หลักการใช้ a an the หรือ article a an the เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เรียนแล้วสนุกครับ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับนักเรียนไทย เนื่องจากในภาษาไทยมันไม่มีอะไรแบบนี้เลย อยากเรียกแมวก็เรียกว่า แมว ไม่ใช่ อะ แมว หรือ เดอะ แมว
คำนำหน้าคำนาม (Article) คือ คำที่วางหน้าคำนามเพื่อบ่งชี้คำนามนั้น ๆ ว่าเป็นคำนามที่ชี้เฉพาะ หรือไม่ชี้เฉพาะ คำนำหน้าคำนามแบ่งได้สองประเภท ได้แก่
1. คำนำหน้าคำนามแบบไม่ชี้เฉพาะ (Indefinite Article)
คือ คำนำหน้าคำนามที่แสดงให้เรารู้ว่า คำนามที่ตามหลังมีจำนวนเป็นหนึ่ง คำนำหน้านามประเภทนี้ ได้แก่ a และ an
A กับ An ใช้นำหน้านามทั่ว ๆ ไป แปลว่า หนึ่งคน หนึ่งตัว หนึ่งอัน หนึ่งแห่ง หรือบางทีไม่ต้องแปลก็ได้ เป็นการกล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบลอย ๆ ไม่เจาะจงว่าคืออันไหนกันแน่ โดยมีกฎการใช้ดังนี้ คือ
- เราจะใช้ a นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ
– A bird (นกตัวหนึ่ง)
– A book (หนังสือเล่มหนึ่ง)
– A girl (เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง)
– A zoo (สวนสัตว์แห่งหนึ่ง)
– A teacher ครูหนึ่งคน
– A school โรงเรียนหนึ่งแห่ง
นอกจากนี้เรายังใช้ a นำหน้าคำนามนับได้ ที่เป็นเอกพจน์ ที่ขึ้นต้นด้วย สระ แต่ออกเสียงเป็นเสียง พยัญชนะ
– A uniform (/ˈjuːnɪfɔːrm/) (เครื่องแบบชุดหนึ่ง)
– A university (/ˌjuːnɪˈvɜːrsəti/) (มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง)
หมายเหตุ: ตัวอักษร “u” ในที่นี้ไม่ได้ออกเสียง อู แต่ออกเสียง ยู ซึ่งเป็นเสียงพยัญชนะ เลยเราจะต้องใช้คำนำหน้านามเป็น “a” ไม่ใช้ “an”
- เราจะใช้ an นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วย สระ (a e i o u)
ยกตัวอย่างเช่น:
– An apple (แอปเปิลลูกหนึ่ง)
– An egg (ไข่ฟองหนึ่ง)
– An orange (ส้มผลหนึ่ง)
– An elephant ช้างหนึ่งตัว
– An ice-cream ไอศกรีมหนึ่งแท่ง
– An umbrella (ร่มคันหนึ่ง)
- นอกจากนี้ เรายังใช้ an นำหน้าคำนาม ที่เป็นเอกพจน์ ที่ขึ้นต้นด้วย พยัญชนะ แต่ออกเสียงเป็นเสียง สระ
– An hour (ชั่วโมงหนึ่ง) – “h” ในที่นี้ไม่ได้ออกเสียง ฮะ แต่ออกเสียง อะ ซึ่งเป็นเสียงสระ
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์พิเศษอื่นๆ:
- วิธีการใช้ be able to
- วิธีใช้ IN, ON, AT ในภาษาอังกฤษ – คำแนะนำโดยละเอียด
- หลักการเติม -ing ท้ายคำกริยาในภาษาอังกฤษ เข้าใจง่ายมาก [2566]
2. คำนำหน้าคำนามแบบชี้เฉพาะ (Definite Article)
คือคำนำหน้าคำนามที่ใช้เจาะจงคำนามนั้น ๆ ว่าคือสิ่งไหน โดยใช้นำหน้าได้ทั้งคำนามนับได้ทั้งเอกพจน์ และพหูพจน์ คำนามนับไม่ได้ คำนำหน้าคำนามประเภทนี้เรียกว่า the (เดอะ) แต่ถ้านำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ หรือเสียงสระ เราจะอ่านออกเสียงว่า the (ดิ)
“The” จะใช้ในกรณีดังต่อไปนี้
- การใช้ The ให้ใช้นำหน้านามที่รู้กันดีกันทั่ว ๆ ไปว่าเป็นอันไหน เช่น
– The Sun (ดวงอาทิตย์), The Moon (ดวงจันทร์), The Earth (โลก)
– Great Wall of China เป็นกำแพงเมืองจีน มีแห่งเดียวในโลกถ้าอย่างนั้นก็เรียกว่า The Great Wall of China
– Pyramids รู้จักไหม? แน่นอนว่าทุกคนคงต้องรู้ว่ามันอยู่กลางทะเลทรายในอียิปต์ อย่างนั้นก็เรียกว่า The Pyramids
– Baiyoke Tower ตึกไบหยกที่สูง ๆ ในประเทศไทยของเราเอง จึงเรียกว่า The Baiyoke Tower
ดังนั้นสรุปได้ว่า The มักจะนำหน้าสิ่งที่รู้กันดีทั่ว ๆ ไป และจะสังเกตุได้ว่า มันมีเพียงที่เดียวในโลก
- ใช้กับคำนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์และพหูพจน์เป็นการชี้เฉพาะเจาะจงลงไปว่าคนไหน อันไหน สิ่งไหน
– The man who wrote this book is a famous person แปลว่า ผู้ชายคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียง
– I live in the small house with a blue door. แปลว่า ฉันอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่มีประตูสีฟ้า
– He is the doctor I came to see เขาเป็นหมอคนที่เราจะไปหา
มาดูกันอีกหนึ่งประโยค The dog is mine. (เดอะ ด็อก อีส มาย) แปลว่า สุนัขตัวนั้นเป็นของฉัน ดังนั้นเราจะใช้ the เพื่อชี้เฉพาะว่าเป็นสุนัขตัวไหน
- ใช้ the นำหน้าชื่อครอบครัว
อย่างเช่น:
– The Browns แปลว่า ครอบครัวตระกูล Brown
– The Lees แปลว่า ครอบครัวตระกูล Lee
– The Smiths แปลว่า ครอบครัวตระกูล Smith
- ตามปกติเราใช้ the นำหน้าชื่อหนังสือพิมพ์ เช่น
– The Nation,
– The Times,
– The Sun
- ใช้ the กับชื่อสถานที่
– ทะเล the Pacific, the Atlantic
– เทือกเขา the Himalayas, The
– แม่นํ้า the Mississippi
– ทะเลทราย the Sahara
– โรงแรม the Plaza, the Grand le Khon Kaen
– โรงหนังโรงละคร the Playhouse
– พิภิธภัณฑ์ the National Museum
– ชื่อประเทศที่มีคำว่า Republic, Kingdom, State
- ใช้ the เมื่อเราพูดโดยทั่วไปในเรื่องเครื่องดนตรี
– The piano
– I play the guitar.
- ใช้ the ก่อนคำว่า same
– Your shirt is the same color as mine. แปลว่า เสื้อของคุณสีเดียวกันกับเสื้อของผม
- ใช้ the + คำคุณศัพท์เมื่อกล่าวถึงกลุ่มบุคคลเป็นพิเศษ
– the rich คนรวย
– the sick คนป่วย
– the poor คนจน
- ใช้ the กับเวลาที่กล่าวถึงเป็นช่วง 10 ปี
ตัวอย่างเช่น:
– He was born in the seventies.
– This is a painting from the 1820’s.
- ใช้ the กับอนุประโยคที่ใช้ only
ตัวอย่างเช่น:
– This is the only day we’ve had sunshine all week.
– You are the only person he will listen to.
– The only tea I like is black tea.
หมายเหตุ : “the” จะถูกห้ามใช้ในกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ห้ามใช้ the กับชื่อประเทศ (ยกเว้น ในกรณีพิเศษที่ได้กล่าวไปแล้ว)
ตัวอย่างเช่น:
– Germany is an important economic power. แปลว่า เยอรมนีเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
– He’s just returned from Zimbabwe. แปลว่า เขาเพิ่งกลับจากซิมบับเว
- ห้ามใช้ the กับชื่อภาษา
ตัวอย่างเช่น:
– French is spoken in Tahiti. ภาษาฝรั่งเศสถูกใช้เป็นภาษาพูดในตาฮิติ
– English uses many words of Latin origin. ภาษาอังกฤษใช้คำที่มาจากภาษาละตินหลายคำ
- ห้ามใช้ the กับมื้ออาหาร
ตัวอย่างเช่น:
– Lunch is my favorite meal. มื้อเที่ยงเป็นมื้อโปรดของฉัน
– I like to eat breakfast early. ฉันชอบกินอาหารเช้า แต่เช้า
- ห้ามใช้ the กับชื่อคน
ตัวอย่างเช่น:
– John is coming over later. จอห์นจะมาในภายหลัง
– Mary Carpenter is my boss. แมรี่คาร์เพนเตอร์เป็นเจ้านายของฉัน
- ห้ามใช้ the กับชื่อตำแหน่งที่กล่าวพร้อมกับชื่อคน
ตัวอย่างเช่น:
– Prince Charles is Queen Elizabeth’s son. เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธ
– President Kennedy was assassinated in Dallas. ประธานาธิบดีเคนเนดีถูกลอบสังหารในดัลลัส
- ห้ามใช้ the หลังการแสดงความเป็นเจ้าของ
ตัวอย่างเช่น:
– His brother’s car was stolen. รถของพี่ชายเขาถูกขโมยไปแล้ว
– Peter’s house is over there. บ้านของปีเตอร์อยู่ที่ตรงโน้น
- ห้ามใช้ the กับอาชีพ
ตัวอย่างเช่น:
– Engineering is a well-paid career. แปลว่า วิศวกรเป็นอาชีพที่ได้เงินเดือนดี
– He’ll probably study medicine. แปลว่า เขาคงจะเรียนแพทย์
- ห้ามใช้ the กับชื่อร้านค้าต่าง ๆ
ตัวอย่างเช่น:
– I’ll get the card at Starbucks. ฉันจะไปรับการ์ดที่ Starbucks
– Can you go to Adidas for me? คุณช่วยแวะไปร้าน Adidas ให้เราหน่อยได้ไหม?
- ห้ามใช้ the กับปี
ตัวอย่างเช่น:
– 1948 was a wonderful year. แปลว่า ปี 1948 เป็นปีที่ยอดเยี่ยม
– He was born in 1995. แปลว่า เขาเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1995
- ห้ามใช้ the กับคำนามนับไม่ได้
ตัวอย่างเช่น:
– Rice is an important food in Asia. แปลว่า ข้าวเป็นอาหารที่สำคัญในเอเชีย
– Milk is often added to tea in England. แปลว่า ในประเทศอังกฤษมักจะเติมนมลงในถ้วยชา
– War is destructive. แปลว่า สงครามคือการทำลายล้าง
- ห้ามใช้ the กับชื่อภูเขา ทะเลสาบและเกาะ
ตัวอย่างเช่น:
– Mount McKinley is the highest mountain in Alaska. แปลว่า ยอดเขาแมคคินลีย์ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในอลาสก้า
– She lives near Lake Windermere. แปลว่า เธออาศัยอยู่ใกล้ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์
– Have you visited Long Island? แปลว่า คุณเคยไปเกาะลองไอแลนด์หรือยัง?
- ส่วนใหญ่แล้วห้ามใช้ the กับชื่อเมือง ถนน สถานีต่าง ๆ และสนามบิน
ตัวอย่างเช่น:
– Victoria Station is in the centre of London. แปลว่า สถานีวิกตอเรียอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน
– Can you direct me to Bond Street? แปลว่า คุณช่วยพาฉันไปที่ Bond Street ได้ไหม
– She lives in Florence. แปลว่า เธออาศัยอยู่ในเมืองฟลอเรนซ์
– They’re flying into Heathrow. แปลว่า พวกเขากำลังบินไปที่สนามบินฮีทโธรว์
อ่านไปแล้วก็อย่าลืมทำแบบฝึกหัดที่ Eng Breaking ได้เตรียมมาให้สำหรับคุณโดยเฉพาะด้วยนะ มันจะช่วยให้เราท่องจำหลักการใช้ของ คำนำหน้านาม ( a, an, the) ได้ง่ายขึ้นและสามารถประยุกต์ใช้ได้ทันที ลองมาดูกันว่ามีใครตอบได้ทุกข้อดังต่อไปนี้ไหม
ไม่พลาดกับบทความนี้:
- 51+ โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษรู้แล้วรอดเเน่ [2566]
- ชนิดของคำในภาษาอังกฤษฉบับบสมบูรณ์พร้อมวตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน
- จัดเต็ม! คําบุพบทภาษาอังกฤษ (Prepositions) ไวยากรณ์ที่น่ารู้
แบบฝึกหัดสำหรับ คำนำหน้านาม ( a an the)
1. We are looking for _______ place to spend ________ night.
A. the/the B. a/the C. a/a D. the/a
2. Please turn off ________ lights when you leave ________ room.
A. the/the B. a/a C. the/a D. a/the
3. We are looking for people with ________experience.
A. the B. a C. an D. x
4. Would you pass me ________ salt, please?
A. a B. the C. an D. x
5. Can you show me ________way to ________station?
A. the/the B. a/a C. the/a D. a/the
6. She has read ________interesting book.
A. a B. an C. the D. x
7. You’ll get ________shock if you touch ________ live wire with that screwdriver.
A. an/the B. x/the C. a/a D. an/the
8. Mr. Smith is ________ old customer and ________ honest man.
A. An/the B. the/an C. an/an D. the/the
9. ________ youngest boy has just started going to ________ school.
A. a/x B. x/the C. an/x D. the/x
10. Do you go to ________ prison to visit him?
A. the B. a C. x D. an
11. ________eldest boy is at ________ college.
A. a/the B. the/x C. x/ a D. an/x
12. Are you going away next week? No, ________ week after next.
A. an B. a C. the D. x
13. Would you like to hear ________ story about ________ English scientist?
A. an/the B. the/the C. a/the D. a/ an
14. There’ll always be a conflict between ________ old and ________ young.
A. the/the B. an/a C. an/the D. the/a
15. There was ________ collision at ________ corner.
A. the/a B. an/the C. a/the D. the/the
16. My mother thinks that this is ________ expensive shop.
A. the B. an C. a D. x
17. Like many women, she loves ________ parties and ________gifts.
A. the/ a B. a/the C. a/a D. x/x
18. She works seven days ________ week.
A. a B. the C. an D. x
19. My mother goes to work in ________ morning.
A. a B. x C. the D. an
20. I am on night duty. When you go to ________ bed, I go to ________ work.
A. a/x B. a/the C. the/x D. x/x
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับบทความเรื่อง คำนำหน้านาม (Article a, an the) ที่ทาง Eng Breaking ได้นำมาให้คุณในวันนี้ หากเรารู้หลักการใช้ที่ถูกต้อง ภาษาอังกฤษก็กลายเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมหมั่นทบทวนและหมั่นฝึกฝนภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำนะ Practice Makes Perfect การฝึกฝนบ่อย ๆ จะทำให้เกิดความชำนาญ ไว้ครั้งหน้าอย่าลืมมาติดตามบทความดี ๆ เกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษจาก Eng Breaking ว่ามาจะมีสาระน่ารู้ดี ๆ อะไรมาฝากกันอีก
ปล. ว่าจะบอกลาเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว แต่ลืมให้คำเฉลยสำหรับแบบฝึกหัดข้างบน
นี่เลย ไม่ต้องรอนาน
1. B 2. A 3. D 4. B 5. A
6. B 7. B 8. C 9. D 10. A
11. B 12. C 13. D 14. A 15. C
16. B 17. D 18. A 19. C 20. D
ตอบถูกได้กี่ข้อ หรือมีตรงไหนยังสงสัยก็ลองมาแชร์กับ Eng Breaking ได้เลย!!!
ดูเพิ่มเติม :
- ทั้งหมดเกี่ยวกับ Passive Voice ฉบับจัดเต็ม พร้อมอธิบายละเอียดสุดๆ!
- หลักการใช้ Verb- คำกริยาภาษาอังกฤษ ฉบับเข้าใจง่าย
- คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .