government House.
= นายกรัฐมนตรีแถลงการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนั้น Speak ยังได้ใช้เหมือนเป็นคำทั่วไปที่ใช้พูดถึงเรื่องความรู้และใช้ในเรื่องของภาษา
ตัวอย่างเช่น:
- I can’t speak Thai although I have been in Thailand for 5 years.
= ผมพูดภาษาไทย แม้กระทั่งผมได้อยู่ไทยมา 5 ปี
- I can speak 3 languages such as English, Thai and Korean
= ฉันสามารถพูดได้ 3 ภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาเกาหลี
ถ้ามีกรรมเป็นคน จะต้องมีคำบุพบทตามหลัง speak ด้วย
ตัวอย่างเช่น:
- She spoke with him for an hour.
= เธอพูดกับเขาเป็นชั่วโมง
- I’ll speak to him about the matter.
= ฉันจะพูดกับเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
บางทีหลัง “speak” จะสามารถใช้กับคำเหล่านี้ the truth, truth, human…โดยไม่ต้องมีกรรมตามหลัง
ตัวอย่างเช่น:
- Speaking truth to power is such a difficult task.
= การพูดความจริงกับคนที่มีอำนาจเป็นสิ่งที่ยากมาก
วิธีการใช้ Talk
“Talk” ออกเสียงว่า /tɔːk/ (มีรูปกริยาช่องที่ 2 และช่องที่ 3 คือ talked) เป็นคำกริยาที่หมายความว่า “คุย”, “พูดคุย”โดย talk มัก ใช้ในการพูดเกี่ยวกับหัวข้อทั่ว ๆ ไป
หรือเป็นคำพื้นฐานที่พูดถึงการสนทนาแลกเปลี่ยน หรือการสื่อสารกันอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเรามีตัวอย่างดังต่อไปนี้
- Marshall talked to Susie yesterday.
= Marshall ได้คุยกับ Susie เมื่อวานนี้.
- They talk about climate change.
= พวกเขาพูดถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- We talked with the police about the robbery.
= เราคุยกับตำรวจเรื่องการโจรกรรม
คุณก็อาจจะสนใจ:
- วิธีแนะนำตัวเองด้วยภาษาอังกฤษ เรียบง่าย ไม่ซ้ำใคร และเป็นแบบอย่างที่ดี
- คำพูด ภาษาอังกฤษที่ดี มีความหมาย ที่คุณกำลังมองหา
2 – รูปประโยคหรือวลีภาษาอังกฤษกับการใช้ say tell speak talk
ต่อไปนี้ Eng Breaking จะแนะนำให้คุณ รูปประโยคหรือวลีภาษาอังกฤษที่พบบ่อยกับการใช้ say tell speak talk. คุณสามารถเก็บไว้เพื่อแยกวิธีการใช้ tell speak talk ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องนะคะ
รูปประโยคกับ say
Say something: พูดอะไรบางอย่าง
- Please say something
= พูดอะไรหน่อยสิ
Say something to somebody: พูดอะไรบางอย่างกับใครบางคน
- Jane said she was studying Korean to Annie.
= เจนพูดกับแอนนี่ว่าเธอกำลังเรียนภาษาเกาหลี
Say something about: พูดอะไรเกี่ยวกับ
- Fran must have said something about me to you.
= ฟรานคงได้พูดบางอย่างเกี่ยวกับฉันกับคุณ
Needless to say: ไม่ต้องพูด
- He sent her 1000 roses! He is, needless to say, crazy in love.
= เขาส่งดอกกุหลาบ 1,000 ดอกให้เธอ! จำเป็นต้องพูดเขาคลั่งไคล้ในความรัก
รูปประโยคกับ tell
Tell somebody something: บอกใครเรื่องอะไร
- I swear I told you everything.
= ฉันสาบานว่าฉันบอกเธอทุกอย่างแล้ว
Tell somebody to do something: บอกให้ใครทำอะไร
- They told us to clean the room.
= เขาบอกให้เราทำความสะอาดห้อง
Tell somebody about something: บอกให้ใครรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไร
- Did you tell Jack about the scholarship?
= คุณบอกแจ็คเกี่ยวกับทุนการศึกษาหรือยัง
รูปประโยคกับ speak
Speak to: พูดกับใคร
- I’m sorry, you can’t speak to the manager at the moment.
= ขอโทษค่ะ คุณไม่สามารถคุยกับผู้จัดการได้ในขณะนี้
Speak with: คุยกับใคร
- Speaking with a lot of students at once is tiring.
= การพูดกับนักเรียนจำนวนมากในคราวเดียวมันเหนื่อยมาก
วลีอื่น ๆ เกี่ยวกับการใช้ speak
- Speak of: พูดเกี่ยวกับอะไร
- Generally speaking: ถ้าว่าพูดทั่วไปแล้ว
- Speak for: พูดแทน
- Speak on behalf of: ในนามของ
We are speaking on behalf of the young people of Thailand.
= เราพูดในนามของเยาวชนทั่วประเทศไทย
- Speak against: พูดคัดค้าน
รูปประโยคกับ talk
Talk to somebody: คุยกับใคร
- Talk to me, I’m bored.
= คุยกับเราหน่อยสิ เรารู้สึกเบื่อ
Talk about something: คุยเกี่ยวกับเรื่องอะไร
- Talking about the pandemic is such a common thing these days.
= การพูดถึงโรคระบาดเป็นเรื่องธรรมดาในทุกวันนี้
Talk with somebody: พูดคุยกับใคร
- They are lovers, so they talk with each other almost everyday.
= เขาเป็นแฟนกัน ดังนั้นเขาคุยกันแทบจะทุกวันเลย
3 – แบบฝึกหัดการใช้ say tell speak talk ในภาษาอังกฤษ
หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่าการใช้ say tell speak talk ในภาษาอังกฤษว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไรแล้ว เราลองมาทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เพิ่งได้เรียนมาและช่วยให้เราเข้าใจและจำได้ง่ายขึ้นนะคะ
แบบฝึกหัดที่ 1: จงเติมคำ say, tell, talk, speak ในช่องว่างให้ถูกต้อง
- Don’t _____ my mother about our actions.
- Tom was waiting for a reason, but you didn’t ____ a word
- Luke ______ that he would wait for you at the restaurant
- Trang _____ them that she was going to buy a new house.
- Does she _____ Chinese?
- Come with me, Minh. We want to ______
- To ____ them the truth, I didn’t remember anything
- Did the chairman _____ at the meeting?
- Does she know how to ____ “good night” in French?
- My mother spent the whole morning _____ about her old story
- Can you_________me the way?
- Do you disagree with him! – You are___________him!
- Their legal work was__________tales by the doctor.
- These problems do not need _____________of.
- The boy ___________to them very perfectly about the task.
1. tell | 2. say | 3. said | 4. told | 5. speak |
6. talk | 7. tell | 8. speak | 9. say | 10. talking |
11. tell | 12. telling | 13. told | 14. speaking | 15. speak |
ฺแบบฝึกหัดที่ 2: จงเติมคำ say, tell, talk, speak ในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. Is it just you or was he___________nonsense in the get-together.
2. I would not _________no if you invite me, beautiful!
3. Generally_________, she is a good student.
4. Is it ___________that English is __________ all over the world.
5. Would you mind _____________more clearly, please?
6. ____________me about summer vacation then!
7. Tim ___________ goodbye to all his friends and left.
8. Needlesss _________, my boss will be off work for a minute.
9. We were_______about that problem.
10. The boys were__________off by their friends.
11. Can you_________me the time?
12. Do you agree with me! – You are___________me!
13. His illegal work was__________tales by the police.
14. That problem does not need _____________of.
15. The boy ___________to her very clearly about the task.
16. “I’ll_________!” is a way to express the agreement.
17. It’s hard __________ which is the right way leading to her house.
18. That is ____________, you are fired.
19. – The Earth moves around the Sun. – Without_________.
20. She ________her husband down.
21. Those bosses are ____________shop how to cheat customers.
22. The little girl is ______over/round her parents in order to be taken to the park.
23. It is a___________parrot.
24. There is a matter for all of us ________of.
25. He _________down to her boss.
1. talking | 2. say | 3. speaking | 4. said/ spoken | 5. speak |
6. Tell | 7. said | 8. to say | 9. told | 10. told |
11. tell | 12. telling | 13. told | 14. speaking | 15. speak |
16. say | 17. saying | 18. to say | 19. saying | 20. talk |
21. talking | 22. talking | 23. talking | 24. to talk | 25. talks |
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับบทความที่ Eng Breaking ได้แนะนำมาให้เพื่อน ๆ ทุกคนในวันนี้ หวังว่าบทความจะช่วยให้คุณแยกการใช้งานของ Say–Tell–Speak–Talk ได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย ๆ และขอให้คุณพิชิตภาษาอังกฤษได้เร็ว ๆ นี้
- ใช้ Possessive adjective / Possessive pronoun ง่ายนิดเดียว
- วิธีใช้ Used to/To get used to/To be used to พร้อมแบบฝึกหัด
- 5 นาที! เข้าใจการใช้ little a little few a few อย่างถูกต้อง
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .