ถ้าฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น เราต้องพูดถึงทั้งสี่ทักษะ คือการฟัง พูด อ่าน และเขียนใช่ไหมคะ แต่ไม่ว่าใครก็สามารถเก่งได้ ถ้ามีทักษะเหล่านี้นะคะ บ้างคนมักจะเขียนเยอะ จำคำศัพท์ได้ดี แต่การออกเสียง การพูดไม่ได้เลย เพราะไม่มีวิธีการฝึกทักษะการพูดให้อย่างเหมาะสม การออกเสียงที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้คนอื่นไม่เข้าใจว่าคุณจะสื่อถึงอะไร คุณก็จะเจอปัญหาเมื่ออธิบายเรื่องต่าง ๆ กับคนอื่น เป็นต้น วันนี้ Eng Breaking จะ เผยเคล็คลับในการฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้นดีที่สุดปี 2022 ที่ไม่ควรพลาด
ฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น เป็นสี่งที่สำคัญมาก
- ถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษเก่งคุณจะมีโอกาสก้าวหน้าในด้านการทำงานมากขึ้น
- พูดภาษาอังกฤษดีจะช่วยให้คุณเสิรมสร้างความมั่นใจของต้นเอง เพราะว่าตอนนี้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล ใช้กันทั่วโลก ถ้าคุณพูดเก่งคุณจะสามารถสื่อสารอย่างมั่นใจต่อหน้าคนอื่น
- สามารถไปเที่ยวทุกที่โดยไม่ต้องการไกด์ด้วย เพราะคุณสามารถช่วยตัวเองได้ดีอยู่แล้ว อยากไปชอปปิ้ง ไปเที่ยว ไปที่ไหนก็ได้ ไม่กลัวหลงทาง เพราะสามารถสื่อสารได้เหมือนกับเจ้าของภาษา
- สามารถอ่านหนังสือ ดูหนัง ดูรายการต่างๆ ที่ไม่ต้องการซับจะช่วยคุณเสิรมสร้างความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างเมือง เรียนรู้ได้หลายสี่งใหม่ๆ ทุกวันเพราะแหล่งความรู้หลากหลายมากขึ้น
สาเหตุของการฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้นไม่ดีคืออะไร
ภาษาอังกฤษเป็นสี่งที่สำคัญมากในสมัยนี้ แต่ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้นที่ดี ถึงจะมีผลออกมาดีได้เช่นกัน การฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น ก็เป็นสี่งหนึ่งที่สำคัญแต่บ้างคนมักจะเดินผ่านจุด ๆ นี้ เพราะคิดว่าแค่มีคลังคำศัพท์พอใช้ แค่ผ่านบททดสอบจากที่โรงเรียนก็เพียงพอแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะว่าเมื่อคุณเจอคนใดคนหนึ่งที่เขาสื่อสารกับคุณเป็นภาษาอังกฤษรับรองว่าคุณจะตอบไม่ได้ เพราะไม่ค่อยฝึกพูดตั้งแต่เบื้องต้น พูดขาดๆ หายๆ ทำให้คนข้างๆ ไม่เข้าใจว่าคุณกำลังจะพูดอะไร อยากสื่อเรื่องอะไรกันแน่
ไม่ได้นำมาใช้งาน
เป็นสาเหตุหนึ่งที่หลายคนมักจะติดเพราะเรียนไปแต่ไม่ปฏิบัติไปตาม แค่อ่านหรือจำคำศัพท์อย่างเดียว แต่ไม่พยายามลองพูดออกมาว่าสำเนียงของตนเองถูกหรือยัง หรือคิดว่างานของเราไม่ต้องใช้เลย ไม่ต้องลงทุนมาฝึกพูดทำให้ทักษะการพูดตกต่ำไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียวที่ต้องเรียนไปพร้อมกับการปฏิบัติไปนะคะ การเรียนภาษาต้องฝึกทั้งหมดให้ครบทั้งสี่ทักษะ
ขาดความมั่นใจ
ถ้าคุณอยากเก่งภาษาอังกฤษแต่คุณไม่ค่อยฝึกทักษะการพูด คุณจะสำเสร็จไม่ได้นะคะ ดังนั้นคุณต้องมั่นใจในตัวเองก่อนว่าคุณจะทำได้แน่นอน พูดกับตัวเองว่าคุณสามมรถทำได้ “I can do it” ไปทุกวันก่อนที่จะทำเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คุณจะเห็นว่าเมื่อเรามีความั่นใจในตัวเองเราก็ชนะ 70% แล้วค่ะ 30% ที่เหลือจะคุณอยู่กับวิธีการเรียนของคุณเลือกได้ถูกต้องหรือยัง
เน้นแต่การฟัง แต่ไม่เน้นการพูด
บ้างคนชอบ ฝึกทักษะการฟัง มากก่วาพูด แต่จริง ๆ แล้ว การเรียนภาษาอังกฤษต้องใช้เวลาอย่างสม่ำเสมอกับทั้งสี่ทักษะคือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ไม่มีทักษะไหนที่ไม่สำคัญนะคะ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติคนหนึ่ง เขาถามคุณฟังแล้วเข้าใจแต่อยากตอบก็ตอบไม่ได้ เพราะอายเมื่อพูด อายที่จะพูดผิด กลัวที่จะเสียหน้าไป ดังนั้น ถ้าอยากเก่งจริง ๆ ต้องเน้นเรียนทั้งสี่ทักษะและใช้เวลาเหมาะสมกับทักษะทั้งหมดนี้
ไม่ชอบภาษาอังกฤษและไม่สนุกกับการเรียน:
หลายคนว่าไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษ และรู้สึกเบื่อมาก ไม่มีความสุขเมื่อเข้าเรียนเพราะไม่มีวิธีถูกต้อง หรือเรียนแบบที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองมากกว่า เลยเบื่อหน่าย ไม่อยากพูด ไม่อยากโต้ตอบกับคนอื่น เลยนานๆ ขาดทักษะการพูดไปโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้เรียนไปมีแต่เสียเวลาเปล่าๆ แบบไม่มีผลกลับมา
ขาดวินัย และแรงจูงใจในการฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างแรง
คุณคิดว่าตัวเองไม่มีโอกาสสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษเลยก็ไม่ค่อย ฝึกพูดภาษาอังกฤษ แบบจริงจังสักที การสร้างบรรยากาศสำหรับการเรียนไม่ยากนะคะ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากเรียนจริงใจหรือไม่ เรียนเพื่ออะไร ถ้าอยากเก่งจริง เพื่ออยากหาโอกาสด้านการทำงานในอนาคตจริงคุณก็ต้องเอามันเป็นแรงจูงใจในการเรียน เมื่อคุณมีเป้าหมายแล้วคุณถึงจะรู้เลยว่าเราต้องเลือกวิธีเรียนแบบไหน ควรหาเพื่อนที่ห้องเรียน หรือหาเพื่อนชาวต่างชาติเพื่อชวนคุยกัน สร้างบทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ
เผยเคล็คลับในการฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้นให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!
หากใครๆ ที่กำลังเจอปัญหา ฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น ไม่รู้ว่าควรเริ่มอะไรจากไหนก็อย่าท้อแท้เพราะว่าทุกปัญหาก็มีทางการแก้ไขได้ และอย่าพลาดเคล็ดลับในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ ให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ ดังนี้
Tip 1 : คิดเป็นภาษาอังกฤษ
อย่าแปลกนะคะเพราะว่าถ้าคุณอยากพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษคุณต้องลองคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะคะ เรื่องนี้จริง ๆ แล้วก็ไม่ยาก เราเตรียมคลังคำศัพท์ดีๆ ก่อน แล้วหากเจออะไรก็ลองอธิบายเป็นภาษาอังกฤษแทนที่จะคิดเป็นภาษาไทยอย่างเช่น
คุณลองฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษก่อน มันจะทำให้การพูดได้คล่องมากขึ้น แต่อย่าคิดไปนานมากนะคะถ้าคุณประยุกต์ใช้เรื่องนี้ไปสัก สองถึงสามครั้งคุณก็จะชินและเมื่อพูดจะฟังดีขึ้นแน่นอนเพราะมีการเตรียมตัวไว้แล้ว
ใช้ประโยคที่แสดงความคิดเห็นในภาษาอังกฤษ
– I think… ฉันคิดว่า
– I think so… ฉันคิดว่าอย่างนั้น
– In my view/ opinion… ในมุมมอง / ความคิดเห็นของฉัน
– I’d just like to say… ฉันแค่อยากจะบอกว่า
– Well, to my mind… ในความคิดเห็นของฉัน …
– If you ask me… ถ้าคุณถามฉัน…
– I consider…ฉันคิดว่า …
– From where I stand… หมายถึงจากความมุมมอง/ จากความคิดของฉัน
Tip 2 : ฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น – พูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ
ไม่ตลกนะคะเรื่องพูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ถ้าคุณยังไม่ค่อยมันใจเมื่อพูดต่อหน้าคนอื่น คุณก็ยังฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น ได้ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถเห็นตัวเองตอนพูดท่าทาง สำเนียงเป็นอย่างไร การออกเสียงดูดีไหม บ้างคนชอบใช้ Body Language ด้วยในการพูดก็ทำให้ตัวเองไม่ได้ตื่นตัวมากไป และสามารถพูดเกี่ยวกับหลายๆ หัวข้อเริ่มจากหัวข้อที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น เรื่องแนะนำตัวเอง เรื่องงานอดิเรก พูดเกี่ยวกับเพื่อนสนิดคนหนึ่ง เกี่ยวกับอาจารย์ของคุณ ห้องเรียนของคุณ เป็นต้น
เพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้นคุณควรเลือกหนังสือเล่มโปรดมาอ่านออกเสียงดังๆ เริ่มต้นไม่ต้องอ่านเร็ว ค่อย ๆ อ่าน เว้นวรรคให้ถูก ปรับสำเนียงไปด้วย อ่านวันละนิด ถ้าเจอคำไหนไม่รู้ก็จดไว้แล้วลองหาวิธการออกเสียงจากช่อง Youtube ดูนะคะ นอกจากนี้คุณลองบันทึกเสียงสิ่งที่อ่านหรือพูด แล้วฟังเพื่อหาข้อดีข้อเสียในการออกเสียงและสำเนียงของตัวเอง ปรับไปเรื่อย ๆ เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งคุณจะทำได้ มีความก้าวกระโดดในการเรียนภาษาอังกฤษ
Tip 3 : ฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น – หาเพื่อนหรือคู่หูมาเป็นคู่ฝึก
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆที่สุด คือการเรียนรู้ที่มีเพื่อนคนที่เก่ง ที่เป็นมาเรียนด้วย เขาจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เราทำตาม เป็นแรงจูงใจให้เราพยายามเรียนตามทุกวัน เขาก็จะมีประสบการณ์ที่สามารถแชร์ต่อกับเราเพื่อการเรียนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการฝึกพูดภาษาอังกฤษ จะดีที่สุดถ้ามีคู่สร้างบทสนทนา ถามมา ตอบไป มีการปฏิบัติจริงจะทำให้คุณจำคำศัพท์ได้นาน ฝึกการออกเสียงได้ดี
Tip 4 : ดูรายการโทรทัศน์, ซีรี่ย์, ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ, เพลง
เมื่อรู้สึกชอบอะไรสักอย่างคุณจะมีแรงจูงใจเรียนมากขึ้น การเรียนภาษาอังกฤษก็เช่นกัน ถ้าคุณเลือกรายการทีวีที่ชอบ ฟังว่าเขาพูดว่าอะไร แล้วพูดตามทีละบรรทัดจะช่วยคุณปรับการออกเสียง ไม่ต้องกังวลมากเกี่ยวกับเรื่องความหมายของประโยคที่คุณกำลังจะอ่าน เพราะเรากำลังฝึกสำเนียง ยังไม่ต้องสนใจถึงความหมายของประโยคนั้น หลังจากอ่านได้คล่องแล้ว เว้นวรรคถูกที่แล้ว เราค่อยๆ เขียนมาแล้วหาความหมายก็ได้
นอกจากนั้นคุณก็เลือกเพลงที่ชอบ เพลงที่ฮิต มาร้องตาม การร้องแพลงเป็นภาษาอังกฤษตามแพลงโปรดหรือนักร้องที่เราชื่นชอบจะทำให้เราออกเสียงตามได้ง่ายขึ้น คุณสามารถเลือกเพลงหลายแบบ ถ้าคุณฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น คุณลองเลือกเพลงแบบช้า ๆ เช่นประเภท Pop, country, folk…
ทำไมภาษาอังกฤษถึงมีผลกับชีวิตฉันมากขนาดนี้?? >> ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
Tip 5 : เรียนรู้วลี (phrase) และสำนวน (Idioms)ภาษาอังกฤษ
ในภาษาอังกฤษมีหลายคำศัพท์ และประโยคที่เพราะ ใช้ได้ดีในหลายๆ กรณี ถ้าพูดออกมารับรองชาวต่างชาติต้องบอกว่าเจ๋ง ดังนี้
เรียนรู้วลี (phrase) ที่ต่างชาติมักจะใช้บ่อย
Alive as well หมายความว่า สบายดี
All systems go หมายความว่าทุกอย่างพร้อม
Anything goes หมายความว่า อะไรก็ได้ , ได้หมด
Almost done หมายความว่า เกือบเสร็จแล้ว
Always the same. เหมือนเดิมตลอด
And away we go หมายความว่า ไปกันได้แล้ว
Back to square one หมายความว่า กลับไปเริ่มต้นใหม่
Don’t go yet หมายความว่า อย่าพึ่งไป
Calm down หมายความว่า ใจเย็นๆ
Don’t mention it / Not at all หมายความว่า ไม่เป็นไร
Don’t take it to heart หมายความว่า อย่าไปใส่ใจ
Everything is ready. ทุกอย่างพร้อมแล้ว
Everyone, let’s go ทุกคนไปกันเถอะ
Is that so? หมายความว่า อย่างนั้นหรือ?
How come? หมายความว่า ทำไมล่ะ?
How cute! ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้!
Good job / Well done หมายความว่า ดีมาก
Give way to หมายความว่า ยอมตาม หรือ ตามใจ
Go for it หมายความว่า ลงมือทำเลย
Go for a walk หมายความว่า ไปเดินเล่น
Sorry for bothering หรือ Excuse me for interrupting หมายความว่า ขอโทษที่รบกวน
Just kidding (joking) หมายความว่า ล้อเล่น
Try your best หมายความว่า พยายามให้ถึงที่สุด
I will take your word for it หมายความว่า ฉันจะเชื่อคุณ
The same as usual หมายความว่า เหมือนเดิม
Thanks for everything. ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง
Right on! หมายความว่า ถูกต้อง
No, not a bit หมายความว่า ไม่เป็นอะไรเลย
Strike it lucky หมายความว่า โชคดีนะ
สำนวนภาษาอังกฤษที่ฟังแล้วต่างชาติจะต้อง “Wow” แน่ๆ ยกตังอย่างเช่น
“A picture is worth a thousand words” หมายความว่า พูดเรื่องอะไรก็สมเหตุสมผล มีหลักฐาน
“See eye to eye” ถ้าจะให้เปรียบเทียบเป็นสำนวนแบบไทยๆ แล้วก็จะประมาณว่ามองตาก็รู้ใจ สำนวนนี้ทั้งไทย ทั้งต่างชาติใช้กันเยอะ
“Love you, love your dog” หมายความว่า ถ้ารักอะไรแล้ว ก็รักทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรารัก
“A blessing in disguise” หมายความว่า ในเรื่องที่เสี่ยง หรือไม่ดี ก็จะมีอะไรสักอย่างที่ดี ที่หวังได้
“Like Father, Like son” ที่หมายถึง พ่อเป็นอย่างไร ลูกก็คล้าย ๆ กันกับผู้ที่เป็นพ่อ เนื่องจากพ่อแม่ มีอิทธิพลต่อลูก ทั้งหน้าตาเเละอุปนิสัยใจคอ ถ้าเทียบกับสำนวนไทยจะเป็น ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
“Win some, lose some” หมายความว่า เราชนะบ้าง แพ้บ้าง หรือพูดง่ายๆ ว่า มีได้ก็ต้องมีเสีย
ไม่ควรใช้ พวกคำศัพท์นี้เยอะไปเช่น “ahh”, “uhm”, “oh”, “you know”, “so”, “like”… เพราะว่าคนฟังจะรู้สึกเบื่อและคิดว่าคุณพูดไม่ดี ไม่มีการเตรียมพร้อมก่อนที่จะพูดเกี่ยวกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
Tip 6: พูดคุยภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้บ่อยที่สุด
มีหลากหลายหัวข้อที่เราสามารถเอามาสร้างเป็นบทสนทนา สำคัญคือเราต้องการการเตรียมพร้อมคลังคำศัพท์ก่อนเพื่อโต้ตอบได้ดี ได้คล่องมากขึ้น อย่างเช่น
1.การทักทาย/แนะนำตัว
Hello, my name is ‘….’. สวัสดีฉันชื่อ….
Nice to meet you. ยินดีที่ได้รู้จัก
Where are you from? คุณมาจากไหน?
I’m from… ฉันมาจาก…
How are you? คุณสบายดีไหม?
How old are you? คุณอายุเท่าไหร่?
Fine thanks, and you? ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะ?
How long have you been here for? คุณอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว
2.งานอดิเรก/เวลาว่าง
What have you been doing? ช่วงนี้คุณทำอะไรบ้าง?
What’s your favorite …? คุณชอบ….แบบไหน? (สามารถถามเกี่ยวกับ Food, movie, sport, singer…)
What animals do you like? คุณชอบสัตว์อะไร?
What kind of music do you like? คุณชอบเพลงแนวไหน?
What kind of fruit do you like? คุณชอบผลไม้อะไร?
ที่คำตอบจะเป็น I like … ฉันชอบ…
หรือ
Do you like bananas? คุณชอบกล้วยไหม? ที่คำตอบจะเป็น ชอบ หรือไม่ชอบ (Yes or No)
ยังมีหลายๆ หัวข้อ ที่คุณสามารถหยิบมาใช้ เช่นเรื่องที่ร้านขายยา เรื่องที่โรงหนัง เรื่องการแต่งกาย เรื่องอาหารการกิน เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องเกี่ยวกับเพื่อนสนิท เรื่องไปชอปปิ้ง เรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก เรื่องกีฬา…เพื่อ ฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น เริ่มจากหัวข้อที่ง่ายๆ คำศัพท์จอดจำได้ง่าย เมื่อชินแล้วก็เริ่มกับหัวข้อที่ยากกว่า ลองฝึกไปเรื่อยๆ รับรองว่าทักษะการพูดของคุณจะดีขึ้นแน่นอน
Tip 7: ฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น – เลียนแบบตามสำเนียงคนอื่น
อันนี้หมายถึงว่าคุณจะฝึกการพูด ออกเสียงตามชาวต่างชาติเพื่อฝึกพูดภาษาอังกฤษ คุณจะหาวิดีโอและดูไปหลายครั้งได้จากช่อง Youtube, สำหรับคนที่เริ่มต้น มีคลังคำศัพท์ยังไม่เยอะ ก็ลองหาช่อง Youtube ที่มีเพลงของเด็กๆ หรือดู cartoon แล้วค่อยๆ ดูรายการข่าวสารต่างๆ จะทำให้คุณไม่ Shock เพราะในเวลาสั้นๆ ต้องเรียนคำศัพท์ใหม่ และยากๆ เยอะไปหัดพูดตามคนที่คุณดูในช่อง Youtube จะทำให้การพูดของคุณได้คล่อง ตอนพูดก็เว้นวรรคให้ถูก สามารถใช้ Body Language ด้วยถ้ามันทำให้คุณหายตื่นเต้น
สำหรับการฝึกพูดยิ่งช้า ออกเสียงถูกยิ่งดี พูดไม่ต้องเร็วเพราะถ้าคุณพูดเร็วคนอื่นก็จะตามไม่ทันแถมออกเสียงไม่ถูก ทำให้การฝึกพูดจะไม่มีผลประโยชน์อะไรเลย มีหลายคนก็เลือกดูรายการ “The Voice US” เพราะ สำเนียงเพราะ มีการโต้ตอบขำๆ และมีเพลงดีๆ ให้เราฟังแล้วรู้สึกหายเหนื่อย
Tip 8: เรียนรู้ ‘Phonetics‘ ตัวช่วยในการอัพเกรดสำเนียงภาษาอังกฤษ
การเน้นเสียงในภาษาอังกฤษ และหารออกเสียงอย่างไรให้ถูกต้องสำคัญมากสำหรับการ ฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น
ถ้าคุณอยากเก่ง อยากได้สำเนียงเหมือนเจ้าของภาษา ก็ต้องเริ่มจากการฝึกพูด ฝึกออกเสียงให้ถูกต้องก่อนเช่นเริ่มจากการทำความรู้จักตาราง ‘Phonetics’ ตัวช่วยในการอัพเกรดสำเนียงภาษาอังกฤษ
นอกจากนั้นคุณสามารถหาวิดีโอที่สอนวิธีการออกเสียง คำศัพท์ไหนควรเน้นเสียงอย่างไรจากช่อง Youtube ต่าง ๆ และสามารถเขียนมา ขีดใต้คำที่ต้องเน้นเสียง ทำไปสองถึงสามครั้งคุณจะจำได้นานและประยุกต์ใช้ได้ดีขึ้น
Tip 9: อยู่อย่างสบายใจเมื่อพูดภาษาอังกฤษ
คุณอย่าเครียดมากถ้ายังพูดไม่ดี เพราะว่าคุณอาจจะยังไม่มีวิธีการเรียนที่เหมาะสม สำคัญคือตอนที่คุณเรียนคุณกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าพูด ไม่กลัวผิด เพราะไม่มีใครที่เกิดมาก็เก่งแล้ว ทุกคนต้องผ่านการฝึกไปฝึกมา คุณก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครล้อเมื่อคุณออกเสียงผิด หรือไม่ต้องอายเพราะพูดผิด เพราะเมื่อคุณกล้าพูด กล้าฝึกเราเชื่อว่าคุณจะทำได้ จะก้าวกระโดดในฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น
สรุป
ดังนี้คือบทรวบรวมประสบการณ์ในด้านการฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้น ที่สามารถช่วยคุณก้าวกระโดดบนการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง อย่าลืมสร้างแผนและเลือกวิธีการเรียนให้เหมาะสมกับตัวเอง และต้องตั้งใจเรียนไปทุกวัน รับรองว่าอีกไม่นานผลการเรียนภาษาอังกฤษของคุณจะก้าวหน้ากว่าจุดเดิมไปเยอะเลยทีเดียว
อย่าลืมติดตาม EngBreaking.co.th เว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาได้ทั้งสี่ทักษะการฟัง- พูด- อ่าน- เขียน พร้อมเผยเคล็ดลับต่างๆ ข้อมูลอัพเดทใหม่ทุกวันให้คุณความเลือกดีๆ เพื่อการก้าวกระโดดในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เรียนกับเรา EngBreaking คุณสามารถ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา.
-
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .