ฝึกพูดภาษาอังกฤษภายใน 1 เดือนควรทำยังไงให้ได้ผล?

ฝึกพูดภาษาอังกฤษยากหรือง่าย?

ภาษาอังกฤษมีบทบาทที่สำคัญในการก้าวหน้าและประสบความสำเร็จของแต่ละคน แต่อย่างไรก็ตามการเรียนภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของเรายังมีอยู่ความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะในการเรียนภาษาอังกฤษทักษะการพูดยังเป็นทักษะที่ยากที่สุดสำหรับใครหลายคน

เผยเคล็คลับในการฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้นดีที่สุดปี 2020> ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่

1.ทำไมคุณเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแต่ยังพูดไม่ได้สักที

1.1 คุณไม่ได้กำหนดวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสม

    เหตุผลแรก ซึ่งเป็นปัญหาของใครหลายคนที่มักจะเจอบ่อย คือไม่ได้กำหนดวิธีการศึกษาที่ถูกต้อง คุณอาจจะขยันตั้งใจเรียนมาก แต่ก็ไม่สามารถพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นการที่คุณมีวิธีเรียนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตังเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก วิธีเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะสมเป็นวิธีที่ไม่ทำให้เราเครียด สามารถเรียนและมีความสนุกสนานไปพร้อมๆกัน และสร้างแรงบันดาลใจให้เราในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ จะได้ไม่เบื่อและท้อแท้

 1.2 อายและไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ

    หลายคนที่เรียนภาษาอังกฤษแต่กลัวและเขินเวลาที่ต้องสื่อสารภาษาอังกฤษ ความกลัวนี้เกิดจากอะไร แท้จริงแล้วมันมาจากความกลัวผิด บางคนเขาไม่มั่นใจอายและไม่มีสติเวลาต้องพูดภาษาอังกฤษ กลัวว่าถ้าเราทำอะไรผิดพลาดคนอื่นจะหัวเราะ แต่ต้องจำเอาไว้ว่าไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จ ถ้าไม่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง เหมือนตอนเด็กที่เราหัดเดิน ถ้าเรากลัวล้มเราจะไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง ทุกอย่างมันต้องการ การฝึกฝน ถ้าเราพูดผิดมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของเรา ถ้าเราไม่ทำผิด เราคงไม่ต้องเรียนอีกเลยก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เวลาที่เราพูดผิด เราต้องรับรู้และมีใจที่จะแก้ปัญหานั้น จงมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

อย่าอายที่จะฝึกพูดภาษาอังกฤษ
อย่าอายที่จะฝึกพูดภาษาอังกฤษ

1.3. เรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้สนทนาในชีวิตประจำวัน

      การที่เราเรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่ค่อยได้พูดกับเจ้าของภาษาเท่าที่ควร ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรายังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษใช้ในชีวิตประจำวัน สิ่งที่เราได้เรียนในห้องเรียนส่วนมากจะเน้นไวยากรณ์เพื่อให้สามารถทำข้อสอบได้ แม้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นวิชาบังคับในโรงเรียนก็ตาม แต่นักเรียนนักศึกษาส่วนมากไม่ได้ให้ความสำคัญกับการฝึกทักษะการฟังการพูดภาษาอังกฤษ หลายคน พอเมื่อจบคลาสเรียนภาษาอังกฤษไปแล้ว ก็ไม่ได้นำไปใช้ เพราะพอเสร็จสิ้นการสอบ ก็ไม่ได้ทบทวน และปล่อยทิ้งข้างไป จนเป็นที่น่าเสียดายทั้งความรู้ที่ร่ำเรียนมา และเงินทองที่สูญเสียไป กลับไม่ทำประโยชน์ให้คนเรียนสามารถนำไปสื่อสารได้ในชีวิตจริง โดยความรู้ที่เรียนมาแต่ไม่ได้ประยุกต์ใช้ก็จะลืมไปในที่สุด

1.4 . ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในการออกเสียงระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาไทย

 อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การพูดภาษาอังกฤษได้ถือว่ายาก ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง ระบบเสียงภาษาอังกฤษกับระบบเสียงภาษาไทย อย่างเช่นในภาษาไทยไม่มีเสียงท้าย แต่ในภาษาอังกฤษเสียงท้ายเป็นเสียงที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้ผู้ฟังแยกออกคำที่ออกเสียงคล้ายๆเหมือนกัน ต่างกันที่เสียงท้ายอย่างเดียว อีกทั้งยังมีปัญหาเกิดจากครูชาวไทยที่สอนภาษาอังกฤษยังพูดภาษาไทยไม่เป๊ะ ทำให้คน เรียนแบบและไม่สามารถออกเสียงภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง  ภาษาอังกฤษออกเสียงคำต่างจากที่เขียน ดังนั้นนี่คือรากเหง้าของปัญหาที่คนไทยฟังฝรั่งเจ้าของภาษาไม่ออก และส่งผลกระทบต่อการพูด ถ้าต้องสื่อสารพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติก็จะพูดไม่ได้ เหมือนปากจะแข็งไปเลย

จากปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นจึงทำให้หลายคนเรียนภาษามาตั้งหลายปีแต่พอต้องใช้ทักษะการพูดภาษาอังกฤษก็ไม่อยากจะพูดถึงเลย

คุณอาจต้องการที่จะเห็น: การออกเสียงภาษาอังกฤษที่แม่นยำที่สุด

       เห็นได้ชัดว่าทักษะการพูดเป็นอย่างแรกที่ทำให้คนอื่นเขาประทับใจในความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของเรา ดังนั้นเราควรที่จะฝึกฝนบ่อยๆ และหาวิธีฝึกทักษะการพูดอีกด้วย

      โดยทางสถาบันเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง Eng Breaking ขอมานำเสนอให้คนเรียนภาษาอังกฤษอีกหนึ่งเทคนิคในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งได้เรียกว่า เทคนิคพูดตามให้ทัน โดยรับรองว่าด้วยเทคนิคนี้จะช่วยให้คุณฝึกพูดภาษาอังกฤษอย่างได้ผลประสิทธิภาพจริงๆ สามารนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และมีความมั่นใจมากขึ้นเวลาสื่อสารภาษาอังกฤษ เราลองมาดูกันว่าเทคนิคนี้มีเป็นอย่างไรบ้าง

     โดยเทคนิคพูดตามให้ทัน เป็นเทคนิคฝึกพูดภาษาอังกฤษที่จะเริ่มจากการฟังก่อน ฝึกฟังสิ่งที่ชาวต่างชาติพูด ฉากนั้นพูดตามให้เหมือนทั้งการออกเสียงและสำเนียงน้ำเสียงของเขา สามารถประยุกต์ใช้เทคนิคนี้สำหรับคนเรียนภาษาอังกฤษทุกวัยทุกระดับ มีประสิทธิภาพที่แท้จริง และฝึกฝนได้อย่างไม่มีอะไรยุ่งยากเลย

ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใส่หูฟังเพื่อเรียนบนแล็ปท็อป
ฝึกฟังภาษาอังกฤษเป็นเทคนิคที่จำเป็นอันดับแรก

2. สามขั้นตอนสุดง่ายสำหรับการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคพูดตามให้ทัน

เส้นทางในการฝึกพูดภาษาอังกฤษของคุณจะง่ายมากยิ่งขึ้น และสามารถฝึกพูดฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างสะดวกตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: ฝึกฟังภาษาอังกฤษอย่างละเอียด 

ไม่เพียงแค่จับได้ใจความหลักๆ ของบทฟัง แต่ยังต้องให้ความสนใจกับรายละเอียดการออกเสียงของแต่ละคำในบทฟังนั้นอีกด้วย พยายามฟังการออกเสียงของแต่ละคำในประโยค เพราะว่าถ้าคุณไม่สามารถฟังออกคำไหนก็จะพูดตามได้ไม่เหมือนเจ้าของภาษา เพราะฉะนั้น เวลาที่คุณฝึกฟัง ควรเริ่มจากบทฟังที่มีความเร็วช้าๆ ก่อน พยายามจดบันทึกไว้คำที่คุณฟังออก จงฝึกฟังในประมาณอย่างน้อย 2-3 รอบถ้าคุณยังมีคำไหนที่ฟังไม่ออกค่อยไปดูรายละเอียดอีกที่ในบทเนื้อหาของบทฟังนั้น

ถ้าเจอคำไหนที่ไม่รู้ความหมายหรือยังไม่แน่ใจการออกเสียง อย่าลืมเปิดพจนานุกรมเพื่อดูความหมายและการออกเสียงที่ถูกต้อหลังจากนั้นลองหลับตาฟังอีกครั้งเพื่อโฟกัสสิ่งที่คุณกำลังฟัง จะได้รู้ว่าชาวต่างชาติเขาออกเสียงยังไงบ้าง มีการเน้นคำตรงไหน หรือทำเสียงสูงต่ำยังไง เมื่อชินแล้วเราสามารถไปต่อขั้นตอนต่อไปได้เลย

ขั้นตอนที่ 2: ฝึกพูดภาษาอังกฤษในระดับความเร็วแบบช้าๆ 

ชุดประสงค์ของขั้นตอนนี้คือ ทำให้เราชินกับการออกเสียงของแต่ละคำได้อย่างถูกต้อง แก้ความผิดพลาดของตัวเองในการออกเสียง

เริ่มจากการพูดตามแต่ละประโยคในระดับความเร็วช้าๆ ก่อน สามารถฝึกพูดไปดูเนื้อหาบาฟังไป พูดช้าๆ แต่ต้องพยายามออกเสียงให้ถูกต้อง แล้วค่อยฝึกพูดให้เร็วขึ้นแต่ยังต้องตั้งใจออกเสียงให้เป๊ะ เลียนแบบสำเนียงให้เหมือนกับชาวต่างชาติ 

เวลาที่เราฝึกพูดพยายามออกเสียงให้ดัง และฝึกหลายรอบจนรุ้สึกว่าความเร็วของเราเท่ากับเจ้าของภาษา แต่อย่าลืมยังต้องการออกเสียงให้ถูกต้องโดยเฉพาะคำลงท้าย

ขั้นตอนที่ 3: ฝึกพูดให้มีความคล่องแคล่วธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษา

ในขั้นตอนนี้ คุณต้องฝึกพูดแต่ละประโยคหรือทั้งบทความให้เหมือนเจ้าของภาษาพูดมากที่สุด ไม่เพียงแค่ให้ความสนใจกับการออกเสียงอย่างเดียว แต่ยังต้องระวังในการเว้นวรรคคำ การเชื่อมต่อการออกเสียง การเน้นเสียงในพยางค์ ทำเสียงสูงต่ำ เพื่อว่าการพูดออกมาจะดูธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษามากที่สุด

สามารถเห็นได้ว่าทักษะการพูดที่ดีไปคู่กับทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษอีกด้วย ดังนั้นในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ เราจึงต้องให้ความสำคัญอย่างมากสำรับการฝึกการออกเสียง  ถ้าใครเคยเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์ที่เป็นเจ้าของภาษาแล้วก็คงคุ้นเคยกับตาราง IPA นี้แล้ว เพราะใครอยากออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้องก็ควรจะรู้จักว่ามันคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง  

ตัวเขียนภาษาอังกฤษ
การออกเสียงภาษาอังกฤษ – 44 เสียง IPA

อย่างแรก IPA (International Phonetic Alphabet) คือสัทอักษรสากล ซึ่งก็คือสัญลักษณ์เฉพาะที่เป็นมาตรฐานใช้แทนเสียงพูดในทุกภาษา ส่วนใหญ่ดัดแปลงจากอักษรโรมัน มีทั้งสัญลักษณ์แทนหน่วยเสียงสระ และแทนหน่วยเสียงพยัญชนะ

ในการเรียนภาษาอังกฤษ ผู้เรียนควรรู้จักและศึกษาสัญลักษณ์เหล่านี้ไว้ด้วยเพราะมีประโยชน์และช่วยได้มากในการฝึกใช้ออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง(พจนานุกรมทุกเล่มจะมีตารางสัญลักษณ์นี้ไว้ด้านในของปก)

ภาษาอังกฤษมี 26 ตัวอักษรแต่ออกเสียงได้ถึง 44 เสียง ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ตัวอักษรตัวเดียวกันจะออกเสียงได้หลายเสียง 

อย่างเช่น เรามีสามคำนี้ though/ thought/ cough ทั้ง 3 คำสะกดด้วย -ough แต่ออกเสียงต่างกันโดยสิ้นเชิง

ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ

1) ทำความคุ้นเคย ศึกษาดูว่าแต่ละตัวอักษรออกเสียงแบบไหน

เช่น เสียง th มีตัวโฟเนติคแบบนี้ /θ/ เช่นในคำว่า think /θɪŋk/

หรือ เสียง sh มีตัวโฟเนติคแบบนี้ /ʃ/ เช่นในคำว่า ship /ʃɪp/

2) ฝึกออกเสียงตาม

ยังไม่จำเป็นต้องจำให้ได้ ขอแค่เวลาเปิดพจนานุกรมแบบ Eng-Eng แล้วเจอตัวพวกนี้ ให้พออ่านออกได้บ้างก็พอ หรือไม่ก็สามารถเปิดหาดูวิธีออกเสียงจนสามารถอ่านออกได้

ตัวโฟเนติคจะอยู่ในเครื่องหมาย / / อันนี้จากดิก Oxford มีแยกสำเนียงให้ด้วย (เสียง /ə/ คือสระ ‘เออะ’) ดังนั้น Phonetics ต้องออกเสียงว่า ‘เฟ่อะ-เน๊-ทิคฺ’

3) จำให้ได้

อย่างที่บอกว่าไม่จำเป็นต้องจำให้ได้ แต่ถ้าจำได้มันก็จะดีมาก ๆ เลยนะ 

วิธีศึกษาคือให้รู้ว่าแต่ละเสียงใช้อวัยวะไหนในการออกเสียง (เช่น F ก็ใช้ ฟันบนกับริมฝีปากล่าง) เราเรียกพวกนี้ว่าวัยวะที่ใช้ในการออกเสียง

คุณอาจต้องการที่จะเห็น: 10 วิธีสุดเจ๋ง กับเคล็ดลับฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

      การเรียนภาษาอังกฤษมักจะเป็นเส้นทางที่ท้าทายแต่มีความสนใจมาก คนเรามีคำว่า “Practice makes perfect ” ซึ่งหมายถึงคนเราไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิด การฝึกฝนบ่อยๆ จะทำให้เก่งได้ ดังนั้นเพื่อฝึกทักษะการพูดได้อย่างดี ต้องมีความตั้งใจพยายามมากๆ จงเลือกวิะีเรียนภาษาอังกฤษที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเอง ระหว่างการฝึกฝนอย่าท้อแท้ ต้องให้กำลังใจตัวเองตลอด เพราะการฝึกฝนไม่ได้เพียงแค่ในวันเดียวถึงจะได้

     คุณสามารถเรียนรู้จากคำแนะนำของสถาบันเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง Eng Breaking หรือสามารถสมัครเรียนกับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง Eng Breaking ซึ่งเป็นคอร์สเรียนที่ได้พัฒนาโดย Eng Breaking เพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนภาษาอังกฤษทั้งสี่ทักษะ รวมถึงทักษะการพูด การฟัง การอ่านและการเขียน โดยเฉพาะคอร์สเรียนนี้จะเน้นในการสร้างพื้นฐาณให้กับคนที่เรียนภาษาอังกฤษใหม่ๆ ในการฝึกฟังฝึกพูดภาษาอังกฤษ สร้างความมั่นใจให้คุณในการใช้ภาษาอังกฤษ ทุกคนสามารถเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ในระยะสั้นๆ แต่ยังเห็นผลจริง ซึ่ง Eng Breaking ได้เปรียบเสมือนเป็นอาวุธที่ช่วยทำลายทุกความหวาดกลัวในการเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาณด้วยซ้ำ

สุดท้ายแล้ว เราหวังว่าทุกๆ คนจะประสบความสำเร็จในการฝึกพูดภาษาอังกฤษกันนะ

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้

4 thoughts on “ฝึกพูดภาษาอังกฤษภายใน 1 เดือนควรทำยังไงให้ได้ผล?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *