นามนับได้ – นามนับไม่ได้ – คุณรู้ไหมว่า คำนามใดคือคำนามนับได้และคำนามใดคือคำนามที่นับไม่ได้ ส่วนไวยากรณ์นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในภาษาอังกฤษที่ไม่ควรมองผ่านนะคะ
เนื่องจากคำนามทั้ง 2 กลุ่มนี้มีหลักการใช้คำนำหน้าและคำกิริยาที่แตกต่างกันวันนี้เราจะมาดูกันว่าคำนามเหล่านี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร ใช้ในกรณีไหน พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย
เพื่อความเข้าใจอย่างง่ายดาย บทความเกี่ยกับ คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นี้ของเราจะได้แบ่งเป็น สี่ส่วนเนื้อหาหลักๆ ที่ผู้เรียนสามารถติดตามง่ายๆ ดังนี้
- คำนามนับได้ (Countable Nouns) คืออะไร
- คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Nouns) คืออะไร
- วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
- แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ พร้อมข้อเฉลย
ก่อนอื่นเราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดกันนะคะ
1 – คำนามนับได้ (Countable Noun) คืออะไร
ในบทความนี้เราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้ (Countable Noun) กันนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ
สำหรับคำนามที่เราสามารถระบุได้ว่ามี กี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง ฯลฯ เข้าใจง่ายๆ คือคำนามที่เราสามารถนับและระบุจำนวนได้อย่างชัดเจน
คำนามเหล่านั้นจะเรียกว่า Countable Noun แปลเป็นไทยโดยตรงคือคำนามนับได้
- Singular: (เอกพจน์) คือนามที่มีอันเดียวชิ้นเดียว
- Plural: (พหูพจน์) คือนามที่มีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป
หากอยู่ในรูปเอกพจน์ คำนามนับได้เหล่านี้จะใช้ “a” หรือ “an” นำหน้า หากต้องการทราบจำนวนของคำนามนับได้เหล่านี้ จะถามโดยใช้ “How many?” ตามด้วยคำนามนับได้พหูพจน์ เช่น
เอกพจน์ | พหูพจน์ |
one dog | two dogs |
one horse | two horses |
one idea | two men |
one shop | two ideas |
one man | two shops |
One Boy | Three boys |
One Bird | Four Birds |
One Book | Two books |
One pencil | Five pencils |
ตัวอย่างเช่น
- She has three dogs. แปลว่า เธอมีสุนัขสามตัว
- I own a house. แปลว่า ฉันเป็นเจ้าของบ้าน
- I would like two books please. แปลว่า ฉันต้องการหนังสือสองเล่มโปรด
- How many friends do you have? แปลว่า คุณมีเพื่อนกี่คน?
คำนามนับได้ (Countable Noun) มีสองประเภคคือ (single) และ (plural) คำนามนับได้แบบ single พูดถึงจำนวนน้อยคือ 1 ที่มักจะอยู่ด้านหลังของคำว่า “a/an” หรือ one ยกตัวอย่างเช่น a pen, one table,…
ส่วนคำนามนับได้แบบ plural พูดถึงจำนวนตั้งแต่ 2 ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น pens, tables,…
ถ้าอยากเปลี่ยนจากคำนามนับได้ single เป็นคำนามนับได้แบบ plural ง่ายมากๆ แค่เพิ่มตัว ‘s’ในตัวอักษรสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น: pen → pens, table → tables,…
แต่ก็มีบ้างคำศัพท์อยู่ในกรณีพิเศษเช่น
- คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้าย (ลงท้ายด้วย) เป็น CH, SH, S, X, O ต้องเพิ่ม “es” เข้าตัวอักษรสุดท้าย
เช่น: a class → classes, a bus → Buses, Brush →Brushes, Math → Matches, Box→ Boxes, Fox → Foxes
- คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น Y เมื่ออยากเปลี่ยนเป็นคำนาม plural เราจะเปลี่ยนตัวอักษร “y” เป็น “i” และเพิ่ม “es”
เช่นคำว่า: a candy → candies, City→ Cities, Duty→Duties, Day → Days, Boy → Boys, Key → Keys
- คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น F, FE, FF เราลบทิ้งไปและเอาตัว “ves” แทนตัวอักษรสุดท้าย.
ยกตัวอย่างเช่น: A knife → knives
- เติม “es” ท้ายคำนามที่ลงท้ายด้วย “o” และหน้า “o” เป็นพยัญชนะ
เช่น: radio → radios, Bamboo → Bamboos, Photo→ Photos, Piano→ Pianos
หมายเหตุ:
มีคำนามบ้างคำที่อยู่ในกรณีพิเศษ หมายถึงว่ามันจะไม่ตามเกณ์ที่พูดดังกล่าว ลองดูตามตารางดังต่อไปนี้กันนะคะ
คำนาม single | คำนาม plural | ความหมายภาษาไทย |
man | men | ผู้ชาย |
woman | women | ผู้หญิง |
child | children | เด็ก |
sheep | sheep | แกะ |
tooth | teeth | ฟัน |
foot | feet | เท้า |
bacterium | bacteria | แบคทีเรีย |
fish | fish | ปลา |
2 – คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คืออะไร
สำหรับ Uncountable Noun หรือคำนามนับไม่ได้นี้มีหลากหลายคนพูดถีงเพราะได้เอามาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันบ่อยมาก คุณสามารถบันทึกการอธิบายที่ทำให้คุณเข้าใจง่ายที่สุดดังนี้
คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) เป็นคำนามที่คุณเจอบ่อยเช่นนม น้ำ ไวน์ หรือ ข้าว น้ำตาล หรือของที่มีปริมาณมากๆ เช่น ผม ฟางหญ้า เป็นต้น
จะให้เราพูดว่า ขอข้าว 2 เม็ดจ้า หรือ ขอนม 3 หยด เป็นคำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวน หรือบอกว่ามีกี่ชิ้นกี่อันได้ ทั้งหมดเรียกชื่อว่า Uncountable Noun หรือคำนามนับไม่ได้นั้นเอง
หรืออีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คือคำนามนับไม่ได้ เช่นแนวคิด หรือปริมาณ หรือเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถนับได้ หรือไม่มีรูปร่างแน่นอนจึงทำให้ไม่สามารถนับได้ (เช่น ของเหลว ผง ก๊าซ เป็นต้น)
คำนามนับไม่ได้จะใช้คู่กับคำกิริยาที่อยู่ในรูปเอกพจน์ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วคำนามนับไม่ได้เหล่านี้จะไม่มีรูปพหูพจน์
ยกตัวอย่างให้ได้เห็นภาพชัดๆ ดังนี้สำหรับ คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) tea, sugar ,water, air, rice, knowledge, beauty, anger, fear, love, money, research, safety, evidence…
ถ้าจะแบ่งตามประเภทของคำนามเราลองมาดูกันว่ามีคำนามใดบ้างที่ไม่สามารถนับได้ในภาษาอังกฤษตามตารางดังนี้
General | Food | Subjects/ Fields | Astract |
Homework | Food | Mathematics | Advice |
Equipment | Flour | Economics | Help |
Luggage | Meat | Physisc | Fun |
Clothing | Rice | Ethics | Recreation |
Furniture | Cake | Civics | Enjoyment |
Machinery | Bread | Art | Infomation |
Gold | Ice crem | Architecture | Knowledge |
Sliver | Cheese | Music | News |
Cotton | Toast | Photography | Patience |
Glass | Pasta | Grammar | Happiness |
Jewelry | Spaghetti | Chemistry | Progress |
Perfume | Butter | History | Confidence |
Soap | Oil | Commerce | Courage |
Paper | Honey | Engineering | Education |
Wood | Soup | Politics | Intelligence |
Petrol | Fish | Sociology | Space |
Gasoline | Fruit | Psychology | Energy |
Baggage | Salt | Vocabulary | Laughter |
Hair | Tea | Archaeology | Peace |
Traffic | Coffee | Poetry | Pride |
Weather | Sports | Languages | Activites |
Thunder | Golf | English | Swimming |
Lightning | Tennis | Portuguese | Walking |
Snow | Baseball | Hindi | Driving |
Rain | Basketball | Arabic | Jogging |
Sleet | Cricket | Japanese | Reading |
Ice | Hockey | Korean | Writing |
Heat | Rugby | Spanish | Listening |
Humidity | Chess | French | Speaking |
Hail | Poker | Russian | Cooking |
Wind | Bridge | Italian | Sleeping |
Light | / | Hebrew | Studying |
Darkness | / | Chinese | Working |
เพราะมีเป้าหมายในการใช้งานที่แตกต่างกันเลยคำนามที่นับไม่ได้ไม่ใช้กับ “a”, “an” แทนเป็น ถามโดยใช้ “How much?” จะช่วยคุณทราบปริมาณของคำนามที่นับไม่ได้
หากต้องการระบุปริมาณของคำนามนับไม่ได้ จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มด้วยการใช้คำเหล่านี้ เช่น some, a lot of, much, a bit of, a great deal of เป็นต้น หรือใช้คำที่บอกปริมาณอย่างเจาะจง เช่น a cup of, a bag of, 1kg of, 1L of, a handful of, a pinch of, an hour of, a day of.
ตัวอย่างเช่น
- There has been a lot of research into the causes of this disease. แปลว่า มีงานวิจัยมากมายถึงสาเหตุของโรคนี้
- He gave me a great deal of advice before my interview. แปลว่า เขาให้คำแนะนำมากมายก่อนการสัมภาษณ์
- Can you give me some information about uncountable nouns? แปลว่า คุณช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้หน่อยได้ไหม
- Measure 1 cup of water, 300g of flour, and 1 teaspoon of salt. แปลว่า ตวงน้ำ 1 ถ้วยแป้ง 300 กรัมและเกลือ 1 ช้อนชา
- How much rice do you want? แปลว่า คุณต้องการข้าวเท่าไหร่
ฝึกพูดภาษาอังกฤษบ่อยๆ เพื่อให้จำง่ายๆและรู้คำนามในภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น ดูวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายได้ที่นี่
อย่างไรก็ตามยังมีอีกสอง-สามวิธีสำหรับคำนามนับไม่ได้ที่จะรวมกับวลีภาษาอังกฤษอื่น ๆ เพื่อให้กลายเป็นคำนามที่นับได้เช่น
1. บางเรื่องที่ไม่สามารถนับได้ แต่เก็บไว้ในกล่องหรือบรรจุหีบห่อ … จะกลายเป็นคำนามที่นับได้
- ง่ายๆ เช่นคำว่า a cup of tea – แก้วชาหนึ่ง. (น้ำชาเราจะนับไม่ได้แต่ถ้าใส่ในแก้วหนึ่งเราก็จะนับได้แล้วใช่ไหมคะ
2. สำหรับคำนามที่นับไม่ได้เช่น food, money, meat, sand, water,… ถ้าเราตั้งเป็นประโยคเช่น
- This is one of the foods that my younger brother likes very much แปลว่า นี่เป็นหนึ่งในอาหารที่น้องชายของฉันชอบมาก
3. เป็นคำนามที่มีหลายความหมาย ถ้าแปลตามความหมายว่า “เวลา” “time” เป็นคำนามนับไม่ได้ แต่ถ้าแปลว่า “จำนวนครั้ง” “time” จะปิดเป็นคำนามที่นับได้
ตัวอย่างเช่น
- Yesterday, I didn’t have enough time to finish my homework แปลว่า เมื่อวานนี้ฉันมีเวลาพอที่จะทำการบ้านให้เสร็
- I go jogging three times a week แปลว่า ฉันไปจ็อกกิ้งสามครั้งต่อสัปดาห์
คุณก็อาจจะสนใจ:
- หลักการเติม -ing ท้ายคำกริยาในภาษาอังกฤษ เข้าใจง่ายมาก [2566]
- ประโยคเปรียบเทียบในภาษาอังกฤษ Comparative ฉบับสมบูรณ์
- คำนำหน้าคำนาม (a an the) ใช้ต่างกันอย่างไร พร้อมแบบฝึกหัด
3 – วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับได้
ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราใช้ “a/an” ก่อนคำนามเอกพจน์เพื่อแสดงถึงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่วน “few/a few” ใช้ก่อนหน้าคำนามพหูพจน์เพื่อแสดงถึงปริมาณเล็กๆ น้อยๆ และ “many” สำหรับพหูพจน์ที่มีมากกว่าสอง ตามตารางดังนี้
a | a student, a pencil, a bike,… |
many | many books, many pens,… |
few | few bananas, few answer questions,… |
a few | a few topics, a few chairs,… |
คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับไม่ได้
เช่นเดียวกับคำนามที่นับได้คำนามที่นับไม่ได้ยังมีคำ และวลีเช่น “มาก” (many), “litlle/a little” (นิดหน่อย), a little bit of (a little).
much | much money, much oil,… |
little | little milk,… |
a little | a little money,… |
a little bit of | a little bit of ink,… |
คำใช้ได้กับทั้งคำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
นอกจากคำศัพท์ที่ใช้เฉพราะกับคำนามนับได้ หรือคำนามนับไม่ได้ก็ยังมีกลุ่มคำศัพท์ที่ใช้ได้ทั้งสองเช่น ‘the, some, any, no, a lot of, lots of, plenty of, enough.
ตัวอย่างเช่น
– Countable Noun: the cats, some desks, any rooms, a lot of pets…
– Uncountable Noun: some sugar, no money, plenty of milk…
หมายเหตุสิ่งที่ทำให้หลายคนสับสน
คำนามนับได้บางคำ (ในภาษาอื่น) กลับกลายเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ หากพบเช่นนี้ จำเป็นต้องใช้กฏการใช้คำนามนับไม่ได้กับคำนามนับได้เหล่านั้น คำนามในกลุ่มนี้ที่พบได้บ่อย คือ accommodation, advice, baggage, behavior, bread, furniture, information, luggage, news, progress, traffic, travel, trouble, weather, work
ตัวอย่างเช่น
- I would like to give you some advice. แปลว่า ฉันขอคำแนะนำของคุณหน่อยค่ะ
- How much bread should I bring? แปลว่า ฉันควรนำขนมปังเท่าไหร่
- I didn’t make much progress today. แปลว่า ฉันไม่ได้ก้าวหน้ามากนักในวันนี้
- This looks like a lot of trouble to me. แปลว่า ดูเหมือนจะเป็นปัญหามากสำหรับฉัน
- We did an hour of work yesterday. แปลว่า เราทำงานเมื่อวานนี้หนึ่งชั่วโมง
ปรดระวังการใช้ hair ซึ่งเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปแล้วคำนี้จะอยู่ในรูปเอกพจน์ แต่หากกล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง สามารถใช้ในรูปพหูพจน์ได้
ตัวอย่างเช่น
- She has long blond hair. แปลว่า เธอมีผมสีบลอนด์ยาว
- The child’s hair was curly. แปลว่า ผมของเด็กนั้นหยิก
- I washed my hair yesterday. แปลว่า ฉันสระผมเมื่อวานนี้
- My father is getting a few grey hairs now. (กล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง)
- I found a hair in my soup! (กล่าวถึงเส้นผมเส้นหนึ่ง)
4 – แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้
เรามาลองทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกันเพื่อช่วยจดจำบทเรียนได้ดีขึ้นนะคะ อย่าพึ่งเปิดส่วนข้อเฉลยมาดูค่ะ
เราต้องพยายามทำเอง ตามความเข้าใจของตัวเองก่อน แล้วเทียบกับข้อเฉลยดูว่าเราทำถูกผิดขนาดไหนนะคะ
แบบฝึกหัดนี้สามารถหาเจอในเน็ตได้ง่ายๆ ค่ะ สำหรับผู้เรียนท่านไหนที่อยากทำแบบฝึกหัดเพิ่มให้ชินก็สามารถหาทำด้วยต้วเองง่ายๆ นะคะ
แบบฝึกหัดที่ 1: ลองดูคำนามเหล่านี้เป็นคำนามประเภทไหน
คำนามนับได้ (Countable Noun) หรือคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นะคะ
- tea →
- butter →
- song →
- living room →
- hour →
- coffee →
- child →
- homework →
- key →
- orange →
แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง
- If you want to know the news, you can read paper/a paper.
- I had two tooths/teeth pulled out the other day.
- Light/a light comes from the sun.
- I was very busy, and I didn’t have time/a time for breakfast today.
- Sue was very helpful. She is always willing to give us some very useful advice/advices everytime we need.
- Did you raise these tomato/tomatoes in your garden?
- We were very unfortunate. We had bad luck/a bad luck.
- I had to buy a/some bread for breakfast.
- Bad news don’t/doesn’t make people happy.
- My hair is/ My hairs are too long. I should have it/them cut three days ago.
แบบฝึกหัดที่ 3: เขียนให้ประโยคเหล่านี้ได้สมบูนณ์และถูกต้อง
1. Study the next three (chapter).
2. Can you recommend some good (book)?
3. I had two (tooth) pulled out the other day.
4. You can always hear (echo) in this mountain.
5. They are proud of their (son-in-law).
6. Did you raise these (tomato) in your garden?
7. I think we need two (radio).
8. My (foot) really hurt.
9. The (roof) of these houses are tiled.
10. Get me two (loaf) of bread.
แบบฝึกหัดที่ 4: แก้คำผิดในประโยคเหล่านี้ให้ประโยคได้สมบูรณ์
1. There are many dirts on the floor. แปลว่า มีสิ่งสกปรกมากมายบนพื้น
2. We want more fuels than that. แปลว่า เราต้องการเชื้อเพลิงมากกว่านั้น
3. He drank two milks. แปลว่า เขาดื่มนมสองแก้ว
4. Ten inks are needed for our class. แปลว่า จำเป็นต้องใช้หมึกสิบอันสำหรับชั้นเรียนของเรา
5. He sent me many foods. แปลว่า เขาส่งให้ฉันอาหารเยอะมากมาย
6. Many golds are found there. แปลว่า พบทองคำจำนวนมากที่นั่น
7. He gave me a great deal of troubles. แปลว่า เขาทำให้ฉันมีปัญหามากมาย
8. cows eat glasses. แปลว่า พวกวัวกินยาเยอะแยะ
9. The rain has left many waters. แปลว่า ฝนตกน้ำหลักมาก
10. I didn’t have many luggages. แปลว่า ฉันไม่มีกระเป๋าเดินทางมากมาย
ข้อเฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1:
- tea → Uncountable Noun เพราะมันเป็นน้ำที่เราจะเอามานับไม่ได้แน่นอน
- butter → Uncountable Noun ที่หมายถึงว่า เนย เป็นอาหารที่นับไม่ได้ถ้าไม่ระบุว่าอยู่ในกี่ห่อ หรือกี่กล่อง
- song → Countable Noun ที่สามารถนับได้ง่ายๆ ว่ามีทั้งหมดกี่เพลง
- living room → Countable Noun นับได้ง่ายๆ เช่นในบ้านหลังหนึ่งจะมีห้องนั่งเล่น ห้องรับแขกกี่ห้อง ห้องนอนกี่ห้อง ประมาณนั้น
- hour → Countable Noun นับได้ง่ายๆ เหมือนกันว่าใช้กี่ชั่วโมงแล้ว
- coffee → Uncountable Noun ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหรือเป็นฝงที่เรานับไม่ได้ถ้าไม่แจ้งว่าบรรจุที่ไหน
- child → Countable Noun เป็นคำนามที่นับได้เพราะหมายถึงเด็กน้อย
- homework → Uncountable Noun เป็นคำนามที่นับไม่ได้
- key → Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้
- orange → Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้เพราะเป็นสิ่งของที่เราเห็นได้ จับได้และมันชัดเจนอยู่แล้ว
แบบฝึกหัดที่ 2:
- A paper
- Teeth
- Light
- Time
- Advice
- Tomatoes
- Bad luck
- Some
- Doesn’t
- My hair is
แบบฝึกหัดที่ 3:
- Chapters
- Books
- Teeth
- Echoes
- Sons-in-law
- Tomatoes
- Radios
- Feet
- Roofs
- Loaves
แบบฝึกหัดที่ 4:
- There is much dirt on the floor.
- We want more fuel than that.
- He drank two glasses of milk.
- Ten pens are needed for our class.
- He sent me much food.
- Much gold is found there.
- He gave me a lot of trouble.
- Cows eat glass.
- The rain has left much water.
- I didn’t have much luggage.
ว่าอย่างไรบ้างคะ สำหรับบทความนี้ หวังว่าคุณจะได้รับประโยชน์ดีๆ และรู้จักวิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) มันเป็นส่วนไวยากรณ์ที่ถือว่าไม่ค่อยยากนะคะ
แต่ก็ไม่ควรมองผ่านเพราะเป็นคำนามที่มักจะใช้บ่อยมาก ไม่ว่าจะในการสื่อสารประจำวันถึงการเขียนบทความต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ติดตามเราเพื่ออัพเดทสารข้อมูลดีๆ ทุกวันนะคะ แชร์กันประสบการณ์เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับ Eng Breaking!
ไม่พลาดกับบทความนี้:
- คำนำหน้าคำนาม (a an the) ใช้ต่างกันอย่างไร พร้อมแบบฝึกหัด
- การใช้ประโยคเงื่อนไข (Conditional Sentences) ฉบับอธิบายเข้าใจง่ายๆ กระจ่างสุด
- ชนิดของคำในภาษาอังกฤษฉบับบสมบูรณ์พร้อมวตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน
- Be Able To คืออะไร? ความแตกต่างระหว่าง Can และ Be Able To
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .