เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: 10 หัวข้อการสื่อสารขั้นพื้นฐาน

เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ – การเรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจสิ่งที่สนใจอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพร่ำเพรื่อหาความรู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมากมาย

ในบทความนี้ เราจะนำเสนอ 10 สถานการณ์ที่พบบ่อยที่สุดในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามหัวข้อการสื่อสารขั้นพื้นฐานกับ Eng Breaking นะคะ

1 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: ขอบคุณ – ขอโทษ

สไลด์สัมภาษณ์

A: What’s the matter, Mark? You look down (มีอะไรเหรอมาร์ค? คุณมองลงมา)

B: I failed in an interview for a job (ผมสอบสัมภาษณ์งานไม่ผ่าน)

A: There are always two sides to everything. You can take it as an experience (ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ คุณสามารถถือเป็นประสบการณ์ก็ได้)

B: Thank you for cheering me up. I feel better now (ขอบคุณที่ให้กำลังใจผมนะครับ ผมรู้สึกดีขึ้นแล้วครับ)

เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ

เสนอตัวเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

A: Would you like me to call taxi for you (คุณอยากให้ฉันเรียกแท็กซี่ให้มั้ยคะ)

B: Oh, thank you (โอ้ ขอบคุณนะครับ)

A: Is everything ready for you? Is there anything else I can help you? (โอเคแล้วใช้ไหมคะ มีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหมคะ)

B: No, thanks. I think I can manage it (ไม่มีแล้วครับ ผมจัดการเองได้ครับ)

A: Well, if you need any more help, just let me know (ถ้ายังมีอะไรอยากให้ฉันช่วย บอกฉันได้นะคะ)

B: Thank you very much (ขอบคุณมากครับ)

ขอโทษที่ไปงานเลี้ยงช้า

A: I’m sorry for being late (ขอโทษที่มาสายนะ)

B: Why are you late? (ทำไมถึงช้าจังอ่ะ)

A: Because of the traffic jam, I can’t go so fast. I was very anxious, but I should observe the traffic rules (เพราะรถติด ไปเร็วไม่ได้อ่ะแก ก็กังวลมากแต่ควรปฏิบัติตามกฎจราจร)

B: You’re right. I’m glad because you finally come (ใช่ แต่ดีใจนะที่แกมา)

A: I’m really sorry (ขอโทษนะ)

B: Don’t mention it. Let’s come in. Everyone is waiting for us to start the party (อย่าพูดถึงมัน เข้ามากันเถอะ ทุกคนกำลังรอให้เราเริ่มปาร์ตี้.)

ดูเพิ่ม:

2 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: ที่ธนาคาร

คำแนะนำเกี่ยวกับการออมระยะ

A: Good morning, madam. What can I do for you? (สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณผู้หญิง ฉันจะทำอะไรให้คุณได้บ้างไหมคะ)

B: I want to deposit one hundred million in your bank (ฉันอยากฝากเงินหนึ่งร้อยล้านในธนาคารของคุณ)

A: What kind of account do you want, current account or fixed account? (คุณต้องการบัญชีประเภทไหน กระแสรายวัน หรือ บัญชีประจำคะ)

B: I’m not sure. Please tell me the interest rates, will you? (ฉันไม่แน่ใจค่ะ กรุณาบอกฉันอัตราดอกเบี้ยได้ไหทคะ?)

A: No problem. For a current account, the rate is 1% for one year. But for a fixed account, it’s 1.6% per year at present (ไม่มีปัญหาค่ะ สำหรับบัญชีกระแสรายวัน อัตราคือ 1% เป็นเวลาหนึ่งปี แต่สำหรับบัญชีประจำก็ 1.6% ต่อปี ณ ปัจจุบัน 1.6% ค่ะ)

B: Oh, they’re quite different. I’d like to have a fixed account (โอ้ พวกเขาแตกต่างกันมากทีเดียว ฉันต้องการบัญชีแบบคงที่)

A: Here’s your bankbook. The interest is added to your account every year (นี่คือสมุดบัญชีธนาคารของคุณค่ะ ดอกเบี้ยจะเพิ่มเข้าในบัญชีของคุณทุกปีค่ะ)

B: Thanks for your help (ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ)

A: It’s my pleasure (ค่ะ)

ข้อแนะนำในการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์

A: Good afternoon, sir. What can I do for you? (สวัสดีตอนบ่ายครับท่าน ผมทำอะไรให้ท่านได้บ้างครับ)

B: Good afternoon. I’d like to open an account (สวัสดีตอนบ่าย ฉันอยากเปิดบัญชีค่ะ)

A: Yes, sir. What kind of account, a savings account or a checking account? (ครับท่าน บัญชีประเภทไหนครับ บัญชีออมทรัพย์ หรือ บัญชีกระแสรายวันครับ?)

B: A savings account, please. What interest rates do you pay on savings account? (ขอบัญชีออมทรัพย์ครับ ท่านจ่ายอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ในบัญชีออมทรัพย์ครับ?)

A: We pay two and a half percent per annual (ธนาคารของเราเสนออัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปีครับ)

B: That’s not too bad. So I want to deposit 1,000 dollars in a savings account (ไม่เลวเลยเนอะ ผมอยากฝาก 1,000 เหรียญในบัญชีออมทรัพย์ครับ)

A: Very well, sir. Will you please fill out the deposit slip first? (โคเคครับ โปรดกรอกแบบฟอร์มการฝากเงินก่อนนะครับ)

B: Certainly. Here you are (โอเค ผมกรอกเสร็จแล้วครับ)

A: And your money, sir (และเงินฝากของท่านนะครับ)

B: Ok. It’s very kind of you. (ครับ ขอบคุณมากครับ)

A: Here is your bankbook (นี่คือสมุดบัญชีธนาคารครับ)

B: Thanks a lot (ครับ ขอบคุณนะครับ)

A: You are welcome (Không có gì, thưa ông)

3 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: ที่โรงภาพยนตร์

เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ

สอบถามราคา+ซื้อตั๋วหนัง

A: What is the most interesting movie now? (หนังเรื่องไหนที่น่าสนใจที่สุดตอนนี้คะ)

B: “ Grown ups” – a good choice for fun (“ผู้ใหญ่” – ทางเลือกที่ดีสำหรับความสนุกสนานค่ะ)

A: How much is the ticket? (เท่าไรคะ?)

B: 45 baht per seat (45 baht/ 1 ต่ว)

A: That’s alright. Five tickets, please (โอเค ​​ขายให้ฉัน 5 ใบนะคะ)

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์

A: I didn’t really like the movie! Did you like it? (เราไม่ด่อยชอบหนังเรื่องนี้อ่ะ เธอชอบไหม?)

B: I tried to undertand it, but I could not (ก็พยายามที่จะเข้าใจมัน แต่ไม่ได้ว่ะ)

A: Yes, they used many slang words (ใช่ พวกเขาใช้คำสแลงหลายคำมากเลยอ่ะ)

B: The actor’s achievements were really great. But his accent was terrible (ความสำเร็จของนักแสดงนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่สำเนียงของเขาแย่จัง)

A: You are right (ใช่)

4 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: ที่ร้านถ่ายภาพ

โพสท่าขณะถ่ายภาพ

A: Say “ Konica”! (พูด “Konica”!)

B: Konica! (“Konica”!)

A: I think you blinked. This time, don’t move and say “ Konica” (ดูเหมือนคุณจะกระพริบตาแล้วครับ คราวนี้อย่าขยับและอย่าลืมพูดว่า “Konica”)

B: Ok, but this is the last picture. My mouth is staring to hurt from smiling so much! (ก็ได้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หัวเราะจนเจ็บปากเลย)

A: Just one more, ok? I’m going to use the close-up lens for a close-up of you standing in fornt of the statue (อีกอันเดียว โอเคไหมครับ? ผมจะใช้เลนส์โคลสอัพถ่ายระยะใกล้ของคุณที่ยืนอยู่ด้านหน้ารูปปั้นนั้น)

B: Finw. Finished? (โอเค เสร็จยังคะ??)

A: Ok. The photos will be really well taken (อเค ภาพจะออกมาดีจริงๆ)

การล้างม้วนฟิล์ม

A: Please develop this film for me (โปรดพัฒนาภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฉันด้วยค่ะ)

B: I’ll do it (ได้ครับ)

A: When do you think it will be ready? (เมื่อไหร่จะเสร็จคะ)

B: You may come to collect your photos tomorrow evening. Here is your receipt (พรุ่งนี้มารับได้เลย นี่คือบันทึกของคุณ)

A: Ok (โอเค)

5 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: ความวิตกกังวล – ความเบื่อหน่าย

เบื่อกับการสอบตกภาษาอังกฤษ

A: Ice, why don’t you go to the movie with your brother? (ไอซ์ ไม่ไปดูหนังกับพี่เหรอ)

B: I’m not in the mood. (นูไม่มีอารมณ์แล้ว)

A: What’s the matter? (มีอะไรเหรอ?)

B: I failed the English exam again. I want to give it up. (สอบตกภาษาอังกฤษอีกแล้ว อยากเลิกวิชานี้)

A: Don’t lose heart. Try again! (อย่าท้อแท้ พยายามให้มากขึ้น!)

B: I’m afraid I can’t catch up with my classmates. (หนูกลัวว่าเรียนไม่ทันเพื่อนร่วมชั้นอ่ะแม่

A: Come on! I know you can make it (สู้ๆ! แม่รู้ว่าหนูทำได้)

เลิกกับแฟน

A: You look blue today. Is there anything that matters? (ดูเศร้าจัง เป็นอะไรไป?)

B: Ming and I broke up. My heart is broken. (หมิงกับผมเลิกกันแล้ว อกหัก.

A: Take it easy. (ใจเย็นๆ)

B: I’m afraid I can’t. (ผมกลัวว่าผมทำไม่ได้)

A: Let’s think that she’s not yours. (แค่คิดว่าเขาไม่เหมาะกับแกอ่ะ)

B: But I love her so much. (แต่ผมรักเขามาก)

A: Don’t be so bad. You’ll be OK. Let bygones be bygones. (อย่าเสียใจนะ จะไม่เป็นไรหรอก ปล่อยอดีตให้ลืมเลือนไป)

เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ

ดูเพิ่ม:

6 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: แบ่งปัน – ความเห็นอกเห็นใจ

กระตุ้นให้พยายามทำงานที่ดี

A: You look tired and worried. What’s wrong with you, Tien? (ณดูเหนื่อยและกังวล พี่มิ้นท์เป็นไรป่าว)

B: My new job is so hard. I often make mistakes. (งานใหม่ของผมยากมาก มักจะทำผิดพลาดเยอะ)

A: Don’t worry about it. You’re an able man. Do your best , and you’ll get it (อย่ากังวลไปเลย คุณเป็นคนที่มีความสามารถ ทำให้ดีที่สุด แล้วคุณจะได้มันมา)

B: Are you sure? (แน่ใจนะ?)

A: Of course. I believe you can (แน่นอน ฉันเชื่อว่าคุณทำได้)

B: Many thanks (ขอบคุณมาก)

แบ่งปันเมื่อคุณมีข่าวร้าย

A: Is there anything wrong? You look ill (มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า? คุณดูป่วยนะ)

B: One of my friends passed away last night (เพื่อนของผมเสียชีวิตเมื่อคืน)

A: Oh, I’m so sorry to hear that (โอ้ เสียใจด้วยนะครับ)

B: You knows, she’s my best friend (คุณรู้ไหม เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน)

A: Anyway, life goes on (ยังไงเราก็ต้องอยู่ให้ได้นะครับ)

7- เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: ที่ร้านขายยา

ซื้อยาโดยคำแนะนำของพนักงานขาย

A: Good afternoon (สวัสดีตอนบ่าย)

B: Good afternoon. Can I help you? (สวัสดีคะ มีอะไรให้ช่วยไหมไหมครับ)

A: Yes, I’ve got a terrible toothache (ฉันปวดฟันค่ะ)

B: How long have you had it? (เจ็บมานานแค่ไหนแล้วครับ?)

A: Only about 2, or 3 hours (ประมาณ 2, 3 ชั่วโมงแล้ว)

B: Well, try these tablets. Take 2 every 3 hours (ลองแท็บเล็ตเหล่านี้ดูนะครับ ใช้เวลา 2 ทุก 3 ชั่วโมง)

A: Thank you very much. Bye (ขอบคุณมากค่ะ)

B: Get better soon. Bye (ขอให้คุณสบายดีนะครับ)

ซื้อยาแก้ปวดหลัง

A: I have a pain in my back and I need something to kill this pain (ฉันปวดหลังค่ะ มีอะไรมาบรรเทาความเจ็บปวดนี้ไหมคะ)

B: OK. Do you have a prescription, miss? (มีครับ คุณมีใบสั่งยาไหมครับ)

A: What? No, I don’t (ใบสั่งยา? ฉันไม่มี)

B: Well, I can only give you this kind of regular tablets, then. It’s an effective product. งั้นเอายาที่ใช้ประจำให้ละกัน เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพนะครับ)

A: I don’t care, as long as it works (ไม่สนค่ะ มีผลได้แล้วค่ะ)

B: Do you want me to wrap it up for you? (ห่อมันไหมครับ?)

A: That’s not necessary; just tell me how I should take them (ไม่ต้องค่ะ บอกวิธีการใช้ก็ได้แล้วค่ะ)

B: Sure. Two tablets, three times a day (ครับ แบ่งทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2 เม็ดนะครับ)

8 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: การเผชิญหน้าแบบสุ่ม

สอบถามหลังย้ายบ้าน

A: Long time no see. (นานแล้วไม่ได้เจอกันเนอะ)

B: I’m glad to see you again. (ดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง)

A: So am I. (เหมือนกัน)

B: How have you been? (เป็นไงบาง?)

A: I have been all right. (ฉันสบายดี)

A: Where have you been? (ไปที่ไหนมานิ?)

B: I have been to Khon Kaen. (ฉันไปขอนแก่นมา)

ถามหลังจากไม่ได้เจอกันนาน

A: Hello, Li, I haven’t seen you for a long time. How are you? (ฮัลโล ลี่ ไม่ได้เจอกันนานเลย เป็นไงบาง)

B: Fine, thanks. What about you? (สบายดี ขอบคุณนะ แล้วคุณล่ะ?)

A: Very well. You look thinner than the last time I met you. (ดีมาก ช่วงนี้ดูผอมกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอนะ)

B: You’re right. But it makes me feel good. (ใช่ แต่มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาก)

A: Good to hear that. Keep well, Li. (ดีใจด้วยนะ รักษาตัวให้ดีนะคะลี่)

B: Same to you. (เช่นกันนะ)

9 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: Joy – Happiness

เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ

ข่าวดีเกี่ยวกับการสอบ

A: I can’t wait to talk to Mint. (เราแทบรอไม่ได้ที่จะได้มาบอกกับมินต์)

B: Why? (ทำไมอะ)

A: He said he has some good news for me about the final exam. (ขาบอกว่ามีข่าวดีสำหรับฉันเกี่ยวกับการสอบปลายภาค)

B: Oh, that’s great. (งั้นก็ดีมาก)

อยากเจอใครสักคน

A: Have you met Min for ages? (เจอกับมินนานหรือยัง)

B: No. I haven’t. I heard she’s moved to Chonburi. (ไม่อะ เราได้ยินเขาบอกว่ามินยายไปชลบุรีแล้ว)

A: Really? It’ll be nice to see Min again. (จริงเหรอ? คงจะดีถ้าได้เจอมินอีกครั้งล่ะ)

B: It sure will. (แน่นอน)

10 – เรียนภาษาอังกฤษตามหัวข้อ: ไปร้านอาหาร

กรณีที่ไม่ได้จองโต๊ะ

A: Waiter! Is the table free? (บริกรค่ะ! โต๊ะนี้ยังไม่ได้จองใช่มั้ยคะ?)

B: Yes, please. How many people are there to sit here? (ใช่ครับ ไปกี่คนครับ?)

A: Four people (4 คนคะ)

B: Please take your seats. Did you order? (เชิญนั่งเลยครับ ทางเราอยากสั่งอะไรไหมครับ)

A: Can we have a look at the menu, please? (ขอดูเมนูหน่อยได้มั้ยคะ?)

B: Here you are, sir (นี่ครับ)

A: Thanks (ขอบคุณค่ะ)

กรณีได้จองโต๊ะแล้ว

A: I have a reservation for two this evening. I’m Lee (ผมจองโต๊ะสำหรับ 2 คืนนี้ครับ ผมชื่อลี)

B: Please follow me, Mr Lee (ใช่ครับ โปรดตามผมนะครับ คุณลี)

A: Umm, is this a non- smoking area? (ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่ใช่ไหมครับ?)

B: Yes, it is. Would you like to wait for the other guest, or would you like to order now? (ใช่ครับ คุณอยากรอให้แขกคนอื่นมาถึงหรือสั่งอาหารตอนนี้ครับ?)

A: I’ll wait for a while (รอสักครู่ครับ)

A: Anything to drink first? Cocktail or juice? (คุณอยากดื่มอะไรก่อน ค็อกเทลหรือน้ำผลไม้ครับ?)

A: Give me a glass of orange juice, please (ขอน้ำส้มหนึ่งแก้วครับ)

A: Yeah. And this is menu (ครับ และนี่คือเมนูครับ)

B: Thank you (ขอบคุณครับ)

11 – สรุป

ข้างต้นคือบทสรุปของ 10 หัวข้อ/สถานการณ์การสื่อสารภาษาอังกฤษพื้นฐานและทั่วไปในชีวิตประจำวันที่คุณจะต้องเจออย่างแน่นอน

Eng Breaking แนะนำให้คุณใช้เทคนิคการพูดเมื่อเรียนรู้สถานการณ์การสื่อสารเหล่านี้เพื่อฝึกการออกเสียงและปฏิกิริยาตอบสนอง ช่วยให้คุณสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้นนะคะ

คุณก็อาจจะสนใจ:

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน

ความคิดเห็น 635 รายการ
 
  • Sudarat Manee

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Mik Jakkaphat

    เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Soda Sodaaa

    เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ

    ถูกใจ ตอบกลับ20 ชั่วโมง
  • RueThaiRut

    เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ

    ถูกใจ ตอบกลับ2 นาที
  • เจมส์ ธีรพงศ์

    มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Cat Catt

    ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Meawww Jhaa

    เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?

    ถูกใจ ตอบกลับ5 ชั่วโมง
  • Naphawan MeeJaiii

    นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!

    ถูกใจ ตอบกลับ15 นาที
  • GotCha

    ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ป๋อง ฤทธิเดช

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ดวงใจ มาเต็ม

    เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • หนูน้อย หมวกแดง

    เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *