ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง เคล็ดลับในการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งคือต้องรู้จักเลือกวิธีและรู้จักใช้ให้ถูกต้อง การเรียนภาษาอังกฤษจึงสนุก สะดวกสบาย และได้ผลดีมาก
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงเป็นทางออกที่ดีสำหรับคุณ
คุณรู้วิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากมันหรือไม่?
อ่านบทความนี้กับ Eng Breaking เลย!
1 – ทำไมต้องเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลง?
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีเพราะมีประโยชน์มากมายสำหรับผู้เรียน นี่คือเหตุผลบางประการที่คุณควรเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลง:
1.1 – ปรับปรุงการตอบสนองทางภาษาและการออกเสียง:
เมื่อเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลง คุณจะต้องฟังและพูดซ้ำคำและประโยค สิ่งนี้ช่วยให้คุณพัฒนาปฏิกิริยาตอบสนองทางภาษาและออกเสียงได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ในกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง ผู้เรียนจะต้องพยายามพูดซ้ำคำและประโยคด้วยการออกเสียงที่ถูกต้อง สิ่งนี้ช่วยให้ผู้เรียนฝึกฝนและพัฒนาทักษะการออกเสียง
เมื่อฝึกออกเสียงคำและประโยค ผู้เรียนจะรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างการออกเสียงภาษาอังกฤษกับการออกเสียงภาษาไทย ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาการออกเสียงภาษาอังกฤษได้แม่นยำขึ้นและมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อใช้ภาษา
นอกจากนี้ การฝึกปฏิกิริยาตอบสนองทางภาษาและการออกเสียงผ่านบทเพลงยังช่วยให้ผู้เรียนสร้างนิสัยในการฝึกฝนและพัฒนาทักษะของตนเองอย่างเป็นธรรมชาติและปราศจากความยับยั้งชั่งใจ
ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนในการใช้ภาษาอังกฤษ
1.2 – ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง ขยายคำศัพท์:
เพลงมักจะมีคำศัพท์มากมายและหลากหลาย ช่วยให้คุณขยายคำศัพท์และเรียนรู้วิธีใช้คำในบริบทเฉพาะ
ตอนเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง ผู้เรียนจะต้องตั้งใจฟังและเข้าใจความหมายของคำศัพท์ใหม่ในเพลง การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ในบริบทเฉพาะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้คำศัพท์ได้ง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
นอกจากนี้ การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ผ่านบทเพลงยังช่วยให้ผู้เรียนจดจำคำศัพท์เหล่านั้นได้ง่ายและนานขึ้นอีกด้วย
การเรียนรู้วิธีใช้คำศัพท์ใหม่ในบริบทเฉพาะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายและการใช้คำศัพท์นั้นได้ดีขึ้น ช่วยให้ใช้คำศัพท์ได้อย่างถูกต้องและมั่นใจยิ่งขึ้น
การขยายคำศัพท์ผ่านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านเพลงไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาระดับภาษาอังกฤษของตน แต่ยังช่วยให้พวกเขารู้สึกน่าสนใจและสนใจในกระบวนการเรียนรู้มากขึ้น
1.3 – ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิต:
เพลงมักจะสะท้อนถึงลักษณะของวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตเฉพาะ ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง จะช่วยให้คุณเข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้พูดภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น
ภาษาและการออกเสียง: เพลงมักจะเขียนในภาษาแม่และมีการออกเสียงที่โดดเด่น การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงจะช่วยให้คุณเข้าใจการออกเสียงคำและวลีภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง
เนื้อเพลง: เนื้อเพลงมักจะสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของประเทศหรือกลุ่มคน คุณสามารถเรียนรู้การแสดงออก ความรู้สึก ค่านิยม และความคิดเห็นของเจ้าของภาษาผ่านเนื้อเพลง
ดนตรีและการเต้นรำ: ดนตรีและการเต้นรำยังเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของประเทศหรือกลุ่มคน การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงจะช่วยให้คุณเข้าใจเครื่องดนตรี น้ำเสียง และสไตล์การเต้นของเจ้าของภาษา
ข้อมูลข้อเท็จจริงและประวัติศาสตร์: การเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงจะช่วยให้คุณเข้าใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสังคมของชาวพื้นเมืองมากขึ้น
1.4 – ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง ปรับปรุงการสื่อสาร:
เมื่อคุณเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลง คุณกำลังเรียนรู้วิธีใช้คำศัพท์และโครงสร้างประโยคในบริบทเฉพาะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการสื่อสารในสถานการณ์ในชีวิตจริง
เมื่อเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง คุณจะได้สัมผัสกับภาษาอังกฤษในบริบทเฉพาะผ่านเนื้อเพลงและทำนอง คุณจะต้องฝึกฟัง พูด และอ่านเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาและแสดงความรู้สึกของเพลง
ขณะที่คุณศึกษา คุณจะได้เรียนรู้คำศัพท์ วลี และโครงสร้างประโยคใหม่ๆ และวิธีการใช้ในบริบทเฉพาะ
1.5 – ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง เพิ่มสมาธิ:
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงยังช่วยให้คุณมีสมาธิกับการเรียนรู้มากขึ้น เพราะเวลาร้องเพลงจะต้องโฟกัสไปที่เนื้อร้องและการออกเสียงที่ถูกต้อง
ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง สามารถช่วยให้คุณมีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น เพราะคุณจะต้องโฟกัสไปที่เนื้อหาและองค์ประกอบทางดนตรีของเพลง เมื่อคุณร้องเพลง คุณต้องมีสมาธิกับเนื้อเพลง ออกเสียงคำและประโยคให้ถูกต้อง และแสดงอารมณ์ของเพลง
การมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยให้คุณไม่ถูกรบกวนจากองค์ประกอบอื่นๆ ในกระบวนการเรียนรู้ คุณจะไม่หลงทางในการเรียนรู้คำศัพท์หรือไวยากรณ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเรียนรู้ตามปกติ คุณจะมุ่งเน้นไปที่การเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงและเนื้อเพลง
ดูเพิ่มเติม:
2 – ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง เคล็ดลับในการฝึก
การเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงเป็นวิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะทางภาษา ต่อไปนี้เป็น 6 เคล็ดลับในการฝึกภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
2.1 – เลือกเพลงที่เหมาะกับระดับของตัวเอง
การเลือกเพลงที่เหมาะกับระดับของคุณมีความสำคัญมากในกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านเพลง ถ้าเลือกเพลงที่ยากเกินไป คุณจะมีปัญหาในการทำความเข้าใจเนื้อหาและออกเสียงคำในเพลง
คุณควรเริ่มด้วยเพลงง่ายๆ เนื้อเพลงที่เข้าใจง่าย จังหวะช้าๆ และการออกเสียงที่ชัดเจน สิ่งนี้จะทำให้คุณฝึกฟัง ออกเสียง และเข้าใจเนื้อหาของเพลงได้ง่ายขึ้น
คุณยังสามารถเลือกเพลงธีมที่คุณชื่นชอบเพื่อเรียนภาษาอังกฤษ การเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงจะน่าสนใจยิ่งขึ้นถ้าเลือกเพลงที่ตัวเองชอบ
2.2 – ฝึกฟังและอ่านเนื้อเพลง
การฟังเป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งในการเรียนภาษาอังกฤษ เมื่อฝึกฟังเพลง คุณจะพัฒนาการได้ยิน ได้ยินชัดเจน และเข้าใจคำและวลีที่ใช้ในเพลง
หลังจากที่ฝึกฟังเพลงหลายๆ แล้ว คุณสามารถอ่านเนื้อเพลงเพื่อปรับปรุงการออกเสียง เมื่ออ่านเนื้อเพลง คุณสามารถใส่ใจกับการออกเสียงของคำและวลีแต่ละคำในเพลง ตลอดจนเรียนรู้การออกเสียงที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
2.3 – แปลเนื้อเพลง
การแปลเนื้อเพลงเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง เมื่อแปลเนื้อเพลง คุณจะเข้าใจเนื้อหาของเพลงได้ดีขึ้น เรียนรู้วิธีใช้คำศัพท์และโครงสร้างทางไวยากรณ์ในเพลง ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ
ในการแปลเนื้อเพลงอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ คุณควรเข้าใจเนื้อหาของเพลงเป็นอย่างดี ใช้เครื่องมือแปลออนไลน์หรือแปลด้วยตัวเอง ให้ความสนใจกับคำศัพท์ใหม่และโครงสร้างทางไวยากรณ์ใหม่ในเพลง
ต่อไปนี้คือบางเว็บไซต์ที่แปลเนื้อเพลงภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย:
Lyricstranslate.com: Lyricstranslate.com เป็นเว็บไซต์ชุมชนที่ให้ผู้ใช้แปลและแบ่งปันเนื้อเพลงจากภาษาต่างๆ มากมาย รวมถึงภาษาอังกฤษและภาษาไทย เว็บไซต์นี้ให้บริการการแปลคุณภาพสูงและได้รับการตรวจสอบโดยชุมชนผู้ใช้
Deungdutjai.com: Deungdutjai เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเนื้อร้องภาษาไทยและคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ
2.4 – ร้องตามเพลง
การร้องเพลงตามเพลงเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านเพลง คุณสามารถปรับปรุงการออกเสียงและการฝึกฝนการใช้เสียง จำเนื้อเพลง และพัฒนาทักษะด้านไวยากรณ์ได้ด้วยการร้องเพลงไปพร้อมกับเพลง
การร้องเพลงประกอบเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง การจะร้องเพลงเดียวกันได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพนั้น ควรฝึกฟังและอ่านเนื้อเพลงหลายๆ ครั้ง
เน้นการออกเสียงที่ถูกต้อง ร้องตามจังหวะและทำนองของเพลง เอาใจใส่ทักษะด้านไวยากรณ์และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
2.5 – ใช้เว็บไซต์ที่รองรับการฟังภาษาอังกฤษ
มีเว็บไซต์มากมายที่รองรับการฝึกฟังภาษาอังกฤษ เช่น Lyricstraining.com, แอพ LyricsTraining, แอพคาราโอเกะ… คุณสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้เพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษ ฟังและอ่านเนื้อเพลง
นอกจากนั้น ยังมีแอพค้นหาและฟังเพลงยอดนิยมมากมายในไทย:
JOOX: เครื่องเล่นเพลงออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย มีเพลงนับล้านและมิวสิควิดีโอที่หลากหลาย สามารถใช้ JOOX ได้ฟรีหรือเสียเงินเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติระดับพรีเมียม
Fungjai: แอพค้นหาและฟังเพลงออนไลน์ฟรี เน้นศิลปินไทยและเพลงอินดี้ Fungjai มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น เนื้อเพลง การแบ่งปัน และการสร้างเพลย์ลิสต์
Deezer: เป็นเครื่องเล่นเพลงออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทย ให้บริการเพลงภาษาอังกฤษหลายล้านเพลงและแนวเพลงอื่นๆ อีกมากมาย สามารถใช้ Deezer ได้ฟรีหรือเสียเงินเพื่อเข้าถึงคุณสมบัติระดับพรีเมียม เช่น ดาวน์โหลดเพลงเพื่อฟังแบบออฟไลน์และคุณภาพเสียงระดับสูง
2.6 – ค้นหาเพลงใหม่ตามสิ่งที่คุณได้เรียนรู้
นี่อาจเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด เพลงใหม่ทุกเพลงที่คุณเรียนรู้ควรมีความสมดุลทั้งการเพิ่มคำศัพท์ใหม่และการพัฒนาคำเก่า
การลองเล่นเพลงในจังหวะที่เร็วขึ้นเล็กน้อยจะช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจ และยังเสริมการเรียนรู้ก่อนหน้านี้อย่างเต็มที่โดยอัตโนมัติ
และอิสระที่จะเพลิดเพลินเลย! ดนตรีคือภาษากลางที่เชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกัน ฟังเพลงภาษาอังกฤษทุกวัน แล้วคุณจะทึ่งกับการพัฒนาตัวเองอย่างง่ายดาย
เมื่อคุณผสมผสานการเรียนรู้ภาษาเข้ากับกิจกรรมสนุกๆ อื่นๆ เช่น การฟังและการร้องเพลง คุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณกำลังเรียนรู้ภาษาที่สอง
ดูเพิ่ม:
- ฝึกอ่านภาษาอังกฤษอย่างไงให้สปีดได้ดีขึ้นอย่างก้าวหระโดด
- ฝึกฟังภาษาอังกฤษยังไงให้ก้าวกระโดด ที่พลาดไม่ได้
3 – รายชื่อเพลงภาษาอังกฤษที่ดีและง่ายมาก 50 เพลงสำหรับเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลง
ต่อไปนี้เป็นเพลงภาษาอังกฤษยอดนิยมอีก 50 เพลงที่สามารถใช้เรียนภาษาอังกฤษได้:
- “All of Me” – John Legend
- “Say You Won’t Let Go” – James Arthur
- “Just the Way You Are” – Bruno Mars
- “Viva la Vida” – Coldplay
- “Hallelujah” – Leonard Cohen
- “What a Wonderful World” – Louis Armstrong
- “The A Team” – Ed Sheeran
- “Imagine” – John Lennon
- “I’m Yours” – Jason Mraz
- “Lean On Me” – Bill Withers
- “Stand By Me” – Ben E. King
- “The Scientist” – Coldplay
- “Tears in Heaven” – Eric Clapton
- “You Are the Sunshine of My Life” – Stevie Wonder
- “Don’t Stop Believin'” – Journey
- “Sweet Caroline” – Neil Diamond
- “Eye of the Tiger” – Survivor
- “Livin’ on a Prayer” – Bon Jovi
- “I Want to Hold Your Hand” – The Beatles
- “Can’t Buy Me Love” – The Beatles
- “Let It Be” – The Beatles
- “Yesterday” – The Beatles
- “Take Me Home, Country Roads” – John Denver
- “Hotel California” – Eagles
- “Stairway to Heaven” – Led Zeppelin
- “Bohemian Rhapsody” – Queen
- “We Will Rock You” – Queen
- “We Are the Champions” – Queen
- “Don’t Stop Me Now” – Queen
- “What’s Up?” – 4 Non Blondes
- “I Will Survive” – Gloria Gaynor
- “Girls Just Want to Have Fun” – Cyndi Lauper
- “Time After Time” – Cyndi Lauper
- “Ironic” – Alanis Morissette
- “Landslide” – Fleetwood Mac
- “Dreams” – Fleetwood Mac
- “Don’t You (Forget About Me)” – Simple Minds
- “Total Eclipse of the Heart” – Bonnie Tyler
- “With or Without You” – U2
- “Beautiful Day” – U2
- “Sunday Bloody Sunday” – U2
- “Iris” – Goo Goo Dolls
- “Slide” – Goo Goo Dolls
- “I Don’t Want to Miss a Thing” – Aerosmith
- “Crazy” – Aerosmith
- “I’m a Believer” – The Monkees
- “Daydream Believer” – The Monkees
- “The Lion Sleeps Tonight” – The Tokens
- “Somewhere Over the Rainbow” – Israel Kamakawiwo’ole
- “Ain’t No Sunshine” – Bill Withers
4 – สรุป
สิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกคุณ: ทำลายความคิด ความรู้สึกอับอาย ความประหม่า และความวิตกกังวลของคุณ คุณแค่ต้องรู้สึกสบายใจก็พอแล้ว
ถ้าดนตรีช่วยให้คุณพัฒนาภาษาอังกฤษได้ แบ่งปันเรื่องราวของคุณกับเราและบอกเหตุผลเพิ่มเติมและวิธีที่ผู้คนควรฟังและร้องเพลงภาษาอังกฤษ
คุณก็อาจจะสนใจ:
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .