คุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาในการออกเสียงภาษาอังกฤษหรือไม่ ? ไม่ว่าจะเป็น ออกเสียงไม่ชัด? จำศัพท์ไม่ได้? ฟังไม่เข้าใจ? ไม่รู้จะเริ่มแก้ไขปัญหานี้อย่างไร? อยากเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร?
ในบทความนี้เรามีวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถออกเสียงภาษาอังกฤษและมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นกว่าเดิม และในบทความนี้เราจะปูพื้นฐานในการเริ่มต้นการฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้กับคุณ นั่นก็คือ “ตารางตัวอักษรภาษาอังกฤษ”
ตารางตัวอักษรภาษาอังกฤษที่มาพร้อมกับวิธีการออกเสียง จะช่วยให้คุณเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่คุณแปลศัพท์จะพบว่าวิธีออกเสียงในแต่ละคำจะขึ้นอยู่กับการออกเสียงของแต่ละตัวอักษรนั้น ๆ ด้วย
ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำความเข้าใจในตัวอักษรนั้น ๆ ในภาษาอังกฤษ และสิ่งที่มาคู่กับการออกเสียงภาษาอังกฤษนั้นก็คือตัวอักษรและการสะกดภาษาอังกฤษ
ตัวอักษรและการสะกดภาษาอังกฤษคือก้าวแรกของขั้นพื้นฐานในการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ หากคุณเข้าใจในเรื่องการสะกดแล้วนั้น เป้าหมายที่คุณตั้งไว้ว่า อยากจะพูดภาษาอังกฤษสำเนียงเหมือนชาวต่างชาติก็อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ
หากคุณเคยลองที่จะพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้วแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จตามที่หวังไว้ บทความนี้จะช่วยคุณให้บรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ได้
การสะกดภาษาอังกฤษก่อนที่จะไปทำความเข้าใจวิธีการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เราจะมาทำความรู้จักกับวิธีการสะกดตัวอักษรภาษาอังกฤษกันก่อน
ทักษะการสะกดภาษาอังกฤษคือหนึ่งในทักษะที่สำคัญเพื่อที่จะไขรหัสหรือถอดรหัสในการฟังคำแต่ละคำ ถ้าหากคุณขาดทักษะนี้ไป (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเด็ก ๆ และผู้เพิ่งทำความรู้จักกับภาษาอังกฤษ)
ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเรียนรู้การอ่านศัพท์ใหม่ ๆ ได้ด้านล่างนี้คือตารางตัวอักษรภาษาอังกฤษที่มาพร้อมกับการอ่านตัวสะกดในแต่ละตัวอักษรที่จะช่วยให้คุณอ่านได้ง่ายขึ้น
เมื่อคุณรู้จักและเข้าใจวิธีการสะกดภาษาอังกฤษแล้วจะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างยิ่งที่สำคัญคือคุณจะสามารถจดจำและฝึกสะกดรวมถึงฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างสม่ำเสมอ
สังเกต: ตัว “Z” สามารถอ่านได้ 2 วิธี ได้แก่
- ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน : /zi:/ (ซี)
- ภาษาอังกฤษสำเนียงบริติช : /zed/ (แซ้ด)
หากคุณยังไม่สามารถอ่านตัวสะกดเหล่านี้ได้ เราก็มีวิธีง่าย ๆ เป็นวิธีที่ถูกต้องและเป็นสากลมาแนะนำให้คุณดังต่อไปนี้
1 – วิธีอ่านตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ตัวอักษรภาษาอังกฤษมาจากตัวอักษรละติน (Latin) ที่ต้องมีการผสมตัวอักษรกันเพื่อที่จะสร้างเป็นคำคำหนึ่ง การอ่านตัวอักษรภาษาอังกฤษก็คล้าย ๆ กับภาษาไทย
แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้างในบางตัวอักษร สิ่งสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศอื่น ๆ นั่นก็คือการรู้จัก “IPA” หรือ สัทอักษรสากล โดยในชุดสัทอักษรสากล
ส่วนใหญ่ของสัญลักษณ์แทนหน่วยเสียงพยัญชนะที่มีรูปร่างเหมือนกับพยัญชนะในอักษรละติน
“IPA” คืออะไร? IPA คือคำย่อของ International Phonetic Alphabet (สัทอักษรสากล) คือ สัทอักษรชุดหนึ่งที่พัฒนาโดยสมาคมสัทศาสตร์สากล โดยมุ่งหมายให้เป็นสัญกรณ์มาตรฐานสำหรับการแทนเสียงพูดในทุกภาษา
นักภาษาศาสตร์ใช้สัทอักษรสากลเพื่อแทนหน่วยเสียงต่าง ๆ ที่อวัยวะออกเสียงของมนุษย์สามารถเปล่งเสียงได้ โดยแทนหน่วยเสียงแต่ละหน่วยเสียงด้วยสัญลักษณ์เฉพาะที่ไม่ซ้ำกัน
สัญลักษณ์ในสัทอักษรสากลนั้นส่วนใหญ่นำมาจากหรือดัดแปลงจากอักษรโรมัน สัญลักษณ์บางตัวนำมาจากอักษรกรีก และบางตัวประดิษฐ์ขึ้นใหม่โดยไม่สัมพันธ์กับอักษรภาษาใดเลย
คุณเห็นหรือไม่ว่าข้าง ๆ ตัวอักษรภาษาอังกฤษแต่ละตัวมักจะมีเขียนวิธีการออกเสียงไว้ข้าง ๆ คนที่เรียนภาษาอังกฤษหลายคนมักจะอ่านคำศัพท์หรือออกเสียงตามการท่องจำมา
และนั่นเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดเมื่อต้องการอ่านคำศัพท์ที่ไม่ค่อยได้พบหรือไม่เคยพบมาก่อน เป็นเพราะเขาไม่ได้ทำความเข้าใจกฎและวิธีการอ่านภาษาอังกฤษที่ถูกต้องและชัดเจนแบบนี้ หรืออาจจะกล่าวง่าย ๆ ได้ว่า สัทอักษรจะช่วยอัพเกรดสำเนียงภาษาอังกฤษของคุณ
หากคุณเข้าใจวิธีการอ่านอย่างชัดเจนเช่นนี้แล้ว คุณจะสามารถอ่านคำศัพท์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
นอกจากนั้นจะสามารถแยกแยะคำศัพท์ที่มีการออกเสียงคล้าย ๆ กัน ตัวอย่างเช่น ship และ sheep, bad และ bed… การออกเสียงของหน่วยเสียงสระและหน่วยเสียงพยัญชนะต้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ตาราง ดังต่อไปนี้
ดูเพิ่ม:
- เคล็ดลับแก้ปัญหาในการออกเสียงภาษาอังกฤษรู้แล้วรอดแน่นอน
- วิธีการออกเสียง ed, s, es ง่ายๆ ใครก็เรียนเองได้
2 – ตัวอักษรภาษาอังกฤษ – ตารางหน่วยเสียงสระ
IPA | คำอธิบาย | ริมฝีปาก | ฐานกรณ์ | ระดับลมหายใจ |
/ i / | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อิ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหน้า | สั้น |
/i:/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อี” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหน้า | ยาว |
/ ʊ / | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อุ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนหลัง | สั้น |
/u:/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อู” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนหลัง | ยาว |
/ e / | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “เอะ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหน้า | ยาว |
/ ə / | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “เออะ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากกึ่งรี | ลิ้นส่วนกลาง | สั้น |
/ɜ:/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “เออ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากกึ่งรี | ลิ้นส่วนกลาง | ยาว |
/ ɒ / | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “เอาะ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนกลาง | สั้น |
/ɔ:/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “ออ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนหลัง | ยาว |
/æ/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “แอะ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหน้า | ยาว |
/ ʌ / | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อะ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากกึ่งรี | ลิ้นส่วนกลาง | สั้น |
/ɑ:/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อา” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากกึ่งรี | ลิ้นส่วนกลาง | ยาว |
/ɪə/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “เอีย” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหน้า | ยาว |
/ʊə/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อิว” หรือ “อัวะ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนกลาง | ยาว |
/eə/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “แอ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหน้า | ยาว |
/eɪ/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “เอ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหน้า | ยาว |
/ɔɪ/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “ออย” หรือ “ออ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนหลัง | ยาว |
/aɪ/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “ไอ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากรี | ลิ้นส่วนหลัง | ยาว |
/əʊ/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “โอ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนหลัง | ยาว |
/aʊ/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “เอา, อาว” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากห่อ | ลิ้นส่วนหน้า | ยาว |
/I/ | ออกเสียงเทียบเท่ากับ “อี” และ “อิ” ในภาษาไทย | รูปริมฝีปากกึ่งรี | ลิ้นส่วนหน้า | ไม่สั้นไม่ยาว |
หน่วยเสียงสระที่รูปริมฝีปากห่อ ได้แก่ /ʊ/, /u:/, /ɒ/, /ɔ:/, /ʊə/, /ɔɪ/, /əʊ/, /aʊ/
หน่วยเสียงสระที่รูปริมฝีปากรี ได้แก่ / i /, /i:/, /e/, /æ/, /ɪə/, /eə/, /eɪ/, /aɪ/
หน่วยเสียงสระที่รูปริมฝีปากกึ่งรี ได้แก่ /ə/, /ɜ:/, /ʌ/, /ɑ:/
- ฐานกรณ์ที่ใช้ออกเสียงส่วนใหญ่คือ ลิ้น
- ระดับของลมหายใจมีทั้งสั้นและยาว
3 – ตัวอักษรภาษาอังกฤษ – หน่วยเสียงพยัญชนะต้น
IPA | เทียบเท่าหน่วยเสียงพยัญชนะในภาษาไทย | คำอธิบาย | ฐานกรณ์ |
/p-/ | ป | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงระเบิด ไม่ก้อง ไม่มีลม | ริมฝีปาก |
/t-/ | ต, ฏ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงระเบิด ไม่ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/k-/ | ค,ฆ,ข | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงระเบิด ไม่ก้อง ไม่มีลม | เพดานอ่อน |
/d–/ | ด, ฎ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงระเบิด ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/g-/ | ก | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงระเบิด ไม่ก้อง ไม่มีลม | เพดานอ่อน |
/ch-/ | ช,ฌ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงกักเสียดแทรก ไม่ก้อง มีลม | ปุ่มเหงือก-เพดานแข็ง |
/ dʒ -/ | จ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงกักเสียดแทรก ไม่ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก-เพดานแข็ง |
/f-/ | ฟ, ฝ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงเสียดแทรก ไม่ก้อง ไม่มีลม | ริมฝีปาก-ฟัน |
/ θ -/ | ท,ธ,ฒ,ถ,ฐ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงระเบิด ไม่ก้อง ไม่ลม | ปุ่มเหงือก |
/s-/ | ส,ศ,ษ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงเสียดแทรก ไม่ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/ʃ-/ | ช | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงเสียดแทรก ไม่ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/z-/ | ซ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงเสียดแทรก ไม่ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/ʒ-/ | ฉ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงกักเสียดแทรก ไม่ก้อง มีลม | ปุ่มเหงือก-เพดานแข็ง |
/h-/ | ฮ,ห | เป็นหน่วยพยัญชนะเสียงเสียดแทรก ไม่ก้อง ไม่มีลม | คอหอย |
/m-/ | ม | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงนาสิก ก้อง ไม่มีลม | ริมฝีปาก |
/n-/ | น, ณ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงนาสิก ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/ŋ-/ | ง | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงนาสิก ก้อง ไม่มีลม | เพดานอ่อน |
/l-/ | ล,ฬ | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงข้างลิ้น ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/r-/ | ร | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงรัว ก้อง ไม่มีลม | ปุ่มเหงือก |
/j-/ | ย | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงกึ่งสระ ก้อง ไม่มีลม | เพดานแข็ง |
/w-/ | ว | เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงกึ่งสระ ก้อง ไม่มีลม | ริมฝีปาก |
หน่วยเสียงพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงระเบิด ได้แก่ /p-/, /t-/, /k-/, /d-/, /g-/, / θ -/
หน่วยเสียงพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงกักเสียดแทรก ได้แก่ /ch-/, / dʒ -/, /f-/, /ʒ-/
หน่วยเสียงพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงเสียดแทรก ได้แก่ /f-/, /s-/, /ʃ-/, /z-/, /h-/
หน่วยเสียงพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงนาสิก ได้แก่ /m-/, /n-/, /ŋ-/
หน่วยเสียงพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงข้างลิ้น ได้แก่ /l-/
หน่วยเสียงพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะเสียงรัว ได้แก่ /r-/
หน่วยเสียงพยัญชนะที่เป็นหน่วยเสียงพยัญชนะกึ่งสระ ได้แก่ /j-/, /w-/
- ฐานกรณ์ที่ใช้ในการออกเสียงมีทั้งริมฝีปาก เพดานอ่อน เพดานแข็ง ปุ่มเหงือก และคอหอย
ดูเพิ่ม:
- แผนการเรียนการออกเสียงภาษาอังกฤษเบื้องต้นที่คุณต้องห้ามพลาด
- การออกเสียงภาษาอังกฤษจะไม่เป็นศัตรูของคุณอีกต่อไป ด้วย 8 วิธีง่าย ๆ นี้
4 – บทสรุป
การที่เราจะสร้างบ้านเราต้องีโครงสร้างที่แข็งแรงและมั่นคงก็เปรียบเสมือนกับการเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ ก็ต้องมีโครงสร้างและต้องมีการวางรากฐานให้มั่นคง และแม่นยำ
ซึ่งหากเราเข้าใจกฎและเคล็ดลับภาษาอังกฤษเหล่านี้ จะช่วยให้เราออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและชัดเจน แล้วยังช่วยให้เราเขียนได้ถูกต้องอีกด้วย
แม้แต่คำศัพท์คำใดที่ยังไม่รู้ หากเรามั่นใจและแม่นยำในทักษะนี้จะช่วยให้เราฟังชาวต่างชาติออกเสียงได้ดีขึ้น และยังช่วยให้เราสามารถเขียนคำศัพท์นั้น ๆ ได้ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
ทักษะที่สำคัญและเป็นบันไดขั้นแรกของการเรียนภาษาอังกฤษนั่นก็คือทักษะการฟังและทักษะการพูด หากเราชำนาญทักษะการฟังและทักษะการพูดแล้วจะนำไปสู่ทักษะอีกสองทักษะได้
นั่นก็คือทักษะการอ่านและทักษะการเขียน กล่าวคือสัทอักษรที่เรานำมาฝากนี้จะช่วยอัพเกรดสำเนียงและการพูดภาษาอังกฤษของคุณให้ดีขึ้น และช่วยให้คุณมั่นใจในการพูดมากขึ้น
ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไปที่เราจะเรียนรู้ หากเรามีความตั้งใจจริง อีกสิ่งสุดท้ายที่สำคัญ คือ ขยันฝึกฝนและเรียนภาษาอังกฤษทุก ๆ วัน จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จและช่วยให้คุณชำนาญในการสื่อสารภาษาอังกฤษและพูดภาษาอังกฤษได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น
และที่สำคัญหากคุณมีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษดี ๆ สักคอร์สก็จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น เพราะคุณจะมีผู้แนะแนวทาง ปูพื้นฐานและคอยช่วยเหลือคุณในการเรียนภาษาอังกฤษ
อย่ากลัวที่จะเริ่มเรียนเพราะการเรียนไม่มีขีดจำกัดทางด้านอายุ เพศหรือวัยหากคุณตั้งใจจริงทุกสิ่งจะเป็นไปตามที่คุณปรารถนา เราเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการเรียนภาษาอังกฤษค่ะ
ขอให้ทุกคนโชคดีและประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษ!
ป.ล บทความนี้จะช่วยชี้แนวทางและช่วยอธิบายเคล็ดลับให้กับคุณในการเรียนรู้และทำความเข้าใจวิธีการในการอ่านและการออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องที่สุดโดยที่เราไม่ต้องเปลืองแรง
ถ้าคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกด Like และ กด Share ให้คนอื่น ๆ ได้อ่าน หากมีปัญหาหรือสงสัยอะไรสามารถทิ้งข้อความหรือคอมเมนท์ไว้ที่ข้างล่างบทความนี้ได้
ในบทความนี้เราก็อยากจะแนะนำวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่ได้ผลและดีที่สุดให้กับคุณร่วมกับการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ชัดเจนจะช่วยให้สำเนียงภาษาอังกฤษได้เหมือนกับชาวต่างชาติ
ถ้าคุณยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับวิธีการออกเสียงภาษาอังกฎษของตัวเอง ตัองไม่พลาดกับวิดีโอนี้
ไม่พลาดกับบทความนี้:
- 10 ข้อผิดพลาดในการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ควรหลีกเลี่ยง
- การออกเสียงภาษาอังกฤษ: แผนการปฏิบัติสุดเจ๋งสำหรับฝึกออกเสียงอย่างคล่องแคล่วใน 32 วัน
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .