สำหรับการเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ Past Simple Tense และ Present Perfect Tense เป็นสอง Tense ที่สำคัญมากและเป็นส่วนไวยากรณ์ที่ใช้บ่อยมาก แต่บ้างครั้งเราอาจจะสับสนวิธีการใช้ของสองTense นี้
และในบทความวันนี้ Eng Breaking จะช่วยให้คุณแยกแยะความแตกต่างระหว่างกาลทั้งสองเพื่อเข้าใจวิธีการใช้อย่างลึกซึ้งนะคะ เรามาดูกันเลย
1 – Past Simple Tense คืออะไรและวิธีการใช้
Past Simple Tense คือ ประโยคอดีตกาล เป็นโครงสร้างประโยคที่เราใช้เพื่อบอกเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและจบไปแล้ว สังเกตง่าย ๆ ว่ามักจะมีการระบุช่วงเวลาไว้ด้วยว่าเกิดขึ้นเมื่อไร
ตัวอย่าง:
-
She graduated from the university last year.
= เธอจบการศึกษาจากมหาลัยเมื่อปีที่แล้ว
ใช้ Past Simple Tense เพื่อบอกการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ เป็นประจำในเวลาอดีต แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว
ตัวอย่าง:
-
When I was a child, I used to go fishing with my father.
= เมื่อผมยังเป็นเด็ก ผมเคยไปตกปลากับคุณพ่อของผม (แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปตกปลากับพ่อแล้ว)
ใช้ Past Simple Tense เพื่อพูดเกี่ยวกับความจริงหรือพูดถึงสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในอดีต
ตัวอย่าง:
-
It is often said that Hernan Cortes discovered Mexico in 1519
= มีคนกล่าวไว้ว่าเอร์นัน กอร์เตสค้นพบเม็กซิโกในปี ค.ศ.1519.
รูปประโยคของ Past Simple Tense
ประโยคบอกเล่า | S. + V -ed (กริยาช่อง 2) S + was/were + Noun/Adjective/ Preposition | We went shopping yesterday. They were in Rome on their summer vacation two years ago |
ประโยคปฎิเสธ | S. + did not + V. Infinitive (กริยาช่อง 1) S + was/ were + not + Noun/Adjective/Preposition | She didn’t come to visit her mom last monthHe wasn’t at home last Monday. |
ประโยคคำถาม | Did + S + V. Infinitive (กริยาช่อง 1) Was/Were + S + Noun/Adjective/Preposition | Did you see Jane at the bank last hour? Were you sad when you didn’t get good marks? |
ประโยคคำถามด้วย Wh-Question | Wh question + did + S + V. Infinitive (กริยาช่อง 1) Wh-question + was/were + S + Noun/Adjective/Preposition | What did you do yesterday? What was the weather like last week? |
คำบอกเวลาที่ใช้บ่อยใน Past Simple Tense
โดยคำบอกเวลาเหล่านี้ก็เป็นสัญญานเพื่อแยกแยะ Past Simple Tense และ Tense อื่น ๆ
Yesterday เมื่อวาน
- yesterday afternoon ตอนบ่ายเมื่อวาน
- yesterday morning ตอนเช้าเมื่อวาน
Then แล้ว
Last + เวลา/วัน/สัปดาห์/เดือน/ฤดู/ปี (ที่แล้ว)
- last week (อาทิตย์ที่แล้ว)
- last month (เดือนที่แล้ว )
- last year ปีที่แล้ว
- last night เมื่อคืน
ตัวอย่าง:
- She got married last year. (เธอแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว)
วินาที/นาที/ชั่วโมง/วัน/สัปดาห์/เดือน/ปี + ago
- two weeks ago (สองสัปดาห์ที่ผ่านมา)
- two months ago (สองเดือนที่ผ่านมา)
- two days ago (สองวันที่ผ่านมา)
- two hours ago (สองชั่วโมงที่ผ่านมา)
ตัวอย่าง:
- I graduated from university three years ago. (ผมจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมื่อสามปีที่แล้ว.)
In + เวลาในอดิต (in 1990, in the 19th century,…)
ตัวอย่าง:
- He was born in 1996. (เขาเกิดในปี ค.ศ. 1996.)
ดูเพิ่มเติม:
2 – Present Perfect Tense คืออะไรและวิธีการใช้
Present Perfect Tense เป็น Tense ที่ใช้เพื่อบอกเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่อดีต และดำเนิน มีผลหรือยังคงสภาพจนถึงปัจจุบัน และจะต่อเนื่องไปในอนาคต
ตัวอย่าง:
-
My father has watched the football match for over one hour.
= พ่อของผมดูการแข่งฟุตบอลมาชั่วโมงกว่าแล้ว (และตอนนี้ยังดูอยู่)
-
I have taught English for a long time
= ผมได้สอนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว
Present Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และเหตุการณ์นั้นก็เพิ่งจบลงแล้วด้วย
ตัวอย่าง:
-
He’s already finished his homework.
= เขาทำการบ้านเสร็จแล้ว (เขาเพิ่งทำเสร็จไม่นาน)
-
I have just come back home.
= ฉันเพิ่งกลับมาถึงบ้าน.
Present Perfect Tense ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่ระบุเวลา โดยในกรณีนี้ จะไม่ระบุว่าเกิดขึ้นเมื่อใดอย่างชัดเจน บอกให้รู้เพียงแค่ว่าทำแล้วหรือไม่เคยทำ
-
I’ve never been to England.
= ผมไม่เคยไปอังกฤษเลย
รูปประโยคของ Present Perfect Tense
ประโยคบอกเล่า | S + have/has + V3 (กริยาช่อง 3 ) | He has been at his computer for seven hours. |
ประโยคปฎิเสธ | S + have/has + not + V3 (กริยาช่อง 3 ) | She hasn’t received any good news for a long time. |
ประโยคคำถาม | Have/Has + S + V3 (กริยาช่อง 3 ) | Have you ever been to this restaurant yet? |
ประโยคคำถามด้วย Wh Question | Wh-Question + have/has + S + V3 (กริยาช่อง 3 ) | How long have you been in Bangkok? |
คำบอกเวลาที่มักใช้บ่อยใน Present Perfect Tense
เราสามารถใช้คำบอกเวลาเหล่านี้เพื่อพื่อแยก Present Perfect Tense และ Tense อื่น ๆ ได้เลย
already (แล้ว, เสียแล้ว, อยู่แล้ว) อยู่ที่ตำแน่งก่อนกริยาช่อง 3
ตัวอย่าง:
- I have already cooked dinner. (ฉันได้ทำอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว)
yet (ยัง) ใช้ลงท้ายประโยคปฎิเสธ และประโยคคำถาม
ตัวอย่าง:
- Have you spoken to him yet? (คุณได้คุยกับเขาหรือยัง)
just (เพิ่ง) อยู่ที่ตำแน่งก่อนกริยาช่อง 3
ตัวอย่าง:
- He’s just finished his homework. (เขาเพิ่งทำการบ้านของเขาเสร็จ)
recently (ซึ่งผ่านพ้นมาเมื่อเร็วๆ นี้, เมื่อเร็วๆ นี้)
ตัวอย่าง: He has bought a new car recently. (เขาเพิ่งซื้อรถคันใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้)
ever (เคย)
ตัวอย่าง:
- Have you ever visited Paris? (คุณเคยไปปารีสหรือไม่)
never (ไม่เคย)
ตัวอย่าง:
- I have never seen a lion. (ผมไม่เคยเห็นสิงโตมาก่อนเลย)
since (ตั้งแต่, ตั้งแต่นั้นมา) + จุดเวลาที่เจาะจง
- Since 2020 (ตั้งแต่ปี 2020)
- Since last week (ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา)
- Since July (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม)
ตัวอย่าง:
- We have taught at this school since 2005. (เราสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 )
for (ระยะเวลา) + ช่วงระยะเวลา
- for a long time (เป็นเวลานาน)
- for a week (เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์)
- for a month (เป็นเวลาหนึ่งเดือน)
- for two hours (เป็นเวลาสองชั่วโมง)
ตัวอย่าง:
- She has lived here for twenty years. (เธออาศัยอยู่ที่นี่มายี่สิบปีแล้ว)
In the past/last few + เวลา (เดือน, วัน, ปี,…)
ตัวอย่าง:
- I have met a lot of people in the last few days. ผมได้พบผู้คนมากมายในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
และยังมีคำวิเศษณ์ที่ใช้ใน Present Perfect Tense ได้แก่ lately (ล่าสุด, เมื่อเร็ว ๆ นี้) so far (ล่าสุด, เมื่อเร็ว ๆ นี้) until now, up to now (จนถึงปัจจุบัน จนถึงตอนนี้)
3 – ตัวอย่างประโยคเพื่อแยกแยะวิธีการใช้ของ 2 tenses นี้
หลังจากที่เราได้แนะนำวิธีการใช้ของทั้งสอง tenses แล้วแต่เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถแยกแยะวิธีการใช้ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น สามารถดูตัวอย่างที่เราได้นำมาให้ ดังต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1:
- A: I have been to the island of Bali. (ฉันเคยไปเกาะบาหลี)
=>ไม่เน้นบอกเวลาไปถึงเกาะบาหลี
- B: When did you go there? (คุณไปที่นั่นเมื่อไร)
=> เน้น (ถาม) เวลาไปเที่ยวบาหลี
ตัวอย่างที่ 2:
-
He has lived in Madrid for two years. (เขาอาศัยอยู่ที่มาดริดมาสองปีแล้ว)
=> การกระทำที่มีผลถึงปัจจุบัน ในขณะนี้ เขายังคงอยู่ในมาดริด
-
He lived in Madrid for two years. (เขาอาศัยอยู่ในมาดริดเป็นเวลาสองปี)
=> ตอนนี้เขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่มาดริดแล้ว
เรามีรูปประโยคที่สามารถผสมผสานสอง tense นี้:
It is/has been + เวลา + since + S (+ last) + กริยาช่อง 2 |
ตัวอย่าง:
- It has been ten years since I last saw him. (ฉันเจอเขาครั้งสุดท้ายเมื่อสิบปีที่แล้ว)
S + have/has + V-ed/กริยาช่อง 3 + since + S + V-ed/กริยาช่อง 2 |
ตัวอย่าง:
- She has lived a miserable life since she married him (เธอใช้ชีวิตอย่างทนทุกข์ตั้งแต่ตอนที่เธอแต่งงานกับเขา)
เพื่อเป็นการทบทวนความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์และช่วยให้ผู้เรียนจดจำและแยกแยะวิธีการใช้ของ Past Simple Tense และ Present Perfect Tense ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเรามีแบบฝึกหัดมาให้ด้วยนะ
4 – แบบฝึกหัดเกี่ยวกับ Past Simple Tense และ Present Perfect Tense
แบบฝึกหัดที่ 1: ใส่คำกริยาในรูปแบบที่ถูกต้องโดยใช้ Present Perfect หรือ Past Simple
1. I don’t know where Lisa is. …….. you …… (see) her?
2. When I … (get) home last night, I … (be ) very tired and I … (go) straight to bed.
3. A: … (you/finish) painting the bedroom?
B: Not yet. I’ll finish it tomorrow.
4. George … (not/be) very well last week.
5. Mr.Clark … (work) in a bank for 15 years. Then he gave it up.
6. Molly lives in Dublin. She … (live) there all her life.
7. A: … (you/go) to the cinema last night?
B: Yes, but it … (be) a mistake. The film … (be) awful
8. My grandfather … (die) before I was born. I … (never/meet) him.
9. I don’t know Carol’s husband. I … (never/meet) him.
10. A: Is Martin here? B: No, he … (go) out.
A: When exactly … (he/go) out? B: About ten minutes ago.
11. A: Where do you live? B: In Boston.
A: How long … (you/live) there? B: Five years
A: Where … (you/like) before that? B : In Chicago.
A: And how long … (you/like) in Chicago? B: Two years.
- Have…seen
- got…was…went
- have you finished
- wasn’t
- worked
- has lived
- did you go…was.was
- died…never met
- have never met
- has gone
- have you lived…did you live…did you live
แบบฝึกหัดที่ 2: แบบฝึกหัด Present Perfect และ Past Simple
ใส่คำกริยาในรูปแบบที่ถูกต้องโดยใช้ present perfect หรือ past simple
- We (study)……………a very hard lesson the day before yesterday.
- We (study)…………………………………………almost every lesson in this book so far.
- We (watch)……………………..that television program.
- We (watch)…………………an interesting program on television last night.
- My wife and I………………………………….(travel) by air many times in the past
- My wife and I (travel)……………………………. to Mexico by air last summer
- I (read)………………that novel by Hemingway several times before.
- I (read)…………………….that novel again during my last vacation.
- I (have)…………………….a little trouble with my car last week.
- However, I (have)……………………. no trouble with my car since then.
1 – studied
2 – have studied
3 – watched
4 – watched
5 – travelled
6 – travelled
7 – have read
8 – read
9 – had
10 – have had
แบบฝึกหัดที่ 3: เขียนประโยคต่อไปนี้ใหม่โดยไม่เปลี่ยนความหมาย
- The last time Tom came back to his home town was 5 years ago.
=> Tom hasn’t ………………………………………………………………………………………
- He started working as a teacher 6 months ago.
=> He has ………………………………………………………………………………………………
- It has been 3 years since we first went to Japan.
=> We have ………………………………………………………………………………………………
- I last had my hair cut in June.
=> I haven’t ……………………………………………………………………………………………
- The last time we met was 2 years ago.
=> We haven’t …………………………………………………………………………………………
- It has been a long time since we last called each other.
=> We haven’t…………………………………………………………………………………………
- When did you have 10 scores in Math?
=> How long …………………………………………………………………………………………..?
- This is the first time I had such an exciting trip
=>I have never……………………………………………………………………………………………
- I haven’t seen Anna for 10 days.
=> The last………………………………………………………………………………………………….
- Today is Sunday. I haven’t taken a bath since Thursday.
=> It has been ……………………………………………………………………………………………
- Tom hasn’t come back home for 5 years.
- He has worked as a teacher for 6 months.
- We have not gone to Japan for 3 years.
- I haven’t had my hair cut since June.
- We haven’t met for 2 years.
- We haven’t called each other for a long time.
- How long have you had 10 scores in Math?
- I have never had such an exciting trip
- The last time I saw Anna was 10 days ago.
- It has been three days since I last took a bath.
เป็นอย่างไรบ้างกับบทความเกี่ยวกับวิธีการใช้ Past Simple Tense และ Present Perfect Tense ที่ Eng Breaking ได้แนะนำมาให้คุณในวันนี้
หวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะไม่สับสนอีกต่อไปนะคะ ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนจะพิชิตภาษาอังกฤษอย่างสำเร็จนะคะ
อย่าลืมติดตาม Eng Breaking ไว้เจอกันในบทความหน้า
- Phrasal verb: กริยาวลีคืออะไร และ 150 กริยาวลีที่น่ารู้ที่สุด
- หลักการเติม -ing ท้ายคำกริยาในภาษาอังกฤษ เข้าใจง่ายมาก
- ชนิดของคำในภาษาอังกฤษฉบับบสมบูรณ์พร้อมวตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .