เทคนิคนี้ง่ายมาก ๆ สามารถนำไปใช้ได้ง่าย ๆ และเหมาะสำหรับผู้เรียนทุกระดับ
โดยเฉพาะเมื่อ:
- คุณรู้สึกว่าชาวต่างชาติพูดเร็ว ฟังตามไม่ทัน?
- คุณรู้สึกเบื่อเพราะฟังจนปวดหัวก็ฟังไม่เข้าใจ?
- คุุณคิดว่าการฟังเพื่อความเข้าใจเป็นเรื่องยาก?
ดังนั้น นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ: 3 ขัั้นตอนง่าย ๆ ในการฝึกฟังอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการฝึกฟังภาษาอังกฤษได้ถึง 71 %!
1 – คุณไม่สามารถจำในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจได้
ตามการวิจัยของนักภาษาศาสตร์ Ts Krashen เกี่ยวกับการฝึกฟังภาษาอังกฤษ เขาได้แบ่งปันในทฤษฎีทางภาษาศาสตร์ในปี 2513 ไว้ว่า:
คุณจะฟังได้ดีเมื่อคุณเข้าใจเนื้อหาที่คุณกำลังฟังหรือกำลังได้รับ
เพราะหากคุณไม่ใช้เวลาทำในการทำเข้าใจ แม้ว่าคุณจะได้ยิน ได้ฟังมากแค่ไหน แต่คุณก็จะไม่มีการพัฒนา
สิ่งนี้นำไปสู่ปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้มากในปัจจุบัน: ประโยคภาษาอังกฤษถ้าเขียนออกมา อ่านแล้วเราจะสามารถอ่านได้อย่างเข้าใจ ในทางกลับกันเมื่อชาวต่างชาติพูดประโยคเดียวกันนี้คุณกลับไม่เข้าใจ
นี่คือปรากฏการณ์ของโรค “หูหนวกภาษาอังกฤษ”
อย่ากังวลไป เทคนิคฟังเชิงลึกด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ จะช่วยหยุดสภาวะฟังเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจและช่วยให้คุณมีทักษะการฟังภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมขึ้น อ่านต่อเลย!
2 – เทคนิคการฟังเชิงลึก: วิธีฝึกฟังภาษาอังกฤษที่ได้ผลลัพธ์เหมาะสำหรับทุกวัย
เข้าใจเนื้อหา คือองค์ประกอบสำคัญที่สุดในเทคนิคการฟังเชิงลึก
แล้วเทคนิคการฟังเชิงลึกคืออะไร?
นี่เป็นเทคนิคที่ช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดที่ผู้พูดต้องการจะสื่อสาร
แทนที่คุณจะฟังเฉย ๆ คุณจะเกิดความกระตือรือร้นในการฟัง
คุณจะฟังเรื่องราวทั้งหมด สามารถจับใจความในบทสนทนาได้ แทนที่มีบางคำศัพท์ที่คุณเคยเว้นมันไว้
- หากคุณเพิ่งเริ่มต้น นี่จะเป็นเทคนิคที่จะช่วยคุณทลายกำแพงในการฝึกฟังภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ช่วยสร้างพื้นฐานที่มั่นคงในการเรียนภาษาอังกฤษ
- หากคุณเป็นโรค “หูหนวกภาษาอังกฤษ” เทคนิคการฟังเชิงลึกจะช่วยรักษาอาการนี้ เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณหูไวและฟังเข้าใจได้ดีขึ้น
- และเมื่อเทคนิคการฟังภาษาอังกฤษอยู่ในระดับค่อนข้างดี เทคนิคนี้ก็จะช่วยพัฒนาทักษะการฟังของคุณให้ยกระดับขึ้นไปอีก
3 – 3 ขั้นตอนฝึกฟังภาษาอังกฤษง่าย ๆ ได้ผล กับเทคนิคการฟังเชิงลึก
สิ่งแรกให้เลือกบทฟังภาษาอังกฤษที่เหมาะสม
คำแนะนำในการเลือกเอกสารเมื่อฝึกฟังเชิงลึก:
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนหรือไม่รู้ภาษาอังกฤษ:
- หาและเลือกเรื่องสั้น (ฝึกฟังภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน) หรือบทสนทนา (ฝึกฟังภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร) ประมาณ 100-200 คำ
- ความยาวประมาณ 1-2 นาที ในความเร็วในการพูดระดับช้า
- บทฟังต้องมี transcript
สำหรับผู้ที่ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับปกติหรือขั้นสูง คุณเองก็สามารถใช้ชุดเอกสารที่หลากหลายมากขึ้น เช่น หนังสือเรียนสำหรับIELTS หรือ TOEIC บทฟังของ VOA หรือ BBC, audio book
คุณควรหาบทฟังที่มี 2 ระดับ (ช้าและปกติ) จะดีที่สุด เพราะคุณต้องการทำความคุ้นเคยกับการออกเสียง ความต่อเนื่องและน้ำเสียง ตั้งแต่ระดับช้าไปจนถึงระดับปกติ
นี่คือตัวอย่างaudio 2 ระดับ – บทสนทนาจากหนังสือเรียนของ Eng Breaking:
และต่อจากนี้คือรายละเอียดของ 3 ขั้นตอนสำหรับการฝึกฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นที่ 1 – ทำความคุ้นเคย
อันดับแรก คุณต้องทำความคุ้นเคยกับบทฟัง
- ฟังบทฟังประมาณ 3-5 รอบ
- ในขั้นตอนนี้คุณไม่ต้องเข้าใจเนื้อหาที่ฟังทั้งหมด
- ทำตัวสบาย ๆ เวลาฟัง ไม่ต้องซีเรียส หากฟังบางคำ บางวลีหรือบางประโยคไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะคุณต้องฟังซ้ำอีกหลายรอบอยู่แล้ว
ข้อควรระวัง:
- ในขั้นนี้เราจะไม่ใช้ transcript ไม่ใช้ดิกชั่นนารี
- ไม่แปลเป็นภาษาไทยเวลาฟัง
- ไม่กดหยุดขณะฟัง
ขั้นที่ 2 – เข้าใจ
ในการที่จะเข้าใจเนื้อหาของบทฟังคุณต้อง:
- ฟังประมาณ 2-3 รอบ พร้อมทั้งดู transcript ประกอบ
- ใช้ดิกชั่นนารีเมื่อต้องการ
- จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้: เข้าใจเนื้อหาของบทฟัง
อย่าโฟกัสไปที่การดู transcript มากนัก หากเป็นไปได้คุณควรพยายามหยุดดู transcript และจงพยายามโฟกัสไปที่การฟัง
ขั้นที่ 3 – ฟังและรู้สึก
- ฟังซ้ำไปมาและไม่ดู transcript ถ้าเป็นไปได้ให้หลับตาเพื่อจะได้มีสมาธิกับบทฟัง ฟังไปจินตนาการภาพในหัวไปด้วย ให้รู้สึกถึงเรื่องราวในบทฟังนั้น ๆ
- คราวนี้คุณเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดหรือยัง? ถ้ายังให้กลับไปที่ขั้นตอนข้างบน หากคุณเข้าใจเนื้อหาที่ฟังทั้งหมดได้แล้วก็ให้ข้ามไปที่ขั้นตอนต่อไปได้เลย
- ตอนนี้คุณจงฟังลทฟังซ้ำจนหระทั่งคุณสามารถฟังมันเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
ฟังจนเพื่อที่จะสามารถเข้าใจภาพรวมของบทฟัง ไม่ต้องไปโฟกัสที่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกระทังคุณเข้าใจ ใจความหลักของบทฟังทั้งหมด
4 – ใช้เทคนิคการฟังเชิงลึกในการฝึกฟังภาษาอังกฤษ
นี่คือรายละเอียด 3 ขั้นตอน เพื่อช่วยให้คุณสามารถวางแผนและจัดระเบียบหรือฝึกฟังภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคการฟังเชิงลึก แต่ละขั้นตอนจะระบุอย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไร ฟังอย่างไร
พร้อมด้วย audioปฏิบัติ 2 ระดับ คือ ระดับช้า (beginer speed) และระดับเจ้าของภาษา (native speed) ฟังง่ายสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนและพร้อมทั้ง transcript อังกฤษ-ไทย
ดูเพิ่มเติมที่:
-
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
I have learn this thing, but I’m not finished with this class because I can’t remember lesson 9, it made me spend so much time. And another issue, I remember the first lesson. What wrong I do?
การฝึกภาษาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดคือการพาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้น
อาจจะชวนเพื่อนหรือคนในครอบครัวเรียนด้วยกันแล้วก็ฝึกพูดกันเอง เขียนไดอารี่หรือจดโน้ตเป็นภาษาอังกฤษ เปลี่ยนภาษาในมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือเกมที่เราเล่นเป็นภาษาอังกฤษ หรือจะจดคำศัพท์ในกระดาษโน้ตแล้วแปะไว้ทั่วบ้านก็สามารถทำได้
Eng Breaking ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความคิดเห็นจากคุณ
ขอบคุณสำหรับความสนใจของคุณ 😍
คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่นะคะ https://engbreaking.co.th/sp-order-bar/