สวัสดีค่า แอ๋มนะคะ หลายคนอาจจะคิดว่าเรียนแพทย์ไม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษก็ได้ แค่เก่ง ชีวะ เคมี ก็เพียงพอ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เรียนแพทย์คือต้องเก่งทุกวิชาที่สำคัญภาษาอังกฤษต้องมานะเพราะมีอยู่ทุกส่วนของการเรียนแพทย์ฯเลย ซึ่งแอ๋มก็คว้าเกรด A ในวิชาภาษาอังกฤษด้วยนะ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแอ๋มจะมีทักษะโต้ตอบภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เพื่อนๆเคยเป็นมั้ย?
เวลามีชาวต่างชาติมาถามทางหรือขอความช่วยเหลือ แม้ว่าเราจะมีคลังศัพท์มากก็ตามทีแต่ทักษะการโต้ตอบภาษาอังกฤษของเรานั่นแย่มากๆ ทำให้อ้ำอึ้งในการสนทนาจนฝรั่งบางคนถึงกับ “งงตาแตก” กันเลยทีเดียว
และแอ๋มเชื่อว่าทุกคนก็เคยประสบปัญหาเหล่านี้มาก่อนเรียนในห้องเรียนคือเซียนแกรมม่าร์มาก แต่พอมาใช้ในชีวิตจริงไม่ประสบผลสำเร็จเลย สาเหตุเป็นเพราะอะไรเพื่อนๆอยากรู้รึเปล่าน้าา?
สาเหตุที่ทำให้โต้ตอบช้าในการสนทนาภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ
-หลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษที่ไทยเน้นแค่แกรมม่าร์
-ไม่ได้เน้นให้ฝึกใช้ในสถานการณ์จริง
-ท่องศัพท์แค่พอทำข้อสอบผ่าน
-หลังเรียนจบก็คืออาจารย์หมด
เห็นมั้ยหละคะนี่เป็นสาเหตุหลักๆเลยที่ทำให้เราไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างลื่นไหล ซึ่งแอ๋มก็เคยเป็นแต่ดันมาเจอวิธีนึงที่อยากส่งต่อให้กับเพื่อนๆ
มันเป็นวิธีที่ใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลลัพธ์มากกว่าที่คิด นั่นก็คือคอร์ส Eng Breaking จาก X3English นั้นเองค่ะ จะมาช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เรียนน้อยแต่ได้ผลลัพธ์จริง อีกทั้งเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษเราอย่างก้าวกระโดดภายใน 3 เดือน
คอร์ส Eng Breaking เรียนอะไรบ้าง?
คอร์ส Eng Breaking เป็นการเรียนแแบบออนไลน์ไม่มีคอมฯ ก็สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาง่ายๆด้วยมือถือ
และเน้นไปที่การฝึกฟังฝึกพูดจากสำเนียงเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง ด้วยระบบ AI ที่คอยช่วยแก้ไขจุดบกพร่องให้เราอย่างทันท่วงที ผิดตรงไหนแก้ตรงนั้นจะทำให้เราพัฒนาได้อย่างรวดเร็วขึ้นจากคอร์สการเรียนแบบเดิมๆ
อีกทั้งมีการแทรกคำศัพท์ไว้ในบทเรียนมากมายทำให้เราจำได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องจนบันทึกเลยค่ะ คือจำได้แบบอัตโนมัต มันเริ่ดมาก ด้วยคู่มือการเรียนที่มีสีสันสะดุดตา เข้าใจง่าย ทำให้เรามีกำลังใจเรียนมากยิ่งขึ้นและออกแบบแผนปฎิบัติ
ซึ่งจะมีตารางเรียนในแต่ละวันว่าวันนี้เราต้องเรียนอะไร ทำอะไรบ้างและที่สำคัญออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละคนด้วยนะ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเรียนไม่ได้ มี 24 บทเรียนเริ่มจากง่ายๆไปถึงยากทำให้เรามีกำลังใจที่จะฝึกในทุกๆวัน
ไม่ต้อง “จดบันทึก” ด้วยสมุด เราเรียนสนทนาภาษาอังกฤษอย่างง่ายดายด้วย…มือถือ
แต่เรียนกับ Eng Breaking เป็นการเรียนออกเสียงพยางค์สุดท้ายได้ผลมากที่สุด ไม่ใช่แค่ได้ฟัง พูดภาษาอังกฤษทุกวันเท่านั้น แต่ยังได้ฝึกฝนอย่างละเอียดที่ความเร็ว 2 ระดับ : ระดับช้า และ ระดับปกติ
คอร์ส Eng Breaking เหมาะกับใครบ้าง?
-คนที่มีพื้นฐานแต่อยากโต้ตอบภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
-คนไม่มีพื้นฐานเลยแต่อยากฝึกฟังและฝึกพูดเหมือนสำเนียงเจ้าของภาษา
-คนไม่มีเวลา ต้องดูแลลูกแต่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษในคอร์ส Eng Breaking นี้แอ๋มได้ลองมาด้วยตนเองและได้ผลจริง มันคุ้มค่าสำหรับการลงทุนแค่ 1,490 บาทก็ทำให้คุณสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างก้าวกระโดดในเวลาแค่ 3 เดือน ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ มีเวลาน้อยก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป งั้นเรามาเริ่มฝีกภาษาอังกฤษกับ Eng Breaking กันเลยย
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .