หลักการเติม -ing ท้ายคำกริยาในภาษาอังกฤษ เป็นส่วนไวยากรณ์พื้นฐานที่ไม่ยากเลย
แต่มีบางคนยังสับสนอยู่ว่าต้องทำการเติม -ing ยังไงให้ถูกต้อง และ กริยาเติม ing นั้นใช้กันยังไง วันนี้ Eng Breaking จะรวบรวมมาให้คุณทั้งหมดข้อสงสัยนี้ในบทความเดียวเลย
A – กริยาเติม ing (V-ing) คืออะไร
ก่อนอื่นเราจะต้องมาเรียนรู้กันว่ากริยาเติม ing คืออะไร
เวลาอ่านภาษาอังกฤษ เราเจอกริยาเติม ing (V-ing) อยู่เต็มไปหมด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า กริยาที่มีใช้หลักการเติม ing เหล่านั้น จะทำหน้าที่แตกต่างกันมาก
บางทีจะแสดงความหมายว่า “กำลังทำ” บางทีสามารถทำหน้าที่เหมือนคำนาม และบางทีสามารถใช้ในการขยายนามตัวอื่นอีกด้วย
แล้วเราจะแยกแยะอย่างไรว่า V-ing ตัวนี้คืออะไรและควรจะแปลอย่างไร วิธีการคือ เราต้องรู้ว่า V-ing ตัวนั้นทำหน้าที่อะไร หรืออยู่ตำแหน่งไหนในประโยค ที่เราจะแนะนำดังต่อไปนี้

1. กริยาเติม ing มีความหมายว่า “กำลังทำ” ใน Continuous Tense ต่าง ๆ
วิธีการสังเกตก็คือ V-ing ในกลุ่มนี้จะตามหลัง V. to be ค่ะ โดยที่ Verb to be นั้นจะไม่มีความหมายใดๆ เพราะเป็นแค่กริยาช่วยที่บอก tense เท่านั้น
ไม่ว่า Verb to be นั้นจะอยู่ในรูปของอดีตหรือปัจจุบันก็ตาม เพราะ Continuous Tense เป็นได้ทั้งใน Continuous Present และ Continuous Past เช่น
- Listen to me! I’m talking to you. แปลว่า ฟังฉันสิ! ฉันกำลังพูดกับเธออยู่นะ
- He called me when I was watching TV. แปลว่า เขาโทรหาฉันตอนที่ฉันกำลังดูทีวีอยู่
2. กริยาเติม ing (V-ing) ที่ทำหน้าที่เหมือนคำนาม
กริยาที่เติมท้าย ing หรือเรียกกันว่า V-ing ที่ทำหน้าที่เหมือนคำนาม มีชื่อเรียกตัวมันเองอีกชื่อหนึ่งสุดเท่ คือ “Gerund” ในเมื่อมันทำหน้าที่เหมือนคำนาม ดังนั้นไม่ว่าคำนามทำหน้าที่อะไร Gerund ก็ทำได้หมด มาดูหน้าที่คำนามกัน
2.1 – Gerund (V-ing) ทำหน้าที่เป็น “ประธานของประโยค”
เวลาทำหน้าที่เป็นประธาน ส่วนใหญ่ Gerund ก็จะขึ้นต้นประโยค เรามีตัวอย่างประโยคเช่น
- Telling a lie ruins every relationship.
หมายความว่า การโกหกจะทำลายทุกความสัมพันธ์
- Washing dishes after dinner is my duty.
หมายความว่า การล้างจานหลังมื้อเย็นเป็นหน้าที่ของฉัน
โดยปกติ “Tell a lie” หรือ “Wash dishes” เป็นคำกริยา แต่เมื่อเราใช้หลักการเติม ing มันสามารถกลายเป็นคำนามและทำหน้าที่เป็นประธานของประโยคได้ ทีนี้มันจะมีความว่าเหมือนคำนามว่า การโกหก การล้างจาน
2.2 – Gerund (V-ing) ทำหน้าที่เป็น “ส่วนเติมเต็ม (complement)” ของประโยค และตามหลัง Verb to be
หลายคนอาจสงสัยว่าถ้าตามหลัง Verb to be ก็เหมือน Continuous Tense น่ะสิ แล้วจะสังเกตยังไงล่ะ? วิธีการสังเกตคือ Verb to be ในลักษณะนี้จะเป็นกริยาแท้ และมีความหมายว่า “เป็น, อยู่, คือ” เรามีตัวอย่างประโยคเช่น
- One of my hobbies is collecting favorite comics. (หนึ่งในงานอดิเรกของฉันคือการสะสมการ์ตูนเรื่องโปรด)
โดยคำว่า “is” หรือ Verb to be ในที่นี้แปลว่า คือ
- His duty is cleaning the house. (หน้าที่ของเขาก็คือทำความสะอาดบ้าน) โดยมันไม่ได้แปลว่ากำลังทำความสะอาดนะ
2.3 – Gerund (V-ing) ทำหน้าที่เป็น “กรรม”
ซึ่งอาจจะเป็นกรรมของกริยา หรือกรรมของบุพบทก็ได้ ดังนั้นตำแหน่งของมันก็จะต้องตามหลัง verb หรือ preposition (บุพบท) เรามีตัวอย่างประโยคเช่น
- She enjoys shopping with friends. (เธอสนุกกับการไปช้อปปิ้งกับเพื่อนๆ)
- We can’t keep on sitting here anymore. (เรานั่งอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว)
- He took my bag without telling me. (เขาเอากระเป๋าไปโดยไม่บอกฉัน)
- I avoid talking about this. (ฉันเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้)
3. V-ing ทำหน้าที่ขยายคำนาม (เปรียบเสมือน adjective)
เมื่อกริยาเติม ing (V-ing) ที่ขยายคำนาม ซึ่งตำแหน่งของ V-ingก็อาจจะอยู่หน้าคำนาม หรือหลังคำนามที่มันขยายก็ได้ เรามีตัวอย่างประโยคเช่น
- The girl is afraid of the barking dog.
หมายความว่า เด็กผู้หญิงคนนั้นกลัวหมาที่กำลังเห่า
- The lady standing behind me in the queue suddenly fainted.
หมายความว่า ผู้หญิงที่ยืนอยู่ในแถวข้างหลังฉันอยู่ๆก็เป็นลม
ในประโยคเต็มนี้ เรามีประโยคย่อย standing behind me in the queue เป็น relative clause ที่ทำหน้าที่เพื่อขยายนาม lady ที่อยู่ข้างหน้า โดยมีการลดรูปหรือตัด relative pronoun ของคำนามออกไปแล้ว
ดูเพิ่ม:
- 51+ โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษรู้แล้วรอดเเน่ [2566]
- ชนิดของคำในภาษาอังกฤษฉบับบสมบูรณ์พร้อมวตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน
- จัดเต็ม! คําบุพบทภาษาอังกฤษ (Prepositions) ไวยากรณ์ที่น่ารู้
หลักการเติม ing หลังกริยาที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษต้องรู้
เพื่อมาทบทวนกันเกี่ยวกับหลักการเติม -ing ท้ายคำกริยา เพื่อให้ผู้เรียนภาษาอังกฤษสามารถนำไปใช้ในการสอบต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ทาง Eng Breaking จึงรวบรวมหลักการเติม ing ท้ายคำกริยา และการเปลี่ยนรูป มีดังต่อไปนี้
หลักการเติม-ing ที่ 1: เติม -ing ท้ายคำกริยาทั่วไป
สำหรับคำกริยาทั่วไป เราสามารถทำการเติม ing ที่ท้ายคำกริยานั้นได้เลย
ตัวอย่างเช่น
- Go → going (ไป)
- Speak → speaking (พูด)
หลักการเติม-ing ที่ 2: เติม -ing ท้ายคำกริยาที่ลงท้ายด้วยตัว e
คำกริยาที่ลงท้ายด้วยตัว e ให้ตัด e ออกก่อน แล้วทำการเติม ing เช่น
ตัวอย่างเช่น
- Use => Using (ใช้)
- come => coming (มา)
- Improve => Improving (บำรุง)
- Change => changing (เปลี่ยนแปลง)
- Take => Taking (รับ)
- Drive => Driving (ขับรถ)
อย่างไรก็ตามสำหรับคำกริยาที่ลงท้ายด้วย ee, ye และ oe ให้เติม –ing ได้เลย
ตัวอย่างเช่น
- See => Seeing (มองเห็น)
- Agree => Agreeing (ตกลง)
- Dye => Dyeing (ย้อมสี)
- Tiptoe => tiptoeing (เดินย่อง, เดินด้วยปลายเท้า)

หลักการเติม-ing ที่ 3:
เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายไปอีกตัวเวลาเติม ING: คำกริยาพยางค์เดียวที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ และก่อนหน้าพยัญชนะตัวสุดท้ายเป็นสระ 1 ตัว ในรูปแบบ “สระ + พยัญชนะ” (ยกเว้น พยัญชนะ h, w, x, y) ต้องทำการเพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายไปอีก 1 ตัว ก่อน แล้วทำการเติม ing
ตัวอย่างเช่น
- Stop → stopping
- Shop → shopping
อย่างไรก็ตาม สำหรับคำกริยาที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ h, w, x, y ให้เติม –ing ได้เลย
ตัวอย่างเช่น
- Fix → fixing (เพราะลงท้ายด้วยพยัญชนะ x )
- Play → playing (เพราะลงท้ายด้วยพยัญชนะ y)
คำกริยาที่ลงท้ายด้วย “สระ 2 ตัว + พยัญชนะ”หรือ“พยัญชนะ + พยัญชนะ” ให้เติม –ing ได้เลย
ตัวอย่างเช่น
- Greet → greeting (มีสระ 2 ตัว)
- Work → working (ลงท้ายด้วยพยัญชนะ 2 ตัว)
หลักการเติม-ing ที่ 4:
สำหรับคำกริยาที่มี 2 พยางค์ที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ ก่อนหน้าพยัญชนะตัวสุดท้ายเป็นสระ 1 ตัว และมีการเน้นเสียงหนักที่พยางค์ท้าย เราจะต้องทำการเพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายไปอีก 1 ตัวก่อน แล้วค่อยทำตามหลักการเติม ing
ตัวอย่างเช่น
- Begin => beginning (เริ่มต้น)
- Permit => Permitting (อนุญาต)
- Prefer => Preferring (ชอบ)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคำกริยาที่ลงท้ายด้วยตัวอักษร L และก่อนหน้าตัว L เป็นสระ 1 ตัว ระหว่างภาษาอังกฤษแบบบริติชและภาษาอังกฤษแบบอเมริกันจะมีความแตกต่างกันนิดหนึ่ง
คนอเมริกันไม่เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายอีกตัว ในขณะที่คนบริติชต้องทำการเพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายไปอีก 1 ตัวก่อน แล้วทำการเติม ing
ตัวอย่างเช่น
- Travel → Travelling (ภาษาอังกฤษแบบบริติช)
- Travel → Traveling (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน)
*** หมายเหตุ:
สำหรับคำกริยาที่มี 2 พยางค์ที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ ก่อนหน้าพยัญชนะตัวสุดท้ายเป็นสระ 1 ตัว และมีการเน้นเสียงหนักที่พยางค์ที่หนึ่ง ให้เติม -ing ได้เลย
ตัวอย่างเช่น
- Listen => Listening (ฟัง)
- Enter => Entering (เข้าสู่)
- Happen => Happening (เกิดขึ้น)
- Open => Opening (เปิด)
ห้ามเรียนภาษาอังกฤษอีกต่อไป! แต่ให้พูดภาษาอังกฤษแทน! วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษอยู่ที่นี่
หลักการเติม -ing ที่ 5: เปลี่ยน “IE” เป็น “Y” แล้วเติม ING
หลักการนี้จะใช้สำหรับคำกริยาที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y ก่อน แล้วทำการเติม ing หลังคำกริยาได้เลย
ตัวอย่างเช่น
- Lie → lying
- Tie → tying
คำกริยาที่ลงท้ายด้วย “Y” เราสามารถเติม ING เหมือนคำกริยาทั่วไปได้เลย
ตัวอย่างเช่น: Hurry → Hurrying
หลักการเติม -ing ที่ 6:
สำหรับคำกริยาที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ “c” แต่ พยัญชนะ “c” นี้ได้ออกเสียงเป็นเสียง /k/ อย่างเช่นคำกริยา “Traffic”, “Mimic” và “Panic” เราจะต้องเติมพยัญชนะ “K” ท้ายคำกริยาแล้วค่อยทำการเติม -ing
- Traffic → trafficking (ค้าขายสิ่งที่ผิดกฎหมาย)
- Mimic → mimicking (ล้อเลียน)
- Panic → panicking (ตื่นตระหนก)
- Picnic => Picnicking (ไปปิกนิก)
ในภาษาอังกฤษหลักการเติม -ing คือง่ายที่สุดแล้วละ เราแค่ต้องเติม -ing ท้ายคำกริยาทั่วไป สำหรับคำกริยาที่มีหลักการเติม -ing พิเศษเราก็ได้รวบรวมมาครบถ้วนให้ผู้เรียนภาษาอังกฤษของ Eng Breaking ในเนื้อหาข้างบนแล้วนะคะ
ต้องบอกเลยว่าไม่มีอะไรที่ง่ายกว่านี้อีกแล้ว และเพื่อเป็นการทบทวนและช่วยให้เราจำหลักการเติม -ing ได้เลย เราจัดมาพร้อมแบบฝึกหัดให้เพื่อน ๆ ได้ทำกันนะคะ
คุณก็อาจจะสนใจ:
- ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ Comparative ฉบับสมบูรณ์
- คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
- คำนำหน้าคำนาม (a an the) ใช้ต่างกันอย่างไร พร้อมแบบฝึกหัด
C – แบบฝึกหัดเกี่ยวกับหลักการเติม -ing พร้อมข้อเฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1: ใช้หลักการเติม -ing เพื่อเติมคำในช่องว่าง
- She avoided (tell) ………………. him about her plans for tonight.
- He enjoys (have) ………………. a bath in the evening after a long working day.
- She kept (talk) ……………….during the film at the theatre
- Do you mind (give) ……………….me a hand please?
- She helped me with (carry)………………. my suitcases.
- He decided to take up (study)………………. biology at Khon Kaen university
- I dislike (wait)……………….. for a long time
- She suggested (visit)………….. to the museum in the center of the city.
- (Go) …………… to Phuket this weekend is a great idea
- I’m keen on (write) …………… new contents for my blog
แบบฝึกหัดที่ 2: เติมคำในช่องว่างเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์
- The children prefer (watch) ……………… TV to (read) ……………… books.
- The boys like (play) ……………… games but hate (do) ……………… lessons.
- Would you like (go) ……………… now or shall we wait till the end?
- I can’t find my favorite book. You (see) ……………… it?
- We used (dream) ………………. of a television set when we (be) ……………… small.
- Would you mind (show) ……………… me how (send) ……………… an email?
- He always thinks about (go)……………… swimming.
- She dislikes (do) ……………… a lot of housework.
- My children enjoy (read) ……………… books.
- She looked forward to (see) ……………… you.
ข้อเฉลย:
แบบฝึกหัดที่ 1:
telling | having |
talking | giving |
carrying | studying |
waiting | visiting |
Going | writing |
แบบฝึกหัดที่ 2:
watching – reading | playing – doing |
to go | have …seen |
to dream – were | showing – to send |
going | doing |
reading | seeing |
ว่าอย่างไรบ้างกับบทความเกี่ยวกับหลักการเติม -ing ลงท้ายคำกริยาที่ Eng Breaking ได้แนะนำมาให้คุณในวันนี้ ง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะ
แถมยังมีแบบฝึกหัดเกี่ยวกับหลักการเติม -ing เพื่อทบทวนความรู้ท้ายบทเรียนด้วย ง่ายแล้วยิ่งง่ายอีก
หากคุณเห็นบทความนี้มีประโยชน์สามารถเก็บไว้เพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้เลย เราขอให้ทุกคนจะพิชิตภาษาอังกฤษได้นะคะ สำหรับวันนี้ขอไปก่อนแล้วค่ะ
ไม่พลาดกับบทความนี้ :
- ชนิดของคำในภาษาอังกฤษฉบับบสมบูรณ์พร้อมวตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน
- หลักการใช้ Verb- คำกริยาภาษาอังกฤษ ฉบับเข้าใจง่าย
- แปลภาษาอังกฤษ: เทคนิคการแปลภาษาอย่างมืออาชีพ งานแปลคุณภาพ
-
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.

Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .