[TOP] 10 ข้อผิดพลาดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารนี้

10 ข้อผิดพลาดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารนี้

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร – คุณกำลังเริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารหรือไม่ หรือคุณเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่เห็นว่ามันได้ผลสักที่

ตอนนี้คุณกับ Eng Breaking ลองมองย้อนกลับไปดู 10 ข้อผิดพลาดเมื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่คนปกติทำกัน

A – การกลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษ

มันไม่สำคัญว่าคุณจะสามารถเขียนภาษาอังกฤษได้, เข้าใจคำศัพท์ทุกคำ หรือ ทำแบบทดสอบทางภาษาอังกฤษได้เต็มหรือไม่ แต่การเรียนรู้ คือ การเรียน พัฒนา และใช้ภาษานั้น และสำคัญที่สุดก็คือว่าการที่จะกล้าพูดออกมานั่นเอง

ความกลัว จะทำให้การเรียนเกิดความเงียบ รู้สึกอายหรือไม่มั่นใจในการออกเสียง  และกลัวที่จะแสดงผลงานของตัวเองออกมา ซึ่งมักจะเกิดกับผู้เรียนชาวเอเชีย โดยธรรมชาติของชาวตะวันออกนั้นการรักษาหน้าตาคือ เรื่องสำคัญในสังคมของเขา 

ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะเรียนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลานานก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะกล้าพูดออกมาได้ เพราะพวกเขากลัวที่จะใช้ไวยากรณ์ผิดๆหรือออกเสียงผิดสำเนียงซึ่งทำให้เขาต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าคนอื่น

ทั้งหมดนี้คือ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการเรียนภาษาอังกฤษที่ผู้เรียนทุกคนควรจะหลีกเลี่ยง และพยายามพัฒนาตนเองให้มีทักษะทางภาษาให้ดียิ่งขึ้น  แล้วคุณจะรู้ว่าภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิดสำคัญคือคุณต้องมีความมั่นใจให้กับตัวเอง

เมื่อคุณไม่มีความกลัวคุณสามารถแสดงมันออกมาได้ดี

10 ข้อผิดพลาดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

B – ไม่หัดฟังให้มาก

ในปัจจุบันมีศูนที่สอนการฟังภาษาอังกฤษเกิดขึ้นโดยเฉพาะเด็กหรือผู้ใหญ่ ด้วยความเชื่อที่ว่าการเรียนรู้ภาษาอังกฤษต้องเริ่มต้นที่ “การเงียบ” เหมือนกับเด็กทารกที่เรียนรู้การพูดผ่านการได้ยินและการลอกเลียนแบบ 

ดังนั้นผู้ที่เรียนภาษาก็ต้องการการฝึกฝนการฟังเช่นเดียวกันกับเด็ก ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ สำเนียงและโครงสร้าง รวมถึงรูปแบบของภาษาด้วย

การฟังเป็นทักษะการสื่อสารที่เราใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน ดังนั้นมันจึงกลายเป็นเรื่องยากถ้าคุณไม่ได้เรียนที่โรงเรียนนานาชาติหรืออาศัยอยู่ในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ อะไรคือทางแก้ของปัญหานี้ให้ดีที่สุด?

หาเพลง หนังซื้อกระตูนด์ รายการโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วฟัง,ฟัง,ฟัง และฟังทุกที่ทุกเวลาฟังให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนั้นควรไปที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีคนต่างชาติเยอะเพื่อลอกเลียนแบบสำเนียงให้เหมือนที่สุด

C – พูดเร็วเกินไปเมื่อสื่อสารภาษาอังกฤษ

นี่เป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นที่สุดของผู้เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ทุกคนมักจะมีความเข้าใจว่าเวลาพูดภาษาอังกฤษกับฝรั่งต้องพูดให้เร็วๆ ไม่ค่อยมีใครรู้ว่า พูดเร็วแต่พูดไวยากรณ์ไม่ดี

การออกเสียงไม่ชัด ใช้คำศัพท์ไม่ถูก เขาก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจเราได้ เพราะฉะนั้นช้า แต่ชัวร์ค่อยๆพูดเพื่อให้คนฟังเข้าใจ

=> ดังนั้นคุณควรพูดด้วยความเร็วปานกลางและชัดเจนอย่ากลืนคำ เมื่อคุณพูดอย่างช้าๆ จะมีเวลาให้คุณสังเกตเห็นว่าควรเน้นย้ำในประเด็นสำคัญไหน 

วิธีที่ยอดเยี่ยมในการแก้ไขข้อผิดพลาดแบบคลาสสิกนี้คือเราฝึกน้ำเสียงเตือนทุกเช้าให้แก้ไขความเร็วในการพูดด้วยตนเองซึ่งปลอดภัยที่สุดและมีโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่มีความหมายและมีถูกมากที่สุดสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วด้วยการเรียนภาษาอังกฤษกับ Eng Breaking

D – เรียนรู้ไวยากรณ์ในทางที่ผิด

1 – เน้นเรียนไวยากรณ์มากเกินไป

นี่เป็นข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดที่ส่วนใหญ่ผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นกัน จากการวิเคราะพบว่าการพยายามเรียนไวยากรณ์มากเกินไปจะทำให้ทักษะการพูดเสียไป

ทำไมเป็นอย่างนั้นเหรอ เนื่องจากไวยากรณ์ภาษาอังกฤษนั้นซับซ้อนเกินกว่าจะจำได้ ในความจริงระหว่างการสนทนาจริงมักจะรวดเร็ว คุณจะไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับกฎไวยากรณ์ที่สำคัญหลายร้อยข้อ สมองซีกซ้ายของคุณไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้

สิ่งเดียวที่คุณควรทำคือเรียนรู้ไวยากรณ์โดยไม่รู้ตัวผ่านสัญชาตญาณเหมือนเด็กคนหนึ่ง

คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้โดยใช้วิธีการฟังประโยคจำนวนมากที่มีไวยากรณ์ที่ถูกต้อง และจากนั้นสมองของคุณจะเรียนรู้วิธีใช้ไวยากรณ์อย่างถูกต้องเอง

2 – คิดว่าไวยากรณ์ไม่สำคัญกับการสื่อสาร

ในทางตรงกันข้าม การปฏิเสธที่จะเรียนรู้ไวยากรณ์ก็เป็นความผิดพลาดที่พบบ่อยเช่นกัน

หากไม่จำเป็นต้องใช้ไวยากรณ์คุณก็เหมือนคนขายของ คนขัดรองเท้าที่พูด “ภาษาอังกฤษ” กับนักท่องเที่ยวหรือแม้กระทั่งระดับภาษาของเด็กอายุ 2-3 ขวบ ทุกอย่างจะไปที่ “คำหลัก” (mama, papa, pee pee,…).

หากเราต้องการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเหมือนเจ้าของภาษาเราจำเป็นต้องผ่านช่วงเรียนไวยากรณ์อย่างรวดเร็วเพื่อให้พูดได้อย่างถูกต้อง พูดถูกต้องจะช่วยให้คุณเข้าใจถูกความมายของผู้พูดและคุณก็เข้าใจเขาเช่นกัน

  • I am in love with him.
  • I was in love with him.

คุณเห็นไหม? มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างกันเล็กน้อย (am – was) แต่ความสัมพันธ์ของหญิงสาวกับ “him” จากคนรักไปสู่คนเก่า

ต้องทำอย่างไรถึงแก้ปัญหานี้ได้

กระบวนการเรียนรู้ไวยากรณ์เพื่อสื่อสารภาษาอังกฤษนั้นยากมากและต้องลงทุนทั้งเวลาและความพยายาม … แต่วิธีการบางอย่างต่อไปนี้จะช่วยให้คุณมีความก้าวหน้าได้อย่างชัดเจน:

อ่านหนังสือ นิทานสำหรับเด็ก:

ส่วนใหญ่หนังสือสำหรับค่อนข้างเข้าใจง่ายเรียบง่ายด้วยองค์ประกอบทางไวยากรณ์พื้นฐาน ได้แก่คำทั่วไปการสะกดคำนามเอกพจน์และพหูพจน์คำกริยาการผันคำง่ายๆและโครงสร้างประโยค

หนังสือไวยากรณ์จะยากมากที่จะกลืน แต่หนังสือตลกสั้นและน่ารักสำหรับเด็ก จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก

รวมการเรียนรู้คำศัพท์กับแผนการความคิด:

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว การทำแผนการความคิดด้วยลักษณะทางวิทยาศาสตร์คลาสภาษาและตรรกะจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับคุณในการจดจำทั้งคำศัพท์และไวยากรณ์ ด้วยคำศัพท์ที่เรียนรู้แต่ละคำคุณสามารถรวมประโยคคำถามในหัวข้อการสื่อสารประจำวันเพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น

ค้นหาเยอะๆและกรองให้ดี:

การเรียนรู้โดยปราศจากความสามารถในการ “ค้นคว้า” – การค้นพบด้วยตัวเอง การวิจัยไม่สามารถบรรลุผลตามที่ต้องการได้

ดังนั้นควรริเริ่มออนไลน์เพื่อค้นหาเอกสารที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพรวบรวมและสังเคราะห์รูปแบบประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ในประจำวัน ดังนั้นคุณจะไม่นิ่งเฉยหากพบหัวข้อใดๆ ในชีวิตที่ผู้บรรยายให้ไว้

E – ศึกษาเฉพาะหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษปกติ

ผู้เรียนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยหนังสือเรียนและหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษมาตรฐานที่โรงเรียนและศูนย์ ปัญหาคือการพูดภาษาอังกฤษแบบเจ้าของภาษาอาจแตกต่างจากประโยคที่ถูกต้องที่สอนในหนังสือ 

เมื่อพูดคุยกับเพื่อน คนในครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เจ้าของภาษาจะใช้ประโยคธรรมดาที่เต็มไปด้วยสำนวนวลีคงที่ คำกริยาและคำแสลง

เพราะฉะนั้นในการเรียนรู้เพื่อสื่อสารกับเจ้าของภาษาคุณไม่ใช่เรียนเพียงแค่ในหนังสือ แต่ยังต้องหาสื่อการเรียนและบทเรียนภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ หรือเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆอีกมากมาย เช่นภาพยนตร์ เพลงภาษาอังกฤษ สังเกตชีวิตประจำวันของเจ้าของภาษาเพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง

 สำคัญคือคุณต้องควบคุมอารมณ์และรักษาแรงจูงใจและพลังงานในขณะเรียน คุณต้องเป็นคนคิดบวกและมองโลกในแง่ดี

F – วิธีเรียนรู้คำศัพท์ในทางที่ผิด

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

คำศัพท์มีบทบาทสำคัญมากในทุกทักษะของการฟัง – พูด – อ่าน – เขียนเวลาเรียนภาษาอังกฤษ การมีคำศัพท์ที่หลากหลายยังเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความมั่นใจและสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว

ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงคิดว่าเพียงการฝึกฝนจำฐานคำศัพท์ที่“อลังการ”จะทำให้ความสามารถทางภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพที่คิดว่าพวกเขาเรียนรู้ได้มากแต่ความจริงไม่ได้เท่าไร

ฐานคำศัพท์ดูเหมือนจะมีมากมาย แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องพูดมันก็บินหายไปหมด ทำไมเหรอ

ฉันได้พบนักเรียนหลายคนที่เขาขยันในการเรียนรู้คำศัพท์โดยเฉพาะคำศัพท์ “วิชาการ” ที่ยากและยากที่จะได้เจอ ในขณะเดียวกันการสื่อสารภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานโดยเฉพาะและภาษาใดๆ

แต่โดยทั่วไปในชีวิตประจำวันคนเรามักใช้คำศัพท์ที่เข้าใจง่ายและง่ายต่อการแสดงออก ไม่ค่อยได้ใช้คำศัพท์ยากๆกันเลย 

มีบางคนที่เรียนรู้คำศัพท์แบบไม่ต่อเนื่องกัน เดี่ยวๆ และพยายามยัดเยียดให้ฐานคำศัพท์มากที่สุด สิ่งนี้จะทำให้คุณลืมเร็วขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

ต้องทำอย่างไรถึงแก้ปัญหานี้ได้

การสื่อสารขั้นพื้นฐานต้องการหัวข้อที่ชัดเจนเสมอ การเรียนรู้คำศัพท์ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดนี้ การเรียนรู้วลีการเรียนรู้ตามหัวข้อเราถึงจะไม่จำเป็นต้องพยายามท่องจำ แต่ต้องเจอสถานการณ์จริงเท่านั้นที่เราสามารถสะท้อนออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและถูกต้อง

ในแต่ละสัปดาห์คุณจะเลือกหัวข้อที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันของตัวเองเพื่อเรียนรู้ คุณสามารถเลือกหัวข้อที่เหมาะกับความสนใจของคุณเพื่อสร้างความตื่นเต้นมากขึ้น เช่นหัวข้อช้อปปิ้ง หัวข้ออาหาร (ไปตลาด ทานอาหารที่ร้านอาหาร) ธุรกิจหรือดูหนังต่างๆ

อย่างไรก็ตามหากคุณพบเจออาจารย์ หรือผู้สอนที่มีประสบการณ์หรือหลักสูตรการสื่อสารที่มีชื่อเสียงคุณยังควรใช้เวลาในการเรียนรู้คำศัพท์การสื่อสารตามหัวข้อต่างๆที่ได้รับการคัดเลือกและจัดเรียงตามหลักวิทยาศาสตร์

ดังนั้นความสามารถในการดูดซับถึงจะได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง อย่าลืมฝึกฝนทันทีที่เรียนหัวข้อจบให้เชี่ยวชาญ

คุณควรใช้วิธีแผนการเรียนmind-map (แผนการความคิด) ในระหว่างการเรียนรู้ของคุณเพื่อ “จดจำนาน – เข้าใจอย่างลึกซึ้ง” คำศัพท์มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

ด้วยแผนที่ความคิดคุณจะรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างชั้นเรียนระหว่างคำในหัวข้อเดียวกัน คำศัพท์สามารถพบได้ในหัวข้อต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างหัวข้อ … การเรียนรู้ 1 แต่สามารถเข้าใร 4, 5 เป็นเช่นนั้น

G – ลืมว่าการสื่อสารคือการพูดคุยไม่ใช่แค่ฟัง

มีเพื่อนหลายคนที่อายและกลัวก็เลยใช้ข้อแก้ตัวในการฝึกฟังภาษาอังกฤษเพื่อหลีกเลี่ยงการออกไปฝึกพูด ผลที่ตามมาก็คล้ายกับข้อผิดพลาดด้านบน นั่นคือคุณรับเฉพาะข้อมูล (ฟัง) แต่ไม่มีทางออกสำหรับข้อมูลนั้น (พูด)

ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกพูดน้อยลงจะทำให้ไม่มีใครช่วยแก้ไขการออกเสียงที่ผิดและไวยากรณ์ที่ผิดของคุณ

ยิ่งคุณขี้เกียจพูดมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เกิดการผิดง่ายขึ้นเท่านั้นแล้วทำให้คุณรู้สึกอายเวลาพูดออกมา แต่ถ้ายิ่งคุณทำผิดมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้นคุณก็จะยิ่งกลัวในการพูดมากขึ้นและทักษะการสื่อสารของคุณจะล่าช้า นั่นคือปัญหาโลกแตก

แล้ววิธีแก้ปัญหานี้คือ

พูด พูดแล้วก็พูด ถ้าไม่มีคนต่างชาติอยู่พูดด้วย ก็ซ้อมกับเพื่อนและญาติของคุณก่อน งานสำคัญของคุณตอนนี้คือฝึกทักษะการสื่อสารสองอย่างควบคู่กันไป แต่ยังไม่จำเป็นต้องแก้ไขการออกเสียงดังนั้นอย่ากังวลเมื่อสื่อสารกับฝรั่งหรือบุคคลใด แค่คุณได้สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษก็พอ

H – ข้อผิดพลาดในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเมื่อมีความคิดซับซ้อน:

ฟัง – แปลเป็นไทย – แปลเป็นอังกฤษ – พูด

รณาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองด้วยความคิดที่สอดคล้องกันแล้วการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณจะได้ราบรื่นขั้นตอนยุ่งยากมากใช่ไหม ฟังภาษาอังกฤษ – แปลเป็นภาษาไทย – แปลเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้งและพูดเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง

ในขณะเดียวกันคุณต้องประมวลผล 2 ภาษาแน่นอนว่าการสื่อสารของคุณจะต้องใช้เวลามากขึ้น

เพื่อให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นคุณต้องเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ให้ดีด้วยการประยุกต์ใช้และฝึกฝน

คุณจำเป็นต้องฝึกฟังและพูดบ่อยๆ ทุกวันต้องเพิ่มความซับซ้อนในการคิดและแก้ไขความถูกผิดของไวยากรณ์ให้ถูกต้อง

คุณสามารถทำประโยคเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าและปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกฝนและพัฒนานิสัยในการคิดเป็นภาษาอังกฤษ

คุณต้องฝึกนิสัยนี้ให้มากขึ้น ออกจากเขตสบายในการใช้ภาษาแม่ของคุณและทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ

เพื่อการสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนเจ้าของภาษาคุณต้องมีความคิดของเจ้าของภาษาก่อน คุณต้องพิจา

I – ไม่รักษาพลการเรียนรู้ เรียนไม่ต่อเนื่อง

เขากล่าวไว้กันว่า เมื่อคุณต้องการที่จะยอมแพ้ให้จำเหตุผลที่คุณเริ่มต้นไว้ การสูญเสียแรงจูงใจจะทำให้คุณเรียนรู้ไม่ต่อเนื่องหรือไม่อยากเรียนรู้

แก้ไขยังไงดี

เหตุผลเริ่มต้นของคุณคืออะไร? คุณต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ? อยากอยู่นั้น? เป็นแรงงานส่งออก? ท่องเที่ยว? แต่งงานกับชาวต่างชาติ?

อย่างไรก็ตาม เหตุผลนับร้อยนับพันในการเริ่มต้น และตอนนี้คุณควรรักษามันไว้ นั่นคือเป้าหมายที่คุณตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

และไม่มีวิธีอื่นแล้ว คุณต้องรักษาโมเมนนั้นไว้การเรียนรู้แล้วการเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!

หมั่นนึกถึงและเตือนตัวเองทุกวัน: ถ้าไม่เรียนจะเป็นยังไง และตั้งนาฬิกาไว้เพื่อเตือนความจำทุกวันในการเรียนภาษาอังกฤษ

พิจารณาการเรียนภาษาอังกฤษคือนิสัยไม่ใช่ความกดดัน

K – ไม่ตั้งเป้าหมายหรือตั้งเป้าหมายที่ไม่สมจริง

การที่ไม่มีเป้าหมายหรือการตั้งเป้าหมายที่ไม่สมจริงจะทำให้เราต้องเสียเงินเวลาและความพยายามเป็นจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนที่สุดโดยเขียนคำตอบสำหรับคำถามสามข้อนี้: คุณต้องการอะไร? คุณต้องการทำอะไรให้สำเร็จ? คุณต้องการสัมผัสกับอะไร?

ขั้นแรกคุณต้องประเมินความสามารถของคุณก่อนทั้งในด้านระดับการศึกษา เวลา เงื่อนไขทางการเงิน … จากนั้นกำหนดเป้าหมายตามนั้นให้เหมาะสม

ทุกเป้าหมายต้องการรากฐานที่มั่นคง วิธีการที่ชัดเจนและเป็นระบบเพื่อให้บรรลุดังนั้นหากคุณเลือกหลักสูตรเพื่อพัฒนาทักษะของคุณคุณจำเป็นต้องเข้าใจรากฐานของวิธีการของพวกเขาอย่างรอบคอบเพื่อให้ทราบถึงความน่าเชื่อถือว่าเป็นไปได้เพียงใด

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน

ความคิดเห็น 635 รายการ
 
  • Sudarat Manee

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Mik Jakkaphat

    เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Soda Sodaaa

    เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ

    ถูกใจ ตอบกลับ20 ชั่วโมง
  • RueThaiRut

    เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ

    ถูกใจ ตอบกลับ2 นาที
  • เจมส์ ธีรพงศ์

    มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Cat Catt

    ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Meawww Jhaa

    เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?

    ถูกใจ ตอบกลับ5 ชั่วโมง
  • Naphawan MeeJaiii

    นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!

    ถูกใจ ตอบกลับ15 นาที
  • GotCha

    ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ป๋อง ฤทธิเดช

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ดวงใจ มาเต็ม

    เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • หนูน้อย หมวกแดง

    เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *