วิธีใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษเพื่อช่วยสื่อสารอย่างสุภาพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การพูดลดลงหรือหลีกเลี่ยง

ภาษาอังกฤษจะไม่ทำให้ผู้เรียนรู้สึกเบื่อ เพราะแม้แต่เจ้าของภาษาบางครั้งก็ยังได้ยินวลีที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน. เช่นเดียวกับภาษาอื่นๆ ภาษาอังกฤษยังใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเพื่อทำให้การสื่อสารมีความสุภาพมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงการรุกรานผู้ร่วมสนทนา

แล้วคําว่า ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวล ในภาษาอังกฤษคืออะไร? การใช้คําพูดที่นุ่มนวลในภาษาอังกฤษยังไงถึงจะดีที่สุด? มาร่วมกับ Eng Breaking  เพื่อดูวิธีการที่เจ้าของภาษาพูดถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลได้อย่างเต็มที่และละเอียดที่สุดในบทความถัดไป.

A – ถ้อยคำหรือภาษาที่สุภาพนุ่มนวลคืออะไร?

ในภาษาอังกฤษ ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลคือ “euphemism”, ซึ่งมักใช้เพื่อถ่ายทอดข้อความในลักษณะที่ “สบายใจ” สำหรับผู้ฟัง. ผู้คนใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดถึงหัวข้อที่ละเอียดอ่อน ต้องห้าม หรือน่าอาย ฯลฯ โดยตรง เช่น หัวข้อเกี่ยวกับความตาย เซ็กส์ เงินทอง หรือเรื่องการเมือง.

นี่คือศิลปะของการใช้คำเพื่อช่วยถ่ายทอดข้อมูลในลักษณะที่ไม่พึงประสงค์น้อยลง รุนแรงมากขึ้น อ่อนโยนยิ่งขึ้น และละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น.

ไม่เพียงแต่ใช้ในวรรณกรรม หนังสือ และหนังสือพิมพ์เท่านั้น แต่ในการสื่อสารในชีวิตจริง เจ้าของภาษายังใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลอย่างแพร่หลาย

เมื่อใช้ประโยคและวลีที่เป็นถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวล เราจะไม่เข้าใจมันตามความหมายเชิงไม่สุภาพ, นั่นคือ ความหมายตามตัวอักษร แต่ในเชิงเปรียบเทียบ นั่นคือ ความหมายเชิงนามธรรมที่อนุมานจากความหมายเชิงไม่สุภาพ.

B – ทําไมคนถึงใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวล?

การกล่าวถึงประเด็นที่ละเอียดอ่อนโดยตรงจะทำให้เรารู้สึกหยาบคายหรือไม่สุภาพ. ดังนั้นการรู้วิธีใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษจะช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจได้.

ควรสังเกตว่า, ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการแดกดัน. ผู้คนมักใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษเพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้:

หลีกเลี่ยง

ผู้คนใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน, ขึ้นอยู่กับบริบทและวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร. หนึ่งในนั้นคือการหลีกเลี่ยงหัวข้อของการสื่อสาร.

การพูดที่นุ่มนวลใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปรายอย่างชัดเจนในประเด็นที่ถือว่าละเอียดอ่อนหรือน่าอาย เช่น การเสียชีวิต เพศ หรือกระบวนการขับถ่ายของร่างกาย.

นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ดี หรือสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการหลอกลวง หรือสร้างความสับสนให้กับหัวข้อการสื่อสารได้อีกด้วย

ลดความรุนแรงลง

ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษยังใช้เพื่อลดความรุนแรงของปัญหาการสื่อสารอีกด้วย. ด้วยวิธีนี้ ผู้พูดสามารถถ่ายทอดข้อความได้อย่างนุ่มนวลยิ่งขึ้น โดยไม่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเจ็บปวดหรืออึดอัด.

เครื่องมือวาทศิลป์

บางครั้งการใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเป็นเครื่องมือวาทศิลป์ในการเปลี่ยนน้ำเสียงของประโยค.

ทําไมคนถึงใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวล?

C – เมื่อใดที่คุณไม่ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษ?

ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลมักไม่เหมาะสมในสถานการณ์ที่ต้องใช้คำที่เรียบง่ายและเข้าใจง่ายโดยตรง

ไม่ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเพื่อจงใจทำให้เข้าใจผิดหรือหลอกลวงผู้อื่น. หากมีการใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเพื่อปกปิดความจริงหรือซ่อนข้อมูลสำคัญ จะทำให้เกิดผลที่ตามมาอย่างไม่อาจคาดเดาได้ซึ่งอาจผิดจริยธรรมหรือผิดกฎหมายได้.

ในกรณีฉุกเฉิน การใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่ร้ายแรงได้. ตัวอย่างเช่น ในสถานการณ์สัญญาณเตือนไฟไหม้ การพูดว่า “There’s a little smoke”  (มีควันเล็กน้อย) เมื่อเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่จะส่งผลที่อันตรายอย่างยิ่ง.

 เมื่อใดที่คุณไม่ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษ?

D – วิธีใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลในภาษาอังกฤษ

ด้านล่างนี้คือกรณีการใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลที่พบบ่อยที่สุดที่เจ้าของภาษามักใช้ในภาษาอังกฤษ

1- ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับความตาย

นี่เป็นหัวข้อที่ผู้คนไม่ต้องการพูดคุยโดยตรงเพราะอาจทำให้หลายคนรู้สึกอึดอัดได้ การสูญเสียผู้เป็นที่รักนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคน อย่างไรก็ตาม เจ้าของภาษาได้ค้นพบวิธีที่จะใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลให้เหมาะสมเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและการสูญเสียต่อคู่สนทนา ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลที่ใช้กันทั่วไปในภาษาอังกฤษมีดังนี้:

To Bite the Dust

ถ้อยคำนี้ “แปลก” มากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจความหมายของมันตั้งแต่แรกเห็น ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเข้าใจผิดเพราะมนุษย์ไม่สามารถ “กินฝุ่น” ได้จริงๆ นี่เป็นหนึ่งในถ้อยคำที่เจ้าของภาษาใช้เพื่อพูดถึงความตาย โดยทั่วไปแล้ว “To Bite the Dust” มักเป็นที่เข้าใจกันว่าหมายถึงการเสียชีวิตของใครบางคน หรือบุคคลนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ยังใช้เพื่ออ้างถึงความล้มเหลวของบุคคลอีกด้วย

การใช้เพื่อพูดถึงการเสียชีวิตของใครบางคนยังคงเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด แต่ไม่ควรใช้ในกรณีต้องการแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตเพราะถ้อยคำนี้ถือเป็น “คำสแลง”

ตัวอย่าง:

The famous actor bit the dust after a long battle with illness.

( นักแสดงชายชื่อดังเสียชีวิตแล้วหลังจากต่อสู้กับอาการป่วยมานาน )

She lived a full life, but sadly, she finally bit the dust.

(เธอใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่เธอต้องจากไปในที่สุด.)

After battling illness for years, he finally bite the dust.

(เขาเสียชีวิตหลังจากต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บมานานหลายปี)

Bought the Farm

เมื่อไม่ต้องการอ้างถึงการเสียชีวิตของบุคคลโดยตรง “Bought the Farm” ถือเป็นการถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลที่เจ้าของภาษาใช้ในกรณีนี้. “Bought the Farm” หมายความว่ามีคนจากโลกนี้ไปแล้ว. อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับ “To Bite the Dust” เราไม่ควรใช้ “Bought the Farm” ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ.

ตัวอย่าง:

He was a fearless pilot until he tragically bought the farm in a plane crash.

(เขาเป็นนักบินผู้กล้าหาญจนกระทั่งเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก)

After years of risky behavior, he tragically bought the farm in a motorcycle accident.

(หลังจากกระทำที่เสี่ยงอันตรายนานหลายปี เขาก็ถึงแก่กรรมด้วยอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์)

She lived to be 90 before peacefully buying the farm in her sleep.

(เธอมีชีวิตอยู่ถึง 90 ปี ก่อนที่จะมรณะภาพอย่างสงบในขณะหลับใหล)

Leave the Land of Leaving

วลีนี้ดูเหมือนจะพูดถึงคนที่ย้ายไปอยู่บ้านอื่นและออกจากบ้านเดิม. อย่างไรก็ตาม วลีนี้ยังใช้เพื่ออธิบายความจริงที่ว่ามีคนเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าพวกเขาได้ไปยังโลกที่แตกต่างจากโลกปัจจุบัน. ผู้คนไม่ต้องการพูดคำว่า “die (ตาย)” โดยตรง. เพราะอาจมีโลกที่ดีกว่ารอพวกเขาอยู่หลังจากออกจากโลกไปแล้ว.

ตัวอย่าง:

She finally found peace, leaving behind the land of leaving.

(ในที่สุดเธอก็พบความสงบสุขเมื่อเธอจากโลกนี้ไป.)

They say those who leave the land of leaving find eternal rest.

(เขาว่ากันว่าผู้ที่จากโลกนี้ไปจะพบกับความสงบสุขชั่วนิรันดร์)

After a long illness, she chose to leave the land of leaving.

(หลังจากกป่วยเป็นเวลานาน เธอได้เลือกที่จะจากโลกนี้ไป)

นอกจากสามวลีข้างต้นแล้ว ยังมีวลีง่ายๆ แบบอื่นที่แสดงความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย ตั้งแต่อารมณ์ขัน ความเศร้า ไปจนถึงความละเอียดอ่อนในการพูดถึงความตายเป็นภาษาอังกฤษ.

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Passed away / Passed on เสียชีวิตแล้ว
Deceased มรณะ
No longer with us ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว
Lost their battle with illness พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับโรคร้าย
Rest in peace (RIP) ขอให้พักผ่อนให้สงบ, หลับให้สบาย,ขอให้ไปสู่สุคติ
Departed ได้ไปอยู่ในที่อันห่างไกล
Gone to a better place ได้ไปอยู่ในที่ที่ดีกว่า
Passed into eternity ได้ผ่านเข้าสู่นิรันดรแล้ว
Left us / Left this world ได้จากเราไป / ได้จากโลกนี้ไป
Transitioned ได้เปลี่ยนทิศทางแล้ว
No longer with us ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว
At peace ที่สงบ
Resting in peace พักผ่อนอย่างสงบ
Slipped away ได้ไปไกลแล้ว
Went to be with the Lord ได้ไปพบพระเจ้า
Met their maker ได้พบปะกับบรรพบุรุษ
Passed over ได้ข้ามไปอีกฝั่งแล้ว
Passed from this life ออกไปจากชีวิตนี้แล้ว
Kicked the bucket เสียชีวิตแล้ว (วิธีการพูดแบบขบขัน)
Pushing up daisies เสียชีวิตแล้วถูกฝัง
Met untimely demise เสียชีวิตอย่างฉับพลัน
Meet the maker พบปะบรรพบุรุษ
Eternal slumber นอนหลับชั่วนิรันดร์

2 – ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับการว่างงาน

มักถือว่าไม่สุภาพหากพูดถึงการว่างงานหรือตกงานโดยตรง. ดังนั้น ผู้คนจึงมักใช้คำพูดที่สุภาภพนุ่มนวลเพื่อแสดงความรู้สึกที่อ่อนโยนมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการทำให้ผู้ฟังรู้สึกไม่สบายใจ. ถ้อยคำืี่สุภาพนุ่มนวลบางประการเกี่ยวกับการว่างงานที่เจ้าของภาษามักใช้มีดังนี้:

To Be Between Jobs

นี่เป็นวลีที่ใช้แทนกันได้กับ “unemployed”. วลีนี้จะไม่ขัดใจคนที่เพิ่งตกงาน แต่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความมั่นใจว่าพวกเขาพร้อมที่จะหางานใหม่ที่ดีกว่าแทน. การสื่อสารอย่างมีไหวพริบสามารถสร้างการสนับสนุนและกำลังใจ ช่วยให้ผู้หางานรู้สึกได้รับการดูแลและให้กำลังใจในการเดินทางครั้งใหม่ของพวกเขา.

ตัวอย่าง:

Sarah is between jobs right now, so she’s taking the time to upskill and attend workshops.
(ปัจจุบัน Sarah ว่างงาน, ดังนั้นเธอจึงใช้เวลาพัฒนาทักษะและเข้าร่วมเวิร์คช็อป)

It can be stressful to be between jobs, but it’s also a chance to rethink career goals.
(การเปลี่ยนงานอาจทำให้เกิดความเครียด แต่ก็เป็นโอกาสในการคิดทบทวนใหม่เกี่ยวกับเป้าหมายทางอาชีพอีกด้วย)

Being between jobs has given Lisa the chance to travel and recharge before diving into her next role.
(การลาออกจากงานทำให้ลิซ่ามีโอกาสเดินทางและเติมพลังก่อนเริ่มบทบาทต่อไป)

Down-And-Out

“Down-and-out” มักใช้เรียกคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือไม่มีปัจจัยในการดำรงชีวิต. การพูดคุยเรื่องงานของบุคคลอื่นโดยตรงถือเป็นการหยาบคาย, ดังนั้น นี่จึงเป็นการพูดแบบสุภาพนุ่มนวลในการแก้ไขปัญหานี้อย่างสุภาพมากขึ้น โดยไม่ทำให้อีกฝ่ายมีสถานะที่อึดอัด.

ตัวอย่าง:

During the economic crisis, many families became down-and-out and struggled to make ends meet.
(ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ หลายครอบครัวว่างงานและดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ)

The down-and-out man thanked the shelter for providing him with a warm meal and a place to sleep.
(ผู้ว่างงานขอบคุณสถานสงเคราะห์ที่จัดหาอาหารอุ่นๆ และที่พักให้เขา)

Despite being down-and-out, he maintained hope and kept searching for a new job.
(ถึงจะว่างงานแต่ก็ยังมีความหวังและมองหางานใหม่ได้)

Pursuing Other Opportunities

นี่เป็นหนึ่งในคำพูดที่ใช้เรียกบุคคลที่ว่างงานชั่วคราวและมีปัญหาทางการเงิน. เจ้าของภาษามีความอ่อนไหวต่อปัญหานี้เป็นอย่างยิ่ง และจะไม่ดูถูกผู้ว่างงานโดยตรง. แม้ว่าคนๆ นั้นจะขี้เกียจและไม่เคยทำงาน พวกเขาจะบอกว่าเขากำลัง “Pursuing Other Opportunities (แสวงหาโอกาสอื่น)”

ตัวอย่าง:

After resigning from her job, Jane is now pursuing other opportunities in the tech industry.
(หลังจากลาออก ปัจจุบันเจนกำลังแสวงหาโอกาสอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี)

He left the company to start pursuing other opportunities that align more with his passion for writing.
(เขาลาออกจากบริษัทเพื่อแสวงหาโอกาสอื่นๆ ที่สอดคล้องกับความหลงใหลในการเขียนของเขามากกว่า)

Our former manager is pursuing other opportunities and has moved to a new city.
(อดีตผู้จัดการของเรากำลังแสวงหาโอกาสอื่นและได้ย้ายไปอยู่เมืองใหม่)

สำหรับหัวข้อการว่างงานนี้ ยังมีวลีอื่นๆ อีกมากมายของการพูดแบบสุภาพนุ่มนวลที่เราสามารถนำมาใช้ในการสื่อสารและการเขียนได้.

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Job seeking กำลังมองหางาน, กำลังหางานอยู่
In transition อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง, กำลังเปลี่ยนแปลง
Pursuing other opportunities กำลังมองหาโอกาสอื่น
Career break หยุดงาน,ออกงาน (สักระยะหนึ่ง)
Out of work ไม่มีงานทํา,ตกงาน, ออกจากงาน
On a sabbatical กำลังอยู่ในช่วงลาหยุดระยะยาว
Exploring options กําลังค้นหาทางเลือก
Temporarily unemployed ว่างงานชั่วคราว
In between careers อยู่ระหว่างการเปลี่ยนงาน
Taking time off ช่วงวันหยุดหรือไม่ไปทำงาน
Reassessing career goals กำลังประเมินเป้าหมายอาชีพอีกครั้ง
Downsized โดนลดขนาดลง, โดนลดค่าจ้าง
Seeking new challenges กำลังแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ
On a career hiatus อยู่ในช่วงพักงาน
Without a current position ไม่มีตำแหน่งในปัจจุบัน
Looking for employment กำลังมองหางานทำ
Transitioning to a new field การเปลี่ยนไปสู่สนามใหม่
Exploring freelance opportunities กำลังมองหาโอกาสในการทำงานอิสระ

3 – ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับการเงิน

การพูดถึงความยากจนหรือสถานะทางการเงินในปัจจุบันโดยตรงนั้นไม่ใช่เรื่องสุภาพ นั่นเป็นสาเหตุที่เจ้าของภาษามีวิธีใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างนุ่มนวล และละเอียดอ่อนมากขึ้น

เมื่อคุณต้องการใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับความยากจนหรือปัญหาทางการเงินของบุคคลใด คุณสามารถใช้ถ้อยคำต่อไปนี้:

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Financially challenged ความยากลําบากทางเงิน
Economically disadvantaged เสียเปรียบทางเศรษฐกิจ/การเงิน
Low-income รายได้ต่ำ
Underprivileged ด้อยโอกาส, เสียเปรียบ
Living on a tight budget ใช้ชีวิตด้วยงบประมาณที่จำกัด
Struggling financially มีปัญหาทางการเงิน
In financial hardship ในสภาวะประสบความลำบากทางการเงิน
Money’s tight เงินจำกัด เงินเหลือน้อย
Cash-strapped มีเงินไม่พอ
Living paycheck to paycheck ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน

ตัวอย่าง:

Families in low-income neighborhoods often face challenges accessing quality education and healthcare.
(ครอบครัวในละแวกใกล้เคียงที่มีรายได้น้อยมักเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงการศึกษาและการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ)

การเอ่ยถึงความมั่งคั่งโดยตรงบางครั้งอาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ ให้ใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลนี้แทน:

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Well-off มีเงินใช้จ่ายได้อย่างสบายๆ
Affluent ร่ำรวย, มั่งคั่ง
Wealthy ร่ำรวย, มั่งคั่ง
Prosperous เจริญรุ่งเรือง 
Well-to-do มีอันจะกิน
Comfortable ใช้ชีวิตอย่างสบาย
Financially secure ความมั่นคงทางการเงิน
Living the good life มีชีวิตที่ดี
Privileged มีอภิสิทธิ์, มีสิทธิพิเศษ
In a position of financial strength อยู่ในสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ตัวอย่าง:

The well-off couple enjoyed luxurious vacations and owned multiple properties around the world.

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Financially burdened ภาระทางการเงิน
Overleveraged อัตราการใช้งานเกินกําหนด
Financially distressed ความเครียดทางการเงิน
Under financial strain ภายใต้ความกดดันทางการเงิน
In a financial bind พบปัญหาทางการเงิน
Living beyond means ใช้ชีวิตเกินความสามารถทางการเงิน
Upside-down ไม่มั่นคง, จำนวนหนี้สินมากกว่าค่าของสิ่งที่ได้ซื้อ

ตัวอย่าง:

Many families are financially burdened by medical bills, making it difficult to save for other essential expenses.
(หลายครอบครัวมีภาระทางการเงินจากค่ารักษาพยาบาล ทำให้ยากต่อการออมสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ)

4 – ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับอายุและร่างกาย

สำหรับหลายๆคน การเอ่ยถึงอายุหรือรูปร่างของตนโดยตรงถือเป็นการไม่สุภาพ หยาบคาย และไม่เคารพ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเพื่อให้การสนทนามีความอ่อนโยนและสุภาพมากขึ้น

ในเรื่องอายุ ในภาษาอังกฤษมีถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลต่อไปนี้:

Tiếng Anhภาษาอังกฤษ Dịch nghĩaความหมาย
Senior citizen ผู้สูงอายุ, ผู้อาวุโส
Advanced in years อายุมาก, ชรา, สูงวัย
Golden ager คนวัยทอง, คนสูงอายุ
Mature เป็นผู้ใหญ่
Senior อาวุโส, อายุมาก
Seasoned รุ่นเก๋า
Retiree ผู้ที่หยุดทำงานแล้ว, ผู้ที่เกษียณแล้ว

ตัวอย่าง:

Despite being advanced in years, she remains active and enjoys traveling around the world.
(แม้จะอายุมากแล้ว แต่เธอก็ยังคงกระตือรือร้นและสนุกกับการท่องเที่ยวรอบโลก)

ในส่วนของร่างกายมนุษย์นั้น มีถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลที่ใช้กันโดยทั่วไปดังนี้:

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Restroom ห้องน้ำ
Answer nature’s call ธรรมชาติเรียกร้องเเล้ว, ความต้องการที่จะไปห้องน้ำ
Indisposed กำลังไม่สะดวก
Pass gas ตด, ผายลม
Break wind ตด, ผายลม
Rear end บั้นท้าย
Private parts ของสงวน ของลับ
Nether regions สถานที่ลับ
Personal scent กลิ่นเฉพาะตัว
Menstruation ประจำเดือน, รอบเดือน, เมนส์
Period ประจำเดือน
Time of the month ประจำเดือน
On my days ถึงวันนั้นของเดือน

ตัวอย่าง:

It’s embarrassing to accidentally pass gas in public.
(การผายลมโดยไม่ตั้งใจในที่สาธารณะเป็นเรื่องน่าอาย)

5 – ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับลักษณะและบุคลิกภาพของคน

ลักษณะและบุคลิกภาพสำหรับหลายคนแล้วเป็นสิ่งที่อ่อนไหวและไม่ต้องการพูดถึงโดยตรงหรือถูกบอกเกี่ยวกับพวกเขาโดยตรง รูปร่างหน้าตาหรือลักษณะบุคลิกภาพอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มั่นใจหรือแม้แต่อาจด้อยค่าตนเอง ดังนั้น การใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลจะทำให้อีกฝ่ายสบายใจขึ้น และบางครั้งก็ให้กำลังใจพวกเขาด้วย ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลที่ใช้กันทั่วไปมีดังนี้:

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
รูปร่างภายนอก On the heavier side มีแนวโน้มที่จะหนักเกินไป
Full-figured รูปร่างอวบอิ่ม
Big-boned กระดูกใหญ่
Well-rounded รูปร่างทรงกลม
Stocky ลำตัวกว้าง
Compact รูปร่างกะทัดรัด 
Petite เล็ก, จิ๋ว
Slender ระหง, อรชร
Lean ผอม เพรียว บาง
Athletic build รูปร่างเหมือนนักกีฬา
Well-built หุ่นดี
Curvy มีส่วนเว้า ส่วนโค้ง
Stout อ้วน ล่ำ แข็งแรง
Portly ท้วม ผึ่งผาย กำยำล่ำสัน
Lanky ผอมสูง ผอมโย่ง




บุคลิกภาพ
Laid-back คนชิวๆ อะไรก็ได้ ง่ายๆ สบายๆ
Easygoing คนสบายๆ เข้ากับคนง่าย
Spirited มีชีวิตชีวา ร่าเริง
Meticulous พิถีพิถัน เข้มงวด จู้จี้
Free-spirited อิสระ ไม่ยึดถือแบบแผนเดิมหรือตามวิถีทางของคนอื่น
Outgoing เข้าสังคมได้ง่าย ข้ากับคนอื่นได้ง่าย
Reserved สงบเสงี่ยม
Charismatic มีเสน่ห์ดึงดูด
Compassionate มีความเห็นอกเห็นใจ มีความสงสาร

ตัวอย่าง:

John enjoys hearty meals and is on the heavier side, but he’s also very active and healthy.
(จอห์นชอบทานอาหารมื้อใหญ่และมีแนวโน้มที่จะหนักเกินไป แต่เขาก็กระตือรือร้นและมีสุขภาพดีเช่นกัน)

Jack is known for his outgoing personality, always eager to engage with new people and explore new opportunities.
(แจ๊คเป็นที่รู้จักกันในเรื่องบุคลิกที่เข้ากับคนง่าย ชอบพบปะผู้คนใหม่ๆ และสำรวจหาโอกาสใหม่ๆอยู่เสมอ)

6 – ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับสถานการณ์ส่วนบุคคล

นี่เป็นหนึ่งในหัวข้อละเอียดอ่อนที่ควรหลีกเลี่ยงโดยตรง สถานการณ์ส่วนตัวของแต่ละคนจะแตกต่างกัน บางคนดี บางคนไม่ดี ดังนั้นแทนที่จะพูดตรงๆ เราสามารถใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเพื่อหลีกเลี่ยงได้ สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้การสื่อสารมีความสุภาพมากขึ้น แต่ยังแสดงถึงความเคารพต่อบุคคลที่เรากำลังพูดถึงอีกด้วย ถ้อยคำที่นุ่มนวลที่มักใช้เพื่อบอกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของบุคคลหนื่งมีดังนี้:

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Separated แยกทาง/หย่าร้าง
Estranged  เหินห่าง แยกจากกันไม่ติดต่อหรือใกล้ชิดกันอีกต่อไป
Parted ways แยกทางกัน
Single (after a divorce)  โสด (หลังหย่าร้าง)
No longer together  ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
Former spouse อดีตสามีหรือภรรยา
Marriage ended การแต่งงานสิ้นสุดลง
Relationship status changed  สถานะความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป
Expecting a child มีเด็ก, ตั้งท้อง
In/on a family ตั้งครรภ์ 
Going separate paths ไปตามเส้นทางที่แยกกัน
Moved on from each other ตัดใจจากกันไป

ตัวอย่าง:

My former spouse and I have maintained an amicable relationship for the sake of our children.
 (ฉันกับอดีตสามีภรรยารักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อลูกๆของเรา)

They were once a couple, but they are no longer together.
(เมื่อก่อนพวกเขาเคยเป็นคู่รักกัน แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว)

7 – กรณีอื่นๆบางกรณี

ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลเกี่ยวกับความเจ็บป่วย

ด้วยเหตุผลบางประการ หลายๆคนไม่ชอบที่เราบอกว่าตนเองป่วยหรือเป็นโรคบางอย่าง แทนที่จะใช้คำว่า “ill” เราสามารถใช้ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลได้ดังนี้:

ภาษาอังกฤษ ความหมาย
Are feeling under the weather รู้สึกไม่ค่อยดี ไม่สบาย
Have a bug มีข้อผิดพลาด
Are a bit peaked ซีดเซียวเล็กน้อย
Not feeling well รู้สึกไม่สบาย
Have a touch of something สัมผัสบางสิ่งบางอย่าง
Feeling poorly รู้สึกไม่ดี
Are indisposed ป่วย, ไม่สบาย
Take to their bed พาไปที่เตียงของพวกเขา

ตัวอย่าง:

Sorry, I won’t be able to make it to the meeting today as I’m feeling a bit under the weather.
(ขออภัย วันนี้ฉันไม่สามารถไปประชุมได้ เพราะฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย)

She looks like she’s a bit peaked today; maybe she didn’t get enough sleep.
(วันนี้เธอดูซีดเซียว บางทีเธออาจจะนอนไม่พอ)

ถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ด้านล่างนี้คือถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวลอื่นๆที่เจ้าของภาษามักใช้ในภาษาประจำวันของพวกเขา

  • “Bless their heart” thay vì “stupid”

(“ขออวยพรให้คุณ” แทน “โง่”)

  • “That movie was intense” thay vì “That movie was scary”

(“หนังเรื่องนั้นเข้มข้น” แทน “หนังเรื่องนั้นน่ากลัว”)

  • “Poor hygiene,” thay vì “dirty”

(“สุขอนามัยไม่ดี” แทน “สกปรก”)

  • “Had a few too many” thay vì “drunk”

(“ดื่มมากเกินไป” แทน “เมา”)

  • “Passed out” thay vì “fainted”

(“หมดสติ” แทน “เป็นลม”)

  • “Landfill” hoặc “ecological station” thay vì “dump”

(“การฝังกลบ” หรือ “สถานีนิเวศวิทยา” แทน “ที่ทิ้งขยะ”)

  • “Correctional facility” thay vì “jail”

(“เรือนจำ” แทน “คุก”)

ตัวอย่าง:

His frequent illnesses were likely due to poor hygiene practices.
(การเจ็บป่วยบ่อยครั้งของเขาน่าจะเนื่องมาจากการปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่ไม่ดี)

After the party, he had a few too many and ended up sleeping on the couch.
(หลังจากงานปาร์ตี้ เขาดื่มมากเกินไปและจบลงด้วยการนอนบนโซฟา)

He spent two years in a correctional facility for his involvement in the robbery.
(เขาใช้เวลาสองปีในเรือนจำเนื่องจากมีส่วนร่วมในการปล้น)

ข้างต้นเป็นวิธีการใช้ศัพท์หรือภาษาที่นุ่มนวลในภาษาอังกฤษที่เจ้าของภาษามักใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันและในการเขียน  หวังว่าวลีข้างต้นจะช่วยให้ผู้คนสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุภาพมากขึ้น และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจในภาษาอังกฤษ

หากคุณรู้สึกว่าบทความนี้ดีและมีประโยชน์ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น และเยี่ยมชม  Eng Breaking  ต่อไปเพื่อเรียนรู้ความรู้ภาษาอังกฤษที่น่าสนใจอีกมากมาย!

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน

ความคิดเห็น 635 รายการ
 
  • Sudarat Manee

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Mik Jakkaphat

    เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Soda Sodaaa

    เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ

    ถูกใจ ตอบกลับ20 ชั่วโมง
  • RueThaiRut

    เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ

    ถูกใจ ตอบกลับ2 นาที
  • เจมส์ ธีรพงศ์

    มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Cat Catt

    ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • Meawww Jhaa

    เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?

    ถูกใจ ตอบกลับ5 ชั่วโมง
  • Naphawan MeeJaiii

    นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!

    ถูกใจ ตอบกลับ15 นาที
  • GotCha

    ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ป๋อง ฤทธิเดช

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • ดวงใจ มาเต็ม

    เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน
  • หนูน้อย หมวกแดง

    เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.

    ถูกใจ ตอบกลับ1 วัน

ด้วย Eng Breaking เราเชื่อว่าการฝึกการฟังการพูดและรวมกับการปฏิบัติการฟังการพูดจะกลายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคุณ

คุณจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจหลังจากศึกษาด้วยตนเอง 3 เดือนเท่านั้น.

เรียนรู้เกี่ยวกับ Eng Breaking ตอนนี้ สื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *