ในปัจจุบันนี้ ภาษาอังกฤษได้กลายเป็นภาษาที่ได้รับความนิยมใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานในทั่วโลก การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นวิธีที่เร็วและง่ายที่สุดในการสื่อสารกับชาวต่างชาติ ศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ และมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงมีปัญหาในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ
ในฐานะผู้เรียนภาษาอังกฤษ เรามักพบว่ามันยากและกลัวที่จะถูกบังคับให้สื่อสารหรือใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว แม้กระทั่งบางคนเรียนภาษาอังกฤษมาสิบปี
และมีคำศัพท์คลังคำศัพท์มากมายอีกทั้งยังเชี่ยวชาญกฎไวยากรณ์ทั้งหมด ก็ยังหลีกไม่พ้นปัญหาในการสื่อสารและพูดภาษาอังกฤษในบางสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น วันนี้ Eng Breaking จึงนำเคล็ดลับมาให้กับทุกคนที่กำลังมีปัญหาเหล่านี้เคล็ดลับเพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแต่ยังได้ผลที่มีประสิทธิภาพมาก
ทำไมเราถึงกลัวที่จะฝึกพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่น
ก่อนอื่น เพื่อเอาชนะความกลัวในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ เรามาเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของความกลัวเหล่านี้เสียก่อน เมื่อเราพบสาเหตุแล้ว ก็จะหาทางแก้ไขได้ง่าย สำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษโดยเฉพาะและภาษาต่างประเทศใหม่โดยทั่วไป เรามักจะรู้สึกกลัวที่จะฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้:
1. ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ
หลายคนมักจะเขินอายเมื่อต้องสื่อสารภาษาอังกฤษกับผู้อื่น คนเหล่านี้จะชอบใช้เวลายามเย็นและบรรยากาศเงียบ ๆ อ่านหนังสือมากกว่าการออกไปข้างนอกกับเพื่อน ๆ คนอื่น อาจเป็นเพราะกลัวที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้า
แต่อาจเป็นเพราะไม่อยากสื่อสารกับใคร (โดยเฉพาะคนเก็บตัว – introvert) ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การไม่พูดคุยกับผู้อื่นอย่างกระตือรือร้นจะเป็นข้อจำกัดที่ทำให้การฝึกพูดภาษาอังกฤษพัฒนาได้ยาก
2. รู้จักคำศัพท์ไม่มากพอ
นี่อาจเป็นข้อแก้ตัวที่คนส่วนใหญ่ได้กล่าวมาเพื่อบอกเหตุผลว่าทำไมเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องรู้คำศัพท์บางคำก่อนที่จะเริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรอจนกว่าคุณจะรู้หมดทุกคำก่อนที่คุณจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับผู้อื่นได้ ที่จริงแล้ว เราแค่ต้องรู้วลีง่าย ๆ ก็สามารถใช้ในการสื่อสารและฝึกพูดภาษษาอังกฤษได้แล้ว
3. กลัวพูดผิด
ผู้เรียนภาษาอังกฤษส่วนใหญ่กลัวที่จะพูดเพราะกลัวที่จะทำผิดพลาด พวกเขาไม่มั่นใจ เขินอาย และอารมณ์เสียเมื่อต้องพูดภาษาอังกฤษ เหตุผลหลักคือพวกเขาไม่ได้ฝึกการโต้ตอบหรือการพูดตามธรรมชาติ
ดังนั้นเมื่อสื่อสารกับผู้อื่น พวกเขาจะรู้สึกอึดอัดใจและไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไร คนอื่นอาจต้องการฝึกฝนภาษาอังกฤษจริง ๆ แต่ความกลัวที่จะทำผิดพลาดก็รั้งพวกเขาไว้ พวกเขาไม่มั่นใจในความสามารถทางภาษาต่างประเทศของตนเองและกลัวว่าคนอื่นจะเห็นข้อบกพร่องของตน
4. มีความกังวลและเครียดติดตัวอยู่เสมอ
นี่เป็นสภาวะทางจิตใจปกติที่ทุกคนเคยประสบมา อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคน ระดับความวิตกกังวลและความเครียดจะสูงกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดโดยไม่ต้องมีเหตุผลอะไรเลย ไม่ต้องคำนึงถึงการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ แค่ในการใช้ชีวิตประจำวัน คนเหล่านี้มักจะดูอึดอัด กระสับกระส่าย และควบคุมตนเองได้ยาก
สาเหตุของสภาวะความเครียดและความวิตกกังวลเหล่านี้อาจเกิดจากปัจจัยทางชีววิทยา เช่น พันธุกรรม ความอ่อนแอทางร่างกาย หรือจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพแวดล้อม
ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้จริง ๆ แล้วคิดว่าตัวเองจะไม่สามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ นี่อาจจะเป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะอัตราคนที่มีปัญหาเหล่านี้จากผลงานวิจัยต่าง ๆ ของเราก็มีไม่น้อยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเคล็ดลับที่เราจะแนะนำด้านล่างนี้จะเป็นคำแนะนำและวิธีที่ช่วยคุณสามารถเรียนและฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบคนเดียวอย่างได้ผลนะคะ
เผยเคล็ดลับช่วยให้คุณฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเอง
บันทึกเสียงพูดภาษาอังกฤษของตัวเอง
หากคุณไม่มีเพื่อนเพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วย นี่เป็นวิธีที่ดีในการฝึกทักษะการพูด ขั้นแรก คุณเลือกบทความหรือหัวข้อที่จะพูดถึง อาจเป็นบทความที่คุณพูดถึงตัวเองในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง หรือคุณเพียงแค่ต้องเลือกบทความที่มีอยู่เพื่ออ่านซ้ำ
เอกสารที่คุณเลือกจะต้องมีไฟล์เสียงตัวอย่างที่สร้างโดยบุคคลอื่น อื่น ๆ ที่เป็นเจ้าของภาษาหรือคนที่มีทักษะดีกว่าคุณ
คุณควรพยายามเพื่อให้ตัวเองสามารถออกเสียงทุกคำในบทความนั้นได้ หากคุณยังไม่รู้ว่าคำที่ต้องออกเสียงยังไงให้ถูกต้อง เราแนะนำให้คุณควรค้นหาการสะกดคำของคำนั้นในพจนานุกรมก่อนเพื่อดูว่าความหมายและการออกเสียงของคำนั้นคืออะไร
บทความที่จะเอาไปอัดเสียงไม่จำเป็นต้องยาวเกินไปหากคุณใช้วิธีนี้เป็นครั้งแรก บทความที่ยาวประมาณครึ่งหน้ากระดาษ และอาจจะพูดในเวลาน้อยกว่า 5 นาทีด้วยความเร็วที่พูดช้า
คุณสามารถบันทึกเสียงในโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อสะดวกในการเปิดฟัง เพราะหลังจากบันทึกเสียงแล้ว คุณจะต้องเปิดไฟล์เสียงที่คุณพูดมาฟังด้วย จากประสบการณ์ของเราครั้งแรกที่ฟังเสียงของตัวเองที่ได้อัดไว้ มันอาจจะรู้สึกตลกอยู่บ้าง
แต่สิ่งที่ทำให้วิธีการนี้น่าสนใจและช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง คือหลังจากที่เราได้ฟังเสียงของตัวเอง ทบทวนบทพูดของตัวเองแล้ว เราจะเห็นความก้าวหน้าและความพัฒนาของตัวเองไปเรื่อย ๆ
ในทุก ๆ วัน สามารถหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาดของตัวเองให้น้อยลง ปรังปรุงความเร็วในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ น้ำเสียงดีขึ้นฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และทำให้ตัวเราเองชื่นชอบการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น
อ่านบทสนทนาดัง ๆ
ด้วยวิธีการนี้คุณสามารถฝึกทักษะการอ่านไปพร้อมกับทักษะการพูดด้วยกัน หากคุณมักจะอ่านแบบเงียบ ๆ เวลาฝึกอ่าน เราแนะนำให้คุณควรเปลี่ยนแปลงเทคนิคในการฝึกอ่านภาษาอังกฤษของตัวเองบ้าง
เวลาที่คุณอยู่คนเดียว คุณสามารถอ่านออกเสียงแบบดัง ๆ คุณจะอ่านอะไรก็ได้ตั้งแต่บทความ อ่านข่าว อ่านหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ หรือเรื่องราวที่เห็นในอินเทอร์เน็ต … โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำเสียง ไวยากรณ์เลย
จุดประสงค์หลักของวิธีนี้คือทำให้เราคุ้นเคยกับการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ตอนอยู่ห้องคนเดียวลองทำดูนะคะ ไม่รบกวนคนอื่นและไม่ต้องเขินอายอะไรแต่ยังได้ฝึกภาษาไปด้วย ต้องบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในวิธีการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่จะให้ผลแน่นอน
ไม่พลาดกับบทความนี้:
เคล็ดลับแก้ปัญหาในการออกเสียงภาษาอังกฤษรู้แล้วรอดแน่นอน
ฟังและร้องเพลงภาษาอังกฤษ
Eng Breaking เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนชอบฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นบน YouTube, Spotify, Itune หรือว่าโหลดลงบนโทรศัพท์ของคุณเอง การฟังและร้องเพลงภาษาอังกฤษนั่นเองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ด้วยตัวเองอย่างได้ผลเช่นกันเลย
เพื่อน ๆ หลายคนน่าจะเคยสังเกตมาก่อนว่า ต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้จักภาษาอังกฤษเท่าไร ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อนเลย เขาก็สามารถร้องเพลงภาษาอังกฤษได้ แถมยังร้องสำเนียงได้เป๊ะมากกว่าคนที่เรียนภาษาอังกฤษมาเป็นปีด้วยซ้ำ
เพราะว่าเขาฟังและก็ร้องตามค่ะ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เองก็ใช้ได้กับเพื่อน ๆ เหมือนกัน โดยที่เพื่อน ๆ อาจจะทำ Playlist เพลงภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบฟัง และลองร้องออกเสียงตามไป สิ่งตัวเองทำเพลิน ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็ทำให้เราพูดภาษาอังกฤษเก่งได้เหมือนกัน
เนื้อเพลงของเพลงภาษาอังกฤษมักจะเป็นวลีและสำนวนทั่วไป พวกเราสามารถจำภาษาได้ดีกว่าเมื่อมีเสียงเพลงประกอบ นั้นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราจำบทกวีได้ยากกว่าเนื้อเพลง เมื่อเรียนและฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองผ่านเพลง อย่าฟังอย่างเดียว แต่คุณสามารถร้องตามเนื้อเพลงนั้นขณะฟังด้วย มันจะเพิ่มความเร็วในการพูดของคุณและลดความเครียดเมื่อคุณต้องเรียน
การร้องตามเพลงโปรดของคุณเป็นภาษาอังกฤษจะช่วยพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้เยอะมาก และเมื่อคุณสามารถร้องเพลงของ Taylor Swift หรือ Charlie Puth หรือใครก็ตามได้แล้ว คุณก็จะสามารถท้าทายตัวเองได้อย่างเต็มที่กับ แร็พ นะคะ ฟังดูน่าสนใจและน่าสนุกตื่นเต้นใช่ไหมล่ะ
ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษ
ต้องบอกว่าการฝึกพูดภาษาต่างประเทศอย่างภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่าย การฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้เกิดการทบทวนและจดจำศัพท์ใหม่ ๆ ในการแต่งประโยคแล้ว ยังพบว่าทำให้มีแนวโน้มในการตัดสินใจได้ดีขึ้น คิดวิเคราะห์ได้ดีและเป็นระบบยิ่งขึ้นอีกด้วย
หากเราอยากฝึกพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ระหว่างนั้นเราต้องฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อน เอาง่าย ๆ คือเวลาคิดอะไรก็จะคิดเป็นภาษาไทย เราลองคิดสิ่งนั้นเป็นภาษาอังกฤษ พยายามอธิบายสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเป็นภาษาอังกฤษ เป็นขั้นต่อมาหลังจากสร้างสภาพแวดล้อมเป็นภาษาอังกฤษแล้ว
ถ้าคลังศัพท์ยังน้อยอยู่ลองเริ่มง่าย ๆ โดยมองไปรอบ ๆ โต๊ะทำงาน หรือรอบ ๆ ห้องแล้วคิดคำศัพท์ของสิ่งที่เห็นเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเพิ่งเรียนเกี่ยวกับคำคุณศัพท์หรือ adjective ศัพท์เกี่ยวกับอะไรก็ตามที่เราเพิ่งเรียนมาก็รีบเอามาฝึกทบทวน
เมื่อเริ่มมีคำศัพท์เพิ่มขึ้นก็หัดคิดพูดเป็นประโยคอธิบายสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ถึงเวลาที่ระดับภาษาอังกฤษพัฒนาก็จะคิดพัฒนาก็จะสามารถคิดแบบซับซ้อนได้ค่อย ๆ ไป
คุณสามารถฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษทุกที่ทุกเวลา ฝึกพูดภาษาอังกฤษเมื่อคุณคิดอะไรสักอย่าง หรือเมื่อคุณกำลังตัดสินใจว่าจะสั่งอาหารอะไร หรือคุณยังสามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษในขณะที่ค้นหาคำศัพท์ในพจนานุกรมได้อีกด้วย ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่ต้องใช้ภาษาไทยและแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกต่อไป คุณจะพบว่าเมื่อคุณคิดเป็นภาษาอังกฤษ การฝึกพูดภาษาอังกฤษจะง่ายขึ้นมาก
ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเองหน้ากระจก
ทุกครั้งที่คุณอยู่คนเดียว คุณสามารถฝึกภาษาอังกฤษกับเพื่อนคนที่ดีที่สุดของคุณ คือ ตัวคุณเอง! หากคุณได้เรียนรู้การคิดเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ให้ลองปล่อยความคิดเหล่านั้นออกไป พูดออกมาดัง ๆ อ่านออกเสียง ฝึกฝนทุกวันให้คุ้มค่า และแม้ว่าคุณจะไม่มีเพื่อนที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณ
แค่การที่คุณพูดออกมาดัง ๆ นั้น จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจที่จะพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น หากที่บ้านของคุณมีกระจก ลองยืนหน้ากระจกและฝึกพูดภาษาอังกฤษ เลือกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งหรือจะพูดอะไรก็ได้ ตั้งเวลา 2 หรือ 3 นาที แล้วพูดคุยกับตัวเอง
ดูเพิ่มเติมที่:
การออกเสียงภาษาอังกฤษ: แผนการปฏิบัติสุดเจ๋งสำหรับฝึกออกเสียงอย่างคล่องแคล่วใน 32 วัน
จุดประสงค์ของการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยวิธีนี้ คือ เราสามารถสังเกตรูปปาก ใบหน้า และภาษากายของเราในขณะที่พูด นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังสื่อสารกับคนอื่น ดังนั้นจงแกล้งทำเป็นว่าคุณกำลังสนทนากับเพื่อนร่วมชั้นเรียนของคุณ เวลาที่พูดภาษาอังกฤษกับตัวเองผ่านกระจกนั้น พยายามพูดโดยไม่หยุด
หากคุณพบคำศัพท์ที่คุณไม่รู้ ลองแสดงความคิดนั้นด้วยวิธีการใช้คำอื่นที่ มีความหมายคล้ายเคียงกันก็ได้ หลังจากนั้น คุณสามารถกลับไปหาทางพูดคำที่คุณลังเลได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณค้นหาคำและประโยคที่เหมาะสมในบริบทที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน และการที่เราฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเองผ่านกระจกนั้นจะทำให้คุณเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก
วางแผนฝึกพูดภาษาอังกฤษ วันละ 2 ชั่วโมง
ด้วยเคล็ดลับช่วยฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ Eng Breaking ได้แนะนำ ตอนนี้สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ คือ วางแผนสำหรับเคล็ดลับเหล่านั้นในตารางแผนการเรียนภาษาอังกฤษของเราทุก ๆ วัน และปฏิบัติตามแผนการเรียนนั้น โดยใช้เวลาในการเรียนภาษาอังกฤษวันละเพียง 2 ชั่วโมง นี่เป็นคำแนะนำจาก Eng Breaking ที่จะช่วยให้คุณจัดสรรเวลาได้ดังนี้
- ฝึกฟังภาษาอังกฤษใน 30 นาที: คุณสามารถฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษ ฟังเพลง ฟังข่าว ฟังช่อง youtube ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณชอบ โดยคุณสามารถเลือกแหล่งวิดีโอหรือไฟล์เสียงที่มาพร้อมกับสคริปต์ด้วย วิธีนี้จะช่วยให้คุณฝึกทักษะการฟังอย่างไม่รู้ตัวและสร้างสภาพแวดล้อมในการฝึกภาษาอังกฤษอย่างธรรมชาติ
- ฝึกการออกเสียง 30 นาที: จากที่ได้ฝึกฟังในขั้นตอนข้างต้นแล้ว คุณลองฝึกออกเสียงคำศัพท์ หรือสามารถฝึกอ่านข่าว หรือ บทสนทนาภาษาอังกฤษแบบดังๆ และพยายามให้การออกเสียงของคุณถูกต้องมีน้ำเสียงที่ใกล้เคียงกับบทสนทนามากที่สุด
- เรียนรู้และท่องจำคำศัพท์ 15 นาที: เรียนรู้คำศัพท์จากบทเรียนหรือบทสนทนาหรือเนื้อหาอะไรก็ได้ ที่ได้ฝึกฟังมาด้านบนแล้ว จงเรียนรู้คำศัพท์อย่างน้อย 5-10 คำต่อวัน และสร้างประโยคตัวอย่างกับคำนั้น อีกทั้งคุณสามารถเรียนตามวลี แทนที่เรียนรู้ความหมายของแต่ละคำ ตัวอย่างเช่น “have breakfasts” แทนที่จะใช้ “eat breakfast” มันจะช่วยให้คุณในการฝึกสมองและฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษโดยครง
- ฝึกพูดภาษาอังกฤษ 45 นาที โดยคุณสามารถประยุกต์ใช้เคล็ดลับทั้งหมดที่เราได้แนะนำ อย่างเช่น พูดเกี่ยวกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง พูดคนเดียว ฝึกพูดภาษาอังกฤษผ่านกระจก
วัดผลการเรียนรู้
หลังจากที่ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องวัดผลที่คุณได้ คุณควรเตรียมแบบฝึกหัดและทำตามแผนที่เราได้แนะนำให้ หรือแผนการเรียนรู้ที่สะดวกสบายกับตัวเองมากที่สุด แล้วลองบันทึกเสียงของตัวเองและเปิดมาฟังเพื่อดูว่าอันไหนคุณทำได้ อันไหนคุณยังทำไม่ได้ และพยายามเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง หนึ่งเดือนเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ
สำหรับการที่คุณจะรู้ว่าคุณมีความก้าวหน้ามากแค่ไหน ดังนั้นหากคุณฝึกฝนวันละ 2 ชั่วโมงเป็นนิสัย มันก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากและพยายามฝึกเป็นนิสัยอีกต่อไป รับรองว่าประมาณ 3 เดือนเท่านั้นคุณจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจน
คุณจะไม่ไปถึงไหน หากคุณไม่เริ่มต้น
คุณจะไม่ได้ผลลัพธ์ หากไม่มีเป้าหมาย แผนการที่ดี
และคุณจะทำอะไรไม่ได้เลย หากไม่มีวิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง!
เป็นยังไงบ้างกับบทความเกี่ยวกับเคล็ดลับเพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบคนเดียวที่ Eng Breaking ได้แนะนำมาในวันนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณสร้างแผนการเรียนภาษาอังกฤษที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับตัวเอง ได้ตั้งแต่วันนี้ ขอให้ผู้เรียนทุกคนจะได้ประสบความสำเร็จในการเดินทางพิชิตภาษาอังกฤษของคุณ!
ไม่พลาดกับบทความนี้ :
การออกเสียงภาษาอังกฤษจะไม่เป็นศัตรูของคุณอีกต่อไป ด้วย 8 วิธีง่าย ๆ นี้
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .