การอ่าน นิยายภาษาอังกฤษ ไม่เพียง “ปรับปรุง” ทักษะการอ่านของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานและความบันเทิงอีกด้วย
นวนิยายภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยมทั้ง 11 เล่มสำหรับผู้เริ่มต้นจะช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเองอย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ!
1 – ประโยชน์ของการอ่าน นิยายภาษาอังกฤษ
การเรียนภาษาอังกฤษโดยการอ่านหนังสือ การอ่านนวนิยายเป็นวิธีการเรียนแบบดั้งเดิมแต่มีประสิทธิภาพมาก
การอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษเปรียบได้กับการดูหนังหรือฟังเพลงเพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษ นี่คือวิธีที่จะช่วยให้คุณทั้งสนุกสนานและซึมซับความรู้ใหม่ๆ
1.1 – คุณจะภูมิใจมากทุกครั้งที่อ่าน นิยายภาษาอังกฤษ จบ
การแต่งนิยายให้จบรู้สึกเหมือนเพิ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอ่านเป็นภาษาไทย
ในขณะที่อ่านนวนิยายภาษาอังกฤษ คุณจะพบกับความยากลำบากมากมายและสัมผัสกับอารมณ์ที่แตกต่างกันมากมาย
อ่านตอนแรกจะตื่นเต้นมาก พออ่านไม่เข้าใจก็อาจจะเบื่อ ท้อแท้
แต่เมื่อคุณอ่านถึงบรรทัดสุดท้ายของนิยาย คุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างมากกับการเดินทางที่คุณได้พบเจอ
1.2 – นิยายภาษาอังกฤษ เปิดโลกทัศน์ความรู้ใหม่
การอ่านหนังสือ การอ่านนวนิยาย ช่วยให้คุณรู้และเข้าใจสิ่งใหม่ๆ มากมายที่คุณไม่มีโอกาสได้สัมผัสในชีวิต
นี่เป็นช่องทางให้คุณได้รู้จักสิ่งใหม่ ๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรม สังคม ภาษา … หรือด้านอื่น ๆ ของชีวิต
หนังสือยังมีความสามารถในการเปลี่ยนมุมมองและความคิดของคุณ
นอกจากนี้ การอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษจะช่วยให้คุณพัฒนาคำศัพท์ของคุณ ขึ้นอยู่กับประเภทของนวนิยายที่คุณเลือกอ่าน คุณจะพบทั้งคำศัพท์ทางวิชาการใหม่ๆ และคำศัพท์ที่เจ้าของภาษาใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับการฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์ การอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษช่วยให้คุณควบคุมความเร็วในการอ่านของคุณเองได้
คุณสามารถอ่านเร็วหรือช้าเท่าที่คุณต้องการ หากมีบางสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ ให้อ่านซ้ำอีกครั้ง
1.3 – การอ่าน นิยายภาษาอังกฤษ ทำให้คุณจะมีความสนุกมากๆ
การอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษเป็นกระบวนการที่ผ่อนคลาย หากคุณเลือกนิยายที่ยากเกินไป คุณจะท้อใจได้ง่ายตั้งแต่บรรทัดแรก เพราะคุณไม่เข้าใจ
เลือกหนังสือที่เหมาะกับคุณเพื่อให้ประสบการณ์สนุกที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดคือ อ่านหนังสือประเภทหรือหัวข้อที่คุณชื่นชอบ เพื่อค้นหาความสุขที่แท้จริงในการอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษนะ
ดูเพิ่มเติม:
2 – อ่านอย่างไรให้ได้ผล?
2.1 – เลือกนวนิยายที่เหมาะกับความสนใจและระดับของตัวเอง
ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น การเลือกนวนิยายที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณไม่ต้องการหมดกำลังใจก่อนที่คุณจะสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดี
หนังสือที่เหมาะกับคุณ ตามรสนิยมของคุณจะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับมันได้อย่างง่ายดาย
มีสองปัจจัยที่คุณต้องจำไว้เพื่อเลือกนวนิยายที่เหมาะสม:
- เลือกประเภทที่คุณชื่นชอบ: มีนวนิยายหลายประเภท เช่น อัตชีวประวัติ การผจญภัย นักสืบ เทพนิยาย บันเทิงคดี ฯลฯ
- เลือกนิยายที่เหมาะกับระดับของคุณ: คุณต้องรู้ระดับของตัวเองเพื่อเลือกหนังสือที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงหนังสือเฉพาะทาง หนังสือที่มีวิชาการสูงหรือหนังสือโบราณ คุณควรเลือกหนังสือสำหรับเด็ก
*เคล็ดลับในการดูว่านวนิยายภาษาอังกฤษเหมาะกับคุณหรือไม่: เปิดไปที่หน้าใดก็ได้ในหนังสือ หากมีคำศัพท์ใหม่มากกว่า 10 คำที่คุณไม่เข้าใจ แสดงว่าหนังสือนั้นไม่เหมาะกับคุณ
2.2 – สร้างนิสัยรักการอ่านอย่างสม่ำเสมอ
หากคุณเป็นคนที่รักการอ่านแล้วทุกอย่างจะง่ายมาก ตรงกันข้าม คุณต้องมีความอดทนก่อนที่จะสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับตัวเอง
เริ่มแรก ตั้งเวลาอ่านหนังสือประมาณ 15-30 นาทีต่อวัน จากนั้นเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย คุณจะรู้ว่าคุณหลงรักการอ่านมานานแค่ไหนแล้ว
2.3 – พัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยการอ่าน นิยายภาษาอังกฤษ
ถ้าคุณอยาก อ่านนิยายภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ คุณต้องใส่ใจกับขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเนื้อหาของนวนิยายก่อนที่คุณจะเริ่มอ่าน: ขั้นตอนนี้ช่วยให้คุณมีภาพรวมทั่วไปที่สุดของหัวข้อและประเภทที่คุณกำลังจะอ่าน ในการระบุเนื้อหา คุณสามารถดูผ่านสารบัญ อ่านชื่อเรื่อง ดูภาพประกอบ ฯลฯ
ขั้นตอนที่ 2: อ่านช้าๆ คุณไม่จำเป็นต้องอ่านเร็วจนพลาดรายละเอียดสำคัญในเนื้อหาของนวนิยายภาษาอังกฤษ รักษาความเร็วในการอ่านให้คงที่
ขั้นตอนที่ 3: จดบันทึกขณะอ่าน ในกระบวนการอ่านนวนิยายภาษาอังกฤษ คุณควรจดคำศัพท์ใหม่ โครงสร้างใหม่ที่คุณไม่รู้จัก คุณยังสามารถอ่านประโยคซ้ำเพื่อทำความเข้าใจบริบทและเดาความหมายโดยไม่ต้องใช้พจนานุกรม
ขั้นตอนที่ 4: อ่านครั้งเดียวไม่พอ นิสัยชอบอ่านหนังสือหรือนวนิยายเรื่องใดเรื่องหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายๆ ครั้ง จะช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาได้ละเอียดยิ่งขึ้น จดจำได้นานขึ้น และนำความรู้ไปใช้ได้ดีขึ้น
3 – นิยายภาษาอังกฤษ ที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น
3.1 – Where the Crawdads Sing – Delia Owens
นิยายภาษาอังกฤษที่ไม่ควรพลาดคือ Where the Crawdads Sing เพราะขายดีพอที่จะสร้างเป็นภาพยนตร์ เป็นวรรณกรรมแนวลึกลับสืบสวนสอบสวน
นิยายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวชื่อ Kaya ที่อาศัยอยู่ตามลำพังบนชายฝั่งของ North Carolina จนกระทั่งเธอเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมเมื่อพบศพของชายหนุ่มบนชายหาด
และสุดท้ายเธอก็สงสัยว่าสุดท้ายแล้วเธอจะเป็นคนลงมือฆ่าหรือไม่?
3.2 – The Midnight Library – Matt Haig
The Midnight Library หรือฉบับแปลไทยในชื่อ ห้องสมุดเที่ยงคืน เป็นผลงานนวนิยายอังกฤษจาก แมตต์ เฮก ที่ติดอันดับขายดีตลอดเวลาและสร้างปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วโลก
ด้วยวิธีการเล่าอย่างราบเรียบแต่สะเทือนอารมณ์ ดำเนินเรื่องโดย นอรา ซีด หญิงวัย 35 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ทว่าในตอนเที่ยงคืน เธอฟื้นขึ้นมาที่ห้องสมุดแห่งหนึ่งและพบกับมิสซิสเอล์ม
เธอผู้นี้เป็นใคร มีความสำคัญอย่างไรกับนอรา และเหตุใดนอราต้องตื่นขึ้นมาที่นี่ โปรดหาคำตอบในเล่ม
3.3 – The Old Man and The Sea – Hemingway
>>> ดาวน์โหลดไฟล์ PDF
“The Old Man and The Sea” บอกเล่าเรื่องราวของชาวประมงชราผู้กล้าหาญและการต่อสู้กับปลามาร์ลินยักษ์ นี่คือนวนิยายที่มีชื่อเสียงที่สุดของนักเขียน Hemingway.
ด้วยรูปแบบที่โดดเด่น โครงเรื่องที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะโครงสร้างประโยคที่กระชับมาก นวนิยายภาษาอังกฤษเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
3.4 – Alice in Wonderland – Lewis Carroll
>>> ดาวน์โหลดไฟล์ PDF
“ Alice in Wonderland” คือความฝันของอลิซเกี่ยวกับการเดินทางสู่ดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาดและคาดไม่ถึง
“Alice in Wonderland” เป็นหนังสือเด็กคลาสสิกที่เป็นที่รักของผู้อ่านทั่วโลกและได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์
3.5 – Pinocchio – Carlo Collodi
>>> ดาวน์โหลดไฟล์ PDF
นี่คือนวนิยายภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดในเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
“ Pinocchio” เป็นเรื่องราวของเด็กชายที่ทำด้วยไม้ซึ่งมีจมูกที่ยาวขึ้นทุกครั้งที่เขาโกหก นี่คือหนังสือที่มีภาษาที่เรียบง่าย น่ารัก และโครงเรื่องที่มีมนุษยธรรม
3.6 – I Know Why the Caged Bird Sings – Maya Angelou
สำหรับเรื่อง I Know Why the Caged Bird Sings เป็นนวนิยายอังกฤษที่มีฉบับแปลไทยในชื่อที่ไพเราะงดงามอย่าง ฉันรู้ว่าไยนกในกรงจึงขับขาน
นิยายเล่มนี้บอกได้เลยว่าปวดตับ เพราะมีเนื้อหาที่เล่าประเด็นทางสังคมมากมายผ่านชีวิตอันทุกข์ยากของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นการกดขี่ข่มเหงทางเชื้อชาติ
การใช้ความรุนแรง และเรื่องเลวร้ายที่ทำให้เราเห็นโลกความเป็นจริงผ่านภาษาอันสละสลวยนี้
3.6 – The Great Gatsby – F. Scott Fitzgerald
>>> ดาวน์โหลดไฟล์ PDF
พูดถึงสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ “The Great Gatsby” เป็นชื่อที่ไม่ควรพลาด ทั้งนวนิยายต้นฉบับและภาพยนตร์ของงานนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้เรียนภาษาอังกฤษ
นวนิยายเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของ Jay Gatsby ตั้งแต่ช่วงวัยหนุ่มที่น่าสมเพช ความรัก ขึ้นๆ ลงๆ จนกลายเป็นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งในสังคมอเมริกันในช่วงทศวรรษที่ 20 ของศตวรรษที่ผ่านมา
3.7 – The Giver – Lois Lowry
>>> ดาวน์โหลดไฟล์ PDF
“The Giver” เปิดภาพสังคมแห่งอนาคตของมนุษยชาติ ที่นั่น พฤติกรรมด้านลบ ความผิดพลาด หรืออันตรายใดๆ จะหมดไป
นวนิยายเรื่องนี้จะทำให้คุณหลงใหลตั้งแต่คำแรก
ความพิเศษของ “The Giver” คือ เนื้อหาชัดเจนมาก ผู้เขียนใช้ประโยคสั้นๆ ไวยากรณ์ที่เข้าใจง่าย โครงสร้างไวยากรณ์ส่วนใหญ่ในหนังสือเล่มนี้ใช้ในกาลที่ผ่านมาและกาลที่สมบูรณ์แบบในอดีต
3.8 – The Silent Patient – Alex Michaelides
ที่ดำเนินเรื่องโดย อลิเซีย จิตรกรสาว ผู้ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมสามีของตัวเอง แต่ศาลตัดสินให้เธอพ้นคุก และต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวช นับตั้งแต่สามีตาย
เธอก็ไม่พูดอะไรอีกเลย และไม่มีใครได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วใครคือฆาตกรกันแน่ นักบำบัดจิตจึงต้องเข้ามาหาวิธีช่วยให้เธอพูดความจริง
3.9 – Mieko and the 5th Treasure – Eleanor Coerr
>>> ดาวน์โหลดไฟล์ PDF
“Mieko and the 5th Treasure” เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Mieko – จิตรกรและนักประดิษฐ์ตัวอักษรที่มีพรสวรรค์ หลังจากได้รับบาดเจ็บที่มืออย่างรุนแรงหลังสงคราม มิเอโกะกลับไปบ้านเกิดของเธอเพื่ออยู่กับปู่ย่าของเธอ
เธอกลัวมากที่จะสูญเสียสมบัติชิ้นที่ห้า – ความงามของจิตวิญญาณ สมบัตินี้เป็นกุญแจสู่ความสุขและความงามทางศิลปะของเธอ
นี่ไม่ใช่นวนิยายยอดนิยม แต่เป็นความยาวที่ดีมากสำหรับผู้เริ่มต้น – เพียงประมาณ 77 หน้า
นี่คือหนังสือสำหรับเยาวชนเจ้าของภาษา เนื้อหาจึงไม่ยากเกินไปที่จะเข้าใจ อ่านง่ายมาก
4 – สรุป
เห็นได้ชัดว่าการอ่านนิยายภาษาอังกฤษจะเปิดคุณสู่โลกใบใหม่ ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ในขณะที่ดื่มด่ำไปกับขุมทรัพย์ของวรรณกรรมหลายประเภท
Eng Breaking เชื่อว่าด้วยนวนิยายภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นกว่า 11 เล่มข้างต้น การเรียนรู้ภาษาอังกฤษของคุณจะไม่มีอะไรน่าสนใจมากกว่านี้
คุณก็อาจจะสนใจ:
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .