Phrasal verb (กริยาวลี) เป็นหนึ่งในไวยากรณ์ที่สำคัญในภาษาอังกฤษ การใช้กริยาวลีจะช่วยให้คุณฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติและคล่องแคล่วเหมือนเจ้าของภาษา
อย่างไรก็ตามผู้เรียนภาษาอังกฤษหลายคนยังสงสัยว่า phrasal verbs คืออะไร และวิธีการเรียนรู้ phrasal verbs อย่างไรให้ได้ผล
ดังนั้นในบทความวันนี้ Eng Breaking จึงมาอธิบายเกี่ยวกับกริยาวลีในภาษาอังกฤษ พร้อม phrasal verb ตัวอย่างประโยคที่น่ารู้มาให้ทุกคน เรามาดูกันเลย
A – กริยาวลี หรือ Phrasal verb คืออะไร
Phrasal verbs หรือภาษาไทยเรียกว่า กริยาวลี คือกลุ่มคำกริยาที่มีสองคำขึ้นไป โดยประกอบด้วยคำกริยา (verb) และคำบุพบท (preposition)
คำบุพบท (preposition) เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของ phrasal verb เพื่อทำให้กริยาวลีมีความหมาย คำบุพบทที่มักจะเจอบ่อยใน phrasal verb ได้แก่ around, at, away, down, in, off, on, out, over, round, up
เมื่อสองคำรวมกันแล้วจะเป็น Phrasal verbs และความหมายของมันมักจะเปลี่ยนไปจากความหมายของคำเดิม และเมื่อคำกริยารวมกับคำบุพบทต่าง ๆ ก็จะสร้างกริยาวลีต่าง ๆ ที่แสดงความหมายไม่เหมือนกันอีกด้วย
ตัวอย่าง:
- give up แปลว่า เลิก, หยุด (เราไม่สามารถแปลแบบตรง ๆ ได้ อย่างเช่น give แปลว่า ให้ และ up แปลว่า ขึ้น แล้วคำนี้นำมารวมกันแปลว่า “ให้ขึ้น” ได้)
- come across แปลว่า พบโดยบังเอิญ (come = มา, across = ข้าม)
เรามีตัวอย่าง Phrasal verbs อื่น ๆ เช่น
- call off: ยกเลิก
- get up: ตื่นนอน
- come across: พบโดยบังเอิญ
- look up: ค้นหา
ดูเพิ่ม:
- ตาราง Irregular Verbs ในภาษาอังกฤษที่แม่นยำและครบถ้วนที่สุด
- Past Simple Tense vs Present Perfect Tense ใช้ต่างกันอย่างไร
B – วิธีการใช้ phrasal verb หรือ กริยาวลี
1 – Transitive/Intransitive Phrasal Verb ใช้ต่างกันอย่างไร
Transitive phrasal verbs คือ กริยาวลีที่จำเป็นต้องมีกรรม (objects) มารองรับเพื่อสื่อความหมายของประโยคอย่างสมบูรณ์
Phrasal verb ตัวอย่างประโยค เช่น
-
Please fill in your information here.
= กรุณากรอกข้อมูลของคุณที่นี่
-
Chatichai has always looked down on me.
= ชาติชายมักจะดูถูกฉันอยู่เสมอ
-
I just broke up with my boyfriend last week.
= ฉันเพิ่งจะเลิกคบกับแฟนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
Intransitive phrasal verbs คือ กริยาวลีที่ถึงไม่ต้องมีกรรม (objects) มารองรับ ความหมายของประโยคก็ยังสมบูรณ์ได้
Phrasal verb ตัวอย่างประโยค เช่น
-
We broke up two years ago.
= เราเลิกกันได้สองปีแล้ว
-
We have no choice but to carry on.
= เราไม่มีทางเลือกนอกจากดำเนินการต่อ
2 – Separable verbs และ Inseparable verbs
Separable verbs คือ กริยาวลีที่สามารถแยก verb กับ preposition ออกจากกันได้โดยการแทรกด้วยคำอื่นที่ทำหน้าที่เป็นกรรม (object) โดย object สามารถวางอยู่ในประโยคได้สองตำแหน่ง
ตัวอย่าง:
-
You must take off your shoes before entering the room.
สามารถเขียนได้ว่า You must take your shoes off before entering the room.
- Please turn off the light. หรือ Please turn the light off.
- You can try on the shirt. หรือ You can try the shirt on.
หมายเหตุ:
- ในกรณีที่กรรมเป็นคำสรรพนาม (pronoun) อย่างเช่น him, her, us, them, it, me, you, etc จะต้องวางไว้หน้าคำบุพบทเสมอ เช่น
- ถ้าหากว่า กรรม (objective) เป็นกลุ่มคำที่เป็นยาว ๆ จะไม่สามารถวางไว้หน้าบุพบทได้ และเราจะต้องวางไว้หลังกริยาวลี Phrasal verbs เสมอ
Inseparable verbs คือกริยาวลีที่ไม่สามารถแยก verb กับ preposition ออกจากกันได้ ต้องวางกรรมไว้หลังสุด
ตัวอย่างประโยค Phrasal verb
-
We are about to run out of money.
= พวกเรากำลังจะไม่มีเงิน
-
I can’t put up with that noise any longer.
= ฉันทนกับเสียงที่ดังอย่างนั้นต่อไปไม่ได้แล้ว
ดูเพิ่ม:
C – รวบรวม 150 Phrasal verbs กริยาวลีที่น่ารู้
กริยาวลี Phrasal verb | ความหมาย | ตัวอย่าง |
ask someone out | ชวนไปข้างนออก (มักมีความหมายถึงการออกไปเดต) | Charlie asked July out for dinner last weekend |
add up to something | รวมทั้งหมดได้… | Your bills add up to ฿15990 |
back someone up | สนับสนุน | My husband backed me up over my decision to quit my job. |
blow something up | เป่าลม | You have to blow 50 balloons up for the Halloween party. |
break down | พัง/เสีย | Our car broke down on the freeway. |
break down | เครียด/ใจเสีย | The woman broke down when the police told her that her son had died. |
break in | บุกรุก | Somebody broke in my apartment last night and stole my laptop |
break into something | บุกเข้าไป (มักใช้กำลังพังประตู/หน้าต่าง) | The firemen had to break into the room to rescue the children. |
break up | จบความสัมพันธ์ (เลิกคบใคร) | My boyfriend and I broke up one month ago |
break out | หนี | They broke out of prison and fled the country. |
break out in something | เกิดอาการ…/เกิด… (บางอย่างขึ้น ใช้กับอาการทางผิวหนัง) | Tammy broke out in a rash after eating some strawberries. |
bring someone down | ทำให้รู้สึกไม่มีความสุข/ทำให้ซึมเศร้า | This sad music is bringing me down. |
bring someone up | เลี้ยงดู(บุตรหลาน) | Josh’s grandparents brought him up after his parents passed away. |
call someone back | โทรกลับหา… | She said she’d call back later to pick up the report. |
call something off | ยกเลิก | The game was called off because of bad weather. |
call on someone | ไปเยี่ยม/มาเยี่ยม | We called on you last night but you weren’t home. |
call someone up | โทรหา | Give me your phone number and I will call you up when we are in town. |
calm down | ทำให้ใจเย็นลง | Chatichai took a few deep breaths to calm himself down. |
Come about | เกิดขึ้น | Can you tell me how the accident came about? |
catch up | ไปถึง/ไปทัน จุดที่คนอื่นอยู่ | You’ll have to run faster so you can catch up with Mike |
check in | มาถึงและลงทะเบียนเข้าพักโรงแรม | Check in and get your room key at the lobby |
check out | ลงทะเบียนออกจากโรงแรม | You have to check out of the hotel before 11:00 AM. |
check out someone/something | ดู…สิ (ใช้แบบไม่เป็นทางการ) | Check out my new article! |
cheer someone up | ทำ…ให้ร่าเริง/ทำ…ให้มีความสุข | I brought you some flowers tocheer you up. |
chip in | ช่วยเหลือ | I’ll start and you can all chip in with your comments. |
clean something up | ทำความสะอาด/จัดให้เรียบร้อย | Please clean up your bedroom before I go home |
come across something | พบโดยบังเอิญ | I came across these old photos when I was tidying the closet. |
come from somewhere | มาจาก… | He’s American but his family comes from Ireland. |
count on someone/something | เชื่อใจให้…/ไว้ใจให้…/พึ่งพา…ได้ | Few people can count on having a job for life |
cut back on something | บริโภค…น้อยลง/ลด…ให้น้อยลง | My doctor wants me to cut back on sweets and fatty foods. |
cut in | แทรก/แซง (รถแซงแบบปาดหน้ากระชั้นชิด) | The bus driver got angry when that car cut in. |
cut something off | ตัด…(หยุดการให้บริการ) | The phone company cut off our phone because we didn’t pay the bill. |
cut something out | ตัดบางอย่างออก (มักใช้ในกรณีกรรไกรตัดกระดาษ) | I cut this ad out of the newspaper. |
do something over | ทำ…อีกครั้ง/ทำ…ซ้ำ | My teacher wants me to do my essay over |
do away with something | กำจัด | It’s time to do away with all of these old tax records. |
dress up | แต่งตัว(ให้ดี/ให้สวย/ให้ดูดี) | It’s a fancy restaurant so we have to dress up. |
drop in/by/over | แวะมา…/มาโดยไม่ได้นัด… | I might drop in/by/over for tea sometimes this week. |
drop someone/something off | ไปส่ง/มาส่ง…(คนหรือสิ่งของ)… | I have to drop my sister off at work before I come over. |
drop out | เลิกเรียน, ออกจากเรียน | Why’d you drop out of school, Jerry? |
eat out | รับประทานอาหารนอกบ้าน | I don’t feel like cooking tonight. Let’s eat out. |
end up | ในที่สุดก็ตัดสินใจ/มาถึง/ทำบางสิ่งได้สักที | I ended up doing all the work myself. |
fall apart | แตกเป็นเสี่ยง ๆ/แตกเป็นชิ้น ๆ | My new dress fell apart in the washing machine. |
fall down | ตกพื้น | The picture that you hung up last night fell down this morning. |
fall out | ร่วงหล่น | The money must have fallen out of my pocket. |
figure something out | เข้าใจ…/หาคำตอบของ…ได้/รู้ว่า…ได้/แก้ไข…(โจทย์/ปัญหา/ปริศนา)…ได้ | I’m trying to figure out a way to make this work. |
fill something in | กรอกข้อมูลลงแบบฟอร์ม/เอกสาร (แบบอังกฤษ) | Please fill in the form with your name, address, and phone number. |
fill something out | กรอกข้อมูลลงแบบฟอร์ม/เอกสาร (แบบอเมริกัน) | The form must be filled out in capital letters. |
fill something up | เติม | I need to fill up with petrol before we go. |
find out | คิดออก/รู้/เจอ/พบคำตอบ | We don’t know where he lives. How can we find out? |
get along/on | ชอบกัน/เข้ากันได้ | I was surprised how well my new girlfriend and my sister got along. |
get away | ไม่อยู่/ไปเที่ยว (มักใช้กับการไปเที่ยวในวันหยุด) | We worked so hard this year that we had to get away for a week. |
get back | กลับมา (จากสถานที่ต่าง ๆ)/กลับบ้าน | We got back from our vacation last week. |
get back into something | กลับมาสนใจ…อีกครั้ง | I finally got back into my novel and finished it. |
get on something | ขึ้น (รถไฟ/รถประจำทาง) | We’re going to freeze out here if you don’t let us get on the bus. |
get over something | ฟื้นฟูจาก…(โรค)…/หายจาก…(อาการ)… | I just got over the flu and now my sister has it. |
get together | เจอกัน (พบปะสังสรรค์) | Let’s get together for a BBQ this weekend. |
get up | ตื่นนอน | I got up early today to study for my exam. |
give something away | แจก… | The library was giving away old books on Friday. |
give in | ยอมแพ้ (การต่อสู้/การโต้เถียง) | My boyfriend didn’t want to go to the ballet, but he finally gave in. |
give something up | เลิก… | I am giving up smoking as of January 1st. |
give up | ยอมแพ้/ล้มเลิกความพยายาม | My math homework was too difficult so I gave up. |
go after someone | ติดตาม/ตาม | My brother tried to go after the thief in his car. |
go after something | ตาม… (ตามฝัน/ตามเป้าหมาย/ทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย) | I went after my dream and now I am a published writer. |
go against someone | แข่งขัน/คัดค้าน | We are going against the best soccer team in the city tonight. |
go ahead | เริ่ม/ดำเนินการ | Please go ahead and eat before the food gets cold. |
go back | กลับ (ไปยัง)… | I have to go back home and get my lunch. |
go out | ออกไปข้างนอก | We’re going out for dinner tonight. |
go out with someone | ออกเดต | Jesse has been going out with Luke since they met last winter. |
go over something | ตรวจทาน/ตรวจดูอีกครั้ง | Please go over your answers before you submit your test. |
go over | ไปเยี่ยม | I haven’t seen Tina for a long time. I think I’ll go over for an hour or two. |
go without something | ขาด…/ไม่มี… (สิ่งที่ควรมี) | When I was young, we went without winter boots. |
grow apart | เติบโตไปคนละทิศละทาง (แยกย้ายจากกันเมื่อโตขึ้น) | My best friend and I grew apart after she changed schools. |
grow back | งอกใหม่ | My roses grew back this summer. |
grow up | เติบโต | When Top grows up he wants to be a fireman. |
grow out of something | โตขึ้น/ขยายขึ้น (เกินขนาดเดิม) | Elizabeth needs a new pair of shoes because she has grown out of her old ones. |
grow into something | โตพอดีกับ/ขยายพอดีกับ… | This bike is too big for him now, but he should grow into it by next year. |
hand something down | ส่งต่อ… (มอบของที่ใช้แล้วให้คนอื่นใช้ต่อ) | I handed my old comic books down to my little cousin. |
hand something in | ส่ง… (ส่งงานที่ได้รับมอบหมาย) | I have to hand in my essay by Friday. |
hand something over | ให้… (มักใช้ในกรณีไม่เต็มใจ) | They handed the weapons over to the police. |
hang in | อดทนไว้… (คำไม่เป็นทางการ) | Hang in there. I’m sure you’ll find a job very soon. |
hang on | รอสักครู่ (คำไม่เป็นทางการ) | Hang on while I grab my coat and shoes! |
hang out | ใช้เวลาผ่อนคลาย/ใช้เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ | Who is he hanging out with these days? |
hang up | วางสาย | After I hung up I remembered what I’d wanted to say |
hold someone/something back | ป้องกันไม่ให้…(กระทำบางอย่าง) | I had to hold my dog back because there was a cat in the park. |
hold something back | ซ่อน…ไว้ (ซ่อนความรู้สึก) | Jane held back his tears at his grandfather’s funeral. |
hold on | รอสักครู่ | Please hold on while I transfer you to the Customer Service |
hold onto someone/something | จับ…ให้มั่น (จับ…ให้แน่น) | Hold onto your hat because it’s very windy outside. |
hold someone/something up | ปล้น/จี้ | A man in a black mask held the bank up this morning. |
keep on doing something | …ต่อไป | Keep on stirring until the liquid comes to a boil. |
keep something from someone | เก็บรักษา…จาก… (เก็บรักษาบางเรื่องจากบางคนไม่ให้รู้) | We kept our relationship from our parents for two years. |
keep someone/something out | ห้าม…เข้า | Try to keep the wet dog out of the living room. |
keep something up | รักษา…ไว้ | If you keep those results up you will get into a great college. |
let someone down | ทำให้…ผิดหวัง | I need you to be on time. Don’t let me down this time. |
let someone in | อนุญาตให้…เข้ามา | Can you let the cat in before you go to school? |
look after someone/something | ดูแล | I have to look after my sick grandmother. |
look down on someone | ดูถูก | Ever since we stole that chocolate bar your dad has looked down on me. |
look for someone/something | ค้นหา… | I’m looking for a red dress for the wedding. |
look forward to something | ตั้งหน้าตั้งตาคอย… | I’m looking forward to the Christmas break. |
look into something | ตรวจสอบ | We are going to look into the price of snowboards today. |
look out | ระวัง (คำอุทาน) | Look out! That car’s going to hit you! |
look out for someone/something | ระวัง… | Don’t forget to look out for snakes on the hiking trail. |
look something over | ตรวจ/ตรวจสอบ | Can you look over my essay for spelling mistakes? |
look something up | ค้นหาข้อมูล/เบอร์โทร/ที่อยู๋ ในหนังสืออ้างอิงหรือสมุดโทรศัพท์ | We can look her phone number up on the Internet. |
look up to someone | มีความเคารพ…/ให้ความเคารพ…อย่างมาก | My little sister has always looked up to me. |
make something up | แต่งเรื่อง… /สร้างเรื่อง…/โกหก… | Lisa made up a story about why we were late. |
make up | ให้อภัยกันและกัน | We were angry last night, but we made up for breakfast. |
make someone up | แต่งหน้าให้… | My sister made me up for my birthday party. |
mix something up | ผสมปนเป…/สลับสับสน… | I think you must be mixing me up with someone else. |
pass away | ตาย | His uncle passed away last night after a long illness. |
pass out | เป็นลม | He passed out from the heat. |
pass something out | แจก | The professor passed the textbooks out before class. |
pass something up | ปฏิเสธ… | I passed up the job because I am afraid of change. |
pay someone back | ใช้หนี้แก่… | Thanks for buying my coffee. I’ll pay you back on Friday. |
pay for something | ถูกลงโทษเพราะ… | That bully will pay for being mean to my little brother. |
pick something out | เลือก | I picked out three dresses for you to try on. |
point someone/something out | ชี้… | I’ll point my boyfriend out when he runs by. |
put something down | วาง…ลง | It’s a great book. I couldn’t put it down |
put someone down | ดูหมิ่น…/ทำให้….รู้สึกแย่หรือเสียหน้า | The students put the substitute teacher down because his pants were too short. |
put something off | เลื่อน…ออกไป (เลื่อนเวลา) | We are putting off our trip until January because of the hurricane. |
put something out | ดับ | The neighbours put the fire out before the firemen arrived. |
put something together | ต่อ/ประกอบ… | I think we can put together a very strong case for the defence. |
put up with someone/something | อดทนต่อ… | I’m not going to put up with their smoking any longer. |
put something on | สวมใส่ (ใช้กับเครื่องประดับและเครื่องนุ่งห่ม) | She’s just putting on her make-up. |
run into someone/something | พบเจอโดยบังเอิญ | I ran into an old school-friend at the mall. |
run over someone/something | ชน | I accidentally ran over your bicycle in the driveway. |
set something up | จัดการ…/จัดให้…มีขึ้น | Our boss set up a meeting with the whole staff yesterday |
show off | ออกหน้า/โชว์เก่ง/แสดงออกว่าเก่ง (คนไทยเรียกโชว์ออฟ/โชว์พาว) | He’s just showing off because that girl he likes is here. |
sort something out | จัดจำแนก…/แก้ไข…(ปัญหา) | I sorted the clothes out into two piles. |
stick to something | ติดอยู่กับการทำบางสิ่ง/ยึดมั่นในการทำบางสิ่ง | I think I’ll stick to my first plan. |
switch something off | ปิด…(เครื่องใช้ไฟฟ้า) | The light’s too bright. Could you switch it off? |
switch something on | เปิด…(เครื่องใช้ไฟฟ้า) | Switch on the video camera, please. |
take after someone | เหมือน…/ตาม…/เจริญรอย… | I take after my father. We are both impatient. |
take off | เริ่มบิน/เครื่องขึ้น (ใช้กับเครื่องบิน) | My plane takes off in 15 minutes. |
take something off | ถอดออก (มักใช้กับเครื่องนุ่งห่ม) | Take off your shoes before entering the room |
take someone out | พา…ไปด้วย | My boyfriend took us out for dinner and a movie. |
throw something away | ทิ้ง/กำจัดออก | That old chair should be thrown away. |
turn something down | ปฏิเสธ… | He has been turned down for ten jobs so far. |
turn something off | ปิด…(เครื่องใช้ไฟฟ้า)… | Please turn the television off before you go to bed. |
turn something on | เปิด…(เครื่องใช้ไฟฟ้า)… | Let’s turn some lights on. It’s too dark here. |
turn something up | เพิ่ม…(เสียง)…/หรือเพิ่มความแรงของไฟหรือความร้อน | Can you turn the music up? This is my favourite song. |
turn up | ปรากฎออกมา(อย่างทันทีทันใด) | We arranged to meet at 7.30, but she never turned up. |
try something on | ลองสวมใส่… | Try on the shoes to see if they fit. |
try something out | ทดลอง…/ลองใช้… | I am going to try this new shampoo out. |
use something up | ใช้…หมด | Don’t use up all the milk – we need some for breakfast. |
wake up | ปลุก | We have to wake up early for work on Monday. |
warm up | เตรียมร่างกายก่อนออกกำลังกาย (ที่คนไทยใช้คำว่าวอร์มร่างกาย) | I always warm up by doing sit-ups before I go for a run. |
wear off | จางลง/ซีดลง/หลุดออก | The vaccine wears off after 10 years. |
work out | ประสบความสำเร็จ | Our plan worked out fine. |
ดูเพิ่ม:
- วิธีใช้ Used to – To get used to – To be used to พร้อมแบบฝึกหัด
- Modal Verb (กริยาช่วย) ฉบับที่สมบูรณ์แบบครบเครื่องทุกเรื่องที่ต้องรู้
D – เรียน Phrasal verbs อย่างไรให้ได้ผล
1 – เรียนรู้ Phrasal verb ตามบริบทหรือการสนทนา
การใช้กริยาวลีตามบริบทหรือการสนทนาจริง จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับ phrasal verbs นั้นมากขึ้น อีกทั้งยังฝึกความสามารถในการเดาความหมายของคำผ่านบริบทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นี่เป็นปัจจัยสำคัญในการทดสอบภาษาอังกฤษและในการสื่อสารด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเรียนรู้คำศัพท์ นอกจากที่เรียนรู้ความหมาย สามารถสร้างตัวอย่างประโยคตามบริบทที่ตัวเองมักจะใช้ด้วย จะช่วยจำได้ง่ายและได้นาน
2 – สร้างเรื่องราวโดยใช้กริยาวลี
อีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้และใช้ phrasal verbs คือการสร้างเรื่องราวที่ใช้กริยาวลี คุณสามารถสร้างเรื่องสั้นโดยใช้กริยาวลีบางคำหรือเขียนไดอารี่ หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคุณ การเรียนกริยาวลีจะเป็นเรื่องกล้วย ๆ แน่นอน
ตัวอย่าง: Tammy ได้สร้างเรื่องนี้เพื่อเรียนรู้กริยาวลี
“Yesterday, I ran into (พบโดยบังเอิญ) Jane, an old friend from high school. We grew apart (สวนทางกัน) but I remember nothing could come between us. We’ve never let each other down (ทำให้กันผิดหวัง). She has always stuck up (พยายาม) for me. I heard from Joe she’s still single. Maybe I should try to fix her up with (จับคู่ให้กับ) my brother”.
3 – เรียนรู้กริยาวลีตามหัวข้อ
อีกวิธีที่ดีในการเรียนรู้กริยาวลีคือการจัดระเบียบตามหัวเรื่อง คุณสามารถสร้างรายการกริยาวลีต่าง ๆ ตามหัวข้อเพื่อแสดงความรู้สึก การทำงาน หรือพูดคุยเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับบทความที่เกี่ยวกับ phrasal verb กริยาวลีในภาษาอังกฤษที่ Eng Breaking ได้แนะนำมาให้วันนี้ แม้ว่านี่จะเป็นส่วนไวยากรณ์ที่ยากและท้าทายมาก
แต่เราเชื่อว่าเคล็ดลับที่เราได้แนะนำนั้นจะช่วยให้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษของผู้เรียนทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ฝึกฝนและเรียนทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย ขอให้ทุกคนพิชิตภาษาอังกฤษได้อย่างสำเร็จกันนะคะ
ไม่พลาดกับบทความนี้:
- 5 นาที! เข้าใจการใช้ little a little few a few อย่างถูกต้อง
- 1000++ คำตรงข้ามภาษาอังกฤษ A – Z พร้อมคำแปลไทย
- วิธีใช้ May Might ในภาษาอังกฤษ
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .