เวลาเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ผู้เรียนหลายคนยังสับสนวิธีการใช้ของ Possessive adjective และ Possessive pronoun นั้นต่างกันอย่างไร
เพราะฉะนั้นเราจึงรวบรวมความรู้ต่าง ๆ เพื่อไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับหัวข้อนี้มาให้เพื่อน ๆ พร้อมแบบฝึกหัดนะคะ เรามาดูกันเลย
1 – Possessive adjective คืออะไร
Possessive Adjective คือคำคุณศัพท์ชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นคำบ่งบอกหรือแสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม และใช้เพื่อขยายความหมายของคำนาม เพราะฉะนั้นจะต้องมีคำนามตามหลังเสมอ
Possessive Adjectives หรือคำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่ my, your, our, his, her, its และ their เพื่อเข้าใจเกี่ยวกับความรู้เหล่านี้มากขึ้น เราลองมาดูตัวอย่างดังต่อไปนี้
ตัวอย่าง:
- I’m looking for her baby. (ฉันกำลังดูแลลูกของเธอ)
ในตัวอย่างนี้ “her” แปลว่า “ของเธอ” คือ Possessive Adjective คำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของ ที่นำหน้าคำนาม “baby”เพื่อบอกว่า “เด็ก” ที่สรรพนามในประโยคนี้กำลังดูแลคือ “ของเธอ”
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนภาษาอังกฤษสามารถเข้าใจการใช้ Possessive Adjective ได้ง่ายขึ้นเราจึงรวบรวมและจัดตารางตัวอย่างประโยคของ Possessive Adjective มาให้ดังนี้
Personal Pronounคำสรรพนาม | Possessive Adjectiveคำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ | ตัวอย่าง |
---|---|---|
I (ฉัน/ผม) | My (ของฉัน/ของผม) | I found Jane in my room reading my diary = ฉันเจอเจนกำลังอ่านไดอารี่ของฉันในห้อง |
You (คุณ) | Your (ของคุณ) | Your writing is impossible to read = ลายมือของคุณอ่านไม่ได้เลย |
We (เรา/พวกเรา) | Our (ของเรา/ของพวกเรา) | We moved London so that we could visit our friends more often = พวกเราย้ายไปอยู่ที่ลอนดอนเพื่อที่จะสามารถไปเยี่ยมเพื่อนได้บ่อยขึ้น |
They (เขา/พวกเขา) | Their (ของพวกเขา) | We saw some people their car had broken down = พวกเราเห็นบางคน ที่รถของพวกเขากำลังเสียอยู่ |
She (เธอ) | Her (ของเธอ) | I was delighted to get her letter last week = ฉันดีใจที่ได้รับจดหมายของเธอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว |
He (เขา) | His (ของเขา) | James has sold his car = เจมส์เพิ่งขายรถของเขาไป |
It (มัน) | Its (ของมัน) | The project is entering its final stages = โครงการกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของมัน |
ดูเพิ่ม:
2 – Possessive pronoun คืออะไร
Possessive Pronoun คือคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ ที่ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง สามารถใช้โดด ๆ ได้เลย เพราะมีการเอ่ยถึงสิ่งที่ถูกเป็นเจ้าของมาก่อนหน้านี้แล้ว หรือไม่ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นเจ้าของอะไร
เพราะฉะนั้น Possessive Pronoun จึงไม่ต้องวางคำนามไว้ด้านหลัง
โดยเราจะมีรายละเอียด Possessive Pronoun คำแปลและตัวอย่างดังต่อไปนี้
Personal Pronounคำสรรพนาม | Possessive Pronounคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ | ตัวอย่าง |
I (ฉัน/ผม) | mine (ของฉัน/ของผม) | Your book is not as interesting as mine = หนังสือของคุณไม่น่าสนใจเท่า (หนังสือ) ของฉัน |
You (คุณ) | yours (ของคุณ) | I will give you mine and you give me yours = ฉันจะให้คุณดินสอของฉันและคุณจะให้ (ดินสอ) ของคุณกับฉัน |
We (เรา/พวกเรา) | ours (ของเรา/ของพวกเรา) | This house is ours = บ้านหลังนี้เป็นของพวกเรา |
They (เขา/พวกเขา) | theirs (ของพวกเขา) | If you don’t have a car you can borrow theirs = หากคุณไม่มีรถ คุณสามารถยืมรถของพวกเขาได้ |
She (เธอ) | Hers (ของเธอ) | I can’t find my stapler so I use hers = ฉันหาที่เย็บกระดาษของฉันไม่เจอ เลยใช้ที่เย็บกระดาษของเธอ |
He (เขา) | His (ของเขา) | How can he eat my food, not his? = เขาจะกินอาหารของฉัน ไม่ใช่ของเขาได้อย่างไร |
It (มัน) | Its (ของมัน) | The dog has a life of its own = หมาก็มีชีวิตของมัน |
3 – หลักการใช้ Possessive Pronoun
สำหรับหลักการใช้ Possessive Pronoun จะมี 4 วิธีการใช้งานตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
Possessive Pronoun หรือ คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ สามารถใช้แทน วลีที่มีทั้ง possessive adjective และคำนามตามหลัง
ตัวอย่างเช่น
-
I gave my birthday card to my friends and to yours. (= your friends)
ผมให้การ์ดวันเกิดกับเพื่อนของผมและเพื่อนของคุณด้วย
-
Her shirt is white, and mine is blue. (= my shirt)
เสื้อของเธอเป็นสีขาว ส่วนเสื้อของฉันเป็นสีฟ้า
ใช้ possessive pronoun ในโครงสร้างดังต่อไปนี้
…… noun + of + possessive pronoun
ซึ่งมีความหมายว่า ……. of + possessive adjective + plural noun
ลักษณะดังกล่าวนี้เรียกว่า double possessive หรือการแสดงความเป็นเจ้าของ 2 ลักษณะโครงสร้าง คือ โครงสร้างแรกแสดงด้วยการใช้คำว่า of และโครงสร้างสอง แสดงด้วยการใช้ possessive pronoun
ตัวอย่างเช่น
-
He is a friend of mine. = He is one of my friends
แปลว่า เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งของผม
-
It was no fault of yours that we mistook the way.
แปลว่า การที่พวกเราหลงทาง มันไม่ใช่ความผิดของคุณ
คุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งของ possessive pronouns ก็คือ สามารถใช้ในการตอบคำถาม “Whose___?” ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- Man: Whose coat is this?
เสื้อนอกตัวนี้ของใคร
Woman: Mine. (= It’s my coat.)
ของดิฉันค่ะ
ใช้ต่อท้ายจดหมายเป็นแบบแผน ในกรณีนี้เราจะใช้เฉพาะ Possessive Pronounบุคคลที่ 2 ซึ่งเป็น yours เท่านั้น
ตัวอย่าง: เวลาลงท้ายจดหมาย เรามักจะเขียน
- Yours sincerely,
- Yours faithfully,
แปลว่า ขอแสดงความนับถือ
4 – ความแตกต่างระหว่าง Possessive adjective และ Possessive pronoun
Possessive adjective | Possessive pronoun | |
ความเหมือนกัน | ทั้งสองเป็นประเภทคำที่ใช้เพื่อบ่งบอกหรือแสดงความเป็นเจ้าของ | |
ความต่างกัน | Possessive adjective ต้องมีคำนามตามหลัง และมีหน้าที่เพื่อขยายความหมายของคำนามนั้น | ไม่ต้องมีคำนามตามหลัง เพราะ Possessive pronoun มีความทำหน้าที่เป็นนามวลีแล้ว |
ตัวอย่าง | Our cat and their cat are playing in the garden. = แมวของเราและแมวของพวกเขากำลังเล่นกันในสวน | Our cat and theirs are playing in the garden. = แมวของเราและแมวของพวกเขากำลังเล่นกันในสวน |
5 – ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเวลาใช้ Possessive pronoun
บางคนสับสนการใช้งานระหว่าง Possessive adjective และ Possessive pronoun
ตัวอย่างเช่น
- This is hers house => ผิด
- This is her house => ถูกต้อง
- This house is her => ผิด
- This house is hers => ถูกต้อง
หมายเหตุ: เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสนใจกับตำแหน่งของคำเพื่อพิจารณาว่าเป็น Possessive adjective หรือ Possessive pronoun
6 – Possessive adjective และ Possessive pronoun แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจการใช้งานของคำประเภทเหล่านี้มากขึ้นเราลองมาทำแบบฝึกหัดเกี่ยวกับ Possessive pronoun และ Possessive adjective แบบฝึกหัดพร้อมเฉลยกันนะคะ
แบบฝึกหัดที่ 1: เติมคำในช่องว่างโดยใช้ possessive adjective หรือ possessive pronoun ที่ถูกต้อง
1. I’ve got a watch. This is _______ watch.
2. My friends and I have got sweets. The sweets are _______.
3. Mum has got a new bag. That’s _______ bag.
4. Peter has got a kite. The kite is _________.
5. My brothers have got bikes. The bikes are __________.
6. Karen has got a dog. That’s ______ dog.
7. She has a new cat. It is __________.
8. You have a new toy. It is __________.
9. The coat belongs to me. It is __________.
10. The chair belongs to Mary. It is __________
แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำที่เหมาะสมที่สุด
1. Linda is my/mine sister
2. Look at your/yours new computer.
3. He is a friend of her/hers.
4. That car is their/theirs
5. These toys are your/yours
แบบฝึกหัดที่ 3: จงเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. Jane has already eaten ______ lunch , but I’m saving ______ until later.
2. I fixed it on______ own because there was no one there at that time.
3. We gave them______ contact, then they also gave us______contact.
4. There is a bird in our garden so I think this nest is ______
5. Congratulations on your study result. ______ is not good like that.
6. She doesn’t know much about ______ personal life but I know all about ______.
7. They must prepare_______presentation by ________.
8. There is a group of boys over there. I like ______ clothes.
9. I have visited_____ house several times but he has never come to_________
10. I don’t have many friends but they are all good friends of_____
1. my | 2. ours | 3. her | 4. his | 5. theirs |
6. her | 7. hers | 8. yours | 9. mine | 10. hers |
1. Linda is my sister
2. Look at your new computer.
3. He is a friend of hers.
4. That car is theirs
5. These toys are yours
1. Jane has already eaten her lunch, but I’m saving mine until later.
2. I fixed it on my own because there was no one there at that time.
3. We gave them our contact, then they also gave us their contact.
4. There is a bird in our garden so I think this nest is its.
5. Congratulations on your study result. Mine is not good like that.
6. She doesn’t know much about my personal life but I know all about hers.
7. They must prepare their presentation by themselves.
8. There is a group of boys over there. I like their clothes.
9. I have visited his house several times but he has never come to mine.
10. I don’t have many friends but people here are all good friends of mine.
7 – สรุป
เป็นอย่างไรบ้างกับบทความเกี่ยวกับวิธีการใช้ Possessive adjective และ Possessive pronoun พร้อมแบบฝึกหัด ที่ Eng Breaking ได้แนะนำมาให้คุณในวันนี้
หวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะไม่สับสนการใช้ Possessive adjective และ Possessive pronoun อีกต่อไปนะคะ ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนจะพิชิตภาษาอังกฤษได้อย่างสำเร็จนะคะ
อย่าลืมติดตาม Eng Breaking ไว้เจอกันในบทความหน้า
- วิธีใช้ Used to/To get used to/To be used to พร้อมแบบฝึกหัด
- 5 นาที! เข้าใจการใช้ little a little few a few อย่างถูกต้อง
- Past Simple Tense vs Present Perfect Tense ใช้ต่างกันอย่างไร
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .