Eng Breaking เปิดเคล็ด ลับสอนคําศัพท์ภาษาอังกฤษอนุบาลฉบับสมบูรณ์ควรให้เด็กเรียนภาษาอังกฤษเมื่อไหร่?ถ้าเราไม่อยากให้ลูกช้าเราต้องลงทุนและเวลาใส่ใจในเรื่องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เกิดหรือเริ่มเมื่อน้อง 1-8 ขวบใช้คำว่าเริ่มเพราะเป็นก้าวแรกที่ผู้ปกครองจะควรทำเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้ภาษาที่สองยิ่งเร็วยิ่งดีเพราะในงานวิจัยต่างๆก็ชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่1-8 ขวบก็เป็นช่วงเวลาทองสำหรับการเรียนรู้ภาษาต่างๆของเด็กเล็กด้วย
เด็กตั้งแต่ตอนอายุ 1 ขวบผู้ปกครองอย่าคิดว่าเด็กเล็กไปภาษาแม่ยังไม่รู้จะเรียนภาษาที่สองได้ไง ?? อย่าใช้ความคิดนี้นะคะเพราะผิดเต็มๆค่ะคุณเคยเห็นไหมคะที่ลูกเพื่อนบ้านเขาอายุเท่ากับลูกของเราแต่ลูกเขาพูดภาษาอังกฤษทั้งมั่นใจทั้งชัด?? เพราะว่าเด็กน้อยเรียนรู้ไวต่างกับผู้ใหญ่มากมายเพราะ
- การเรียนภาษาที่สองสามารถชะลอความแก่ของสมองได้เช่นกัน ผู้เรียนอายุยิ่งน้อยความสามารถในการเลียนแบบเสียงและการออกเสียงของพวกเขาก็จะยิ่งดี
- ยืนยันได้เลยว่าสำหรับเด็กๆ ยิ่งอายุน้อย สมองยังอยู่ในระหว่างการเจริญเติบโต สมองจะยิ่งเปิดรับเสียงใหม่และรูปแบบใหม่ เด็กจะสามารถจดจำ และเลียนเสียงใหม่ๆ รวมทั้งออกเสียงได้ดีถ้าผู้ปกครองรู้วิธีการสอนเด็กให้อย่างเหมาะสม
ดังนั้นเด็กในวัย 1 ขวบสามารถฟังและรู้ความหมายของคำบางคำได้แล้ว อย่างไรก็แล้วแต่การฝึกภาษาที่ 2 อายุของลูกไม่ควรเกิน 8 ขวบ ถ้าฝึกหลังจากนี้ผู้สอนต้องใช้ความพยายามอย่างมาก และเด็กจะพูดได้ช้ากว่าตอนเริ่ม ก่อนอายุ 8 ขวบค่ะ
ข้อได้เปรียบของเด็กที่รู้ 2 ภาษา
แน่นอนคือถ้าคุณเก่งเรื่องภาษาคุณก็จะมีโอกาสเข้ามามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการเรียนต่างๆ ทำอะไรก็สะดวก จะง่ายกว่าคนที่ดอยเรื่องด้านนี้ ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่นะคะสำหรับเด็กน้อยก็เหมือนกัน เด็กที่ได้สองภาษาเขาก็จะได้เปรียบกว่า เช่น
เด็กสองภาษาที่มีประสบการณ์ในการพูดสลับภาษา จึงทำให้เป็นคนที่แก้ปัญหาได้ง่าน นอกจากนั้นเรื่องที่เด็กเรียนรู้ภาษาที่สองตอนอายุยังเล็กจะช่วยเด็กๆ ฝึกสมอง ฝึกสมาธิในการคิด… พวกเขาได้พลิกแพลงกว่าเด็กที่รู้แค่ภาษาเดียวนั่นเอง
จากการเรียนรู้ที่จะฝึกแตกคำออกเป็นส่วนๆ ผ่านการเรียนภาษาจะทำให้เด็กที่รู้สองภาษาจะมีนิสัยฝึกคิดเชิงวิเคราะห์ตั้งแต่เล็ก ซึ่งก็ช่วยให้ผลการเรียนโดยรวมของเด็กดีขึ้น
เมื่อเด็กเรียนภาษาที่สองเขาก็จะได้รับรู้ความต่างทางวัฒนธรรมผ่านการเรียนภาษาร่วมกับเด็กคนอื่นๆเด็กมีทักษะการสื่อสารที่ดีกว่า เขาก็จะกล้าพูด กล้าทำ และมั่นใจในตัวเองมากขึ้น สามารถคบเพื่อนหรือ สามารถเข้าสังคมได้ดีกว่า
แล้วเมื่อโตขึ้นเด็กที่รู้ 2 ภาษาจะมีปัญหาสมองเสื่อมก่อนวัยน้อยกว่าเด็กที่รู้ภาษาเดียว รวมทั้งมีโอกาสในการหางานทำ งานที่มีรายดายสูง หรือจุดที่มั่นคงในสังคม ดังนั้นผู้ปกครองไม่ควรพลาด
ไม่ควรมองผ่านช่วงเวลาทองสำหรับการเรียนภาษาที่สองของลูกนะคะ เพราะถ้าคุณพ่อและคุณแม่ไม่เห็นความสำคัญของเรื่องให้ลูกเรียนภาษาที่สอง ลูกเราก็จะขาดโอกาสหลายอย่างในอนาคตแน่เลย
แต่พ่อแม่ไม่เก่งเรื่องภาษาจะสอนลูกได้อย่างไร แล้วอีกปัญหาหนึ่งคือพ่อแม่พูดภาษาภาษาอังได้คำบ้างคำแต่ติดสำเนียงไทยจะสอนลูกก็กลัวลูกออกเสียงผิดตาม อย่ากังวลมากนะคะ เพราะเรามีวิธีช่วยคุณไม่เก่งด้านภาษาก็สามารถเรียนกับลูกได้ชั่วร

ดูเพิ่ม:
- รวมคําศัพท์กีฬาภาษาอังกฤษที่ผู้เรียนไม่ควรพลาด
- คำศัพท์ยานยนต์ ทำความรู้จักกับ 140+ คำศัพท์ที่คุณต้องรู้
ผู้ปกครองควรทำอะไรเพื่อให้ลูกตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ?
สร้างสภาพแวดล้อม:
คุณพ่อและคุณแม่ธรรมดาก็สอนลูกเป็นเด็กสองภาษาได้ถ้ารู้จักวิธีการสอนเด็ก เริ่มต้นจากการสร้างสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ภาษาที่สองเช่นคุณพ่อและคุณแม่ฝึกพูดที่ละคำ หรือประโยคสั้นๆ กับเด็กๆ วันละนิดวันละหน่อยเด็กๆ ก็จะฟังคุ้นหู ใช้วิธีการเรียนเล่นปนเรียน เรียนปนเล่น เรียนรู้อย่างสนุกสนานเหมาะกับวัยของเด็ก และทำให้เด็กรู้สึกว่าการเรียนภาษาที่สองเป็นเรื่องที่แฮปปี
ไม่ต้องกลัว ถึงตอนที่เด็ดเข้าโรงเรียนจะไม่ช้ากว่าเพื่อน และมีความมั่นใจเมื่อพูดภาษาอังกฤษมากขึ้นนะคะ แล้วถ้ามีโอกาสก็ควรเลือกให้เด็กเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ หรือเรียนผ่านแอพเรียนภาษาได้ที่บ้าน เรียนได้ทั้งครอบครัวก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมจากคุณพ่อและคุณแม่หลายๆ ท่านตอนนี้นะคะ
ฝึกเรียนไปกับลูก:
คุณอย่ากลัวว่าเราไม่เก่งเรื่องภาษาจาอนลูกได้อย่างไร หรือกลัวเราออกเสียงผิดลูกจะเลียนแบบตามนะคะ เพราะถ้าคำไหนที่คุณไม่แน่ใจคุณสามารถหาวิธีช่วยได้ผ่านเน็ตนะคะ หรือซื้อหนังสือพูด ที่มีคำศัพท์ ประโยคสั้นๆ พร้อมความหมายและการออกเสียงเพื่อฝึกออกเสียงก่อนแล้วเรียนไปด้วยกับลูกนะคะ
เด็กๆ ต้องการคุณพ่อและคุณแม่ให้กำลังใจและชี้แนวทางในระหว่างเวลาเรียน วันละใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะสอนลูกเป็นเด็กสองภาษาแน่นอนค่ะ เพราะไม่มีใครเป็นตั้งแต่แรก หรือตั้งแต่เกิดมานะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างอยากเก่งเราก็ต้องใส่ใจและพยายามไปทุกวันค่ะ
เข้ากลุ่มพ่อแม่เลี้ยงลูก 2 ภาษา:
เป็นสิ่งที่ควรทำแน่นอน เพราะหลายๆ ปัญหาที่ลูกของคุณเจอเมื่อเรียนภาษาที่สองก็จะเป็นปัญหาของเด็กๆ ทั่วไป ดังนั้นถ้าคุณกำลังไม่รู้จะแก้ปัญานั้นอย่างไรดี ก็ควรสอบถามความรู้และประสบการณ์ของผู้ปกครองท่านอื่นๆ ในการเลี้ยวลูกเป็นเด็กสองภาษาสำเร็จใช่ไหมคะ
เลือกกลุ่มดีๆ แชร์ความรู้ที่มีประโยคช์นะคะ และต้องเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับลูกของเราค่ะ คุณพ่อและคุณแม่ต้องเป็นคนที่คัดเลือกสิ่งที่ดีๆ มาให้ลูกนะคะ เพราะความคิดเห็นก็มีหลากหลายแบบ หลากกลายวิธีการ เลยเราต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะวิธีที่เหมาะสมกับเราและลูก
ดูเพิ่มเติมที่:
ภาษาอังกฤษในโรงแรมพร้อมทุกประโยค ฉบับบจัดเต็ม!!
คําศัพท์ภาษาอังกฤษอนุบาลฉบับสมบูรณ์
1 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับครอบครัว
คำศัพท์ภาษาอังกฤ | วิธีการออกเสียง | ความหมายภาษาไทย |
---|---|---|
father | /ˈfaːðə/ | พ่อ |
dad | /dӕd/ | พ่อ (ภาษาพูด) |
mother | /ˈmaðə/ | แม่ |
mom / mum | /mom/ /ˈmam(i)/ | แม่ (ภาษาพูด) |
son | /san/ | ลูกชาย |
daughter | /ˈdoːtə/ | ลูกสาว |
brother | /ˈbraðə/ | พี่ชาย/น้องชาย |
older brother | /əʊld ˈbraðə/ | พี่ชาย |
younger brother | /jʌŋ ˈbraðə/ | น้องชาย |
sister | /ˈsɪs.tər/ | พี่สาว / น้องสาว |
older sister | /əʊld ˈsɪs.tər/ | พี่สาว |
parent | /ˈpeə.rənt/ | ผู้ปกครอง/ บิดาหรือมารดา |
grandparents | /ˈɡræn.peə.rənt/ | ปู่ย่าตายาย |
grandfather | /ˈɡræn.fɑː.ðər/ | คุณปู่ / คุณตา |
grandmother | /ˈɡræn.mʌð.ər/ | คุณย่า / คุณยาย |
2 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับสิ่งของในบ้าน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ | วิธีการออกเสียง | ความหมายภาษาไทย |
---|---|---|
Bed | /bed/ | เตียง |
Bookcase | /ˈbʊk.keɪs/ | ตู้หนังสือ |
Chair | /tʃeər/ | เก้าอี้ |
Clock | /klɒk/ | นาฬิกา |
Desk | /desk/ | โต๊ะทำงาน |
Mirror | /ˈmɪr.ər/ | กระจกเงา |
Pillow | /ˈpɪl.əʊ/ | หมอน |
Lamp | /læmp/ | โคมไฟ |
3 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับตัวอักษร
ตัวอักษรภาษาอังกฤษ | ตัวอย่าง | วิธีการออกเสียง |
---|---|---|
A | Alligator /ˈӕliɡeitə/ | /eɪ/ |
B | Bear /beə/ | /biː/ |
C | Cat /kӕt/ | /siː/ |
D | Dog /doɡ/ | /diː/ |
E | Elephant /ˈelifənt/ | /iː/ |
F | Fox /foks/ | /ɛf/ |
G | Giraffe /dʒiˈraːf/ | /dʒiː/ |
H | HIPPO /ˈhɪp·oʊ/ | /eɪtʃ/ |
/heɪtʃ/ | ||
I | Iguana /ɪˈɡwɑː.nə/ | /aɪ/ |
J | Jellyfish /ˈdʒel.i.fɪʃ/ | /dʒeɪ/ |
/dʒaɪ/ | ||
K | Kangaroo /ˌkæŋ.ɡərˈuː/ | /keɪ/ |
L | Lion /ˈlaɪ.ən/ | /ɛl/ |
M | Monkey /ˈmʌŋ.ki/ | /ɛm/ |
N | Nightingale /’naitiŋgeil/ | /ɛn/ |
O | Owl /aʊl/ | /oʊ/ |
P | Pig /pɪɡ/ | /piː/ |
Q | Quail /kweɪl/ | /kjuː/ |
R | Rooster /ˈruː.stər/ | /ɑr/ |
S | Snake /sneɪk/ | /ɛs/ |
T | Turtle /ˈtɜː.təl/ | /tiː/ |
U | Unicorn /ˈjuː.nɪ.kɔːn/ | /juː/ |
V | Vulture /ˈvʌl.tʃər/ | /viː/ |
W | Woft [wulf] | /ˈdʌbəl.juː/ |
X | Xenopus | /ɛks/ |
Y | Yak /jӕk/ | /waɪ/ |
Z | Zebra;/ˈzɛbrə/ ZEB-rə Or /ˈziːbrə/ ZEE-brə) | /zɛd/ |
/ziː/ | ||
/ˈɪzərd/ |
ไม่พลาดกับบทความนี้:
คําแสลงภาษาอังกฤษ คำยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด
4 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องสี
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ | วิธีการออกเสียง | ความหมายภาษาไทย |
---|---|---|
Blue | /bluː/ | สีน้ำเงิน |
Red | /red/ | สีแดง |
Pink | /pɪŋk/ | สีชมพู |
Orange | /ˈɒr.ɪndʒ/ | สีส้ม |
Yellow | /ˈjel.əʊ/ | สีเหลือง |
Black | /blæk/ | สีดำ |
Green | /ɡriːn/ | สีเขียว |
Brown | /braʊn/ | สีน้ำตาล |
White | /waɪt/ | สีขาว |
Silver | /ˈsɪl.vər/ | สีเงิน |
Golden | /ˈɡəʊl.dən/ | สีทอง |
Grey | /ɡreɪ/ | สีเทา |
Purple | /ˈpɜː.pəl/ | สีม่วง |
Cream | /kriːm/ | สีครีม |
5 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับตัวเลข
การนับ (Counting) เป็นคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวกับตัวเลข อันดับแรกที่เด็กรู้จักเป็นการนับอย่างมี
ความหมาย เช่น การนับตั้งแต่ 1-50
ตัวเลขภาษอังกฤษ | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|
one | วัน | หนึ่ง |
two | ทู | สอง |
three | ธรี | สาม |
four | ฟอ | สี่ |
five | ไฟฝ | ห้า |
six | ซิกส์ | หก |
seven | เซ็ฝ–เวิน | เจ็ด |
eight | เอท | แปด |
nine | ไนน์ | เก้า |
ten | เท็น | สิบ |
eleven | อิเล็ฝเวิน | สิบเอ็ด |
twelve | ทเว็ลฟ์ | สิบสอง |
thirteen | เธ๊อทีน | สิบสาม |
fourteen | ฟ๊ททีน | สิบสี่ |
fifteen | ฟิ๊ฟทีน | สิบห้า |
sixteen | ซิ๊กสทีน | สิบหก |
seventeen | เซ็ฝเวินทีน | สิบเจ็ด |
eighteen | เอททีน | สิบแปด |
nineteen | ไนน์ทีน | สิบเก้า |
twenty | ทเว็นทิ | ยี่สิบ |
twenty-one | เทว็นทิ วัน | ยี่สิบเอ็ด |
twenty-two | เทว็นทิ ทู | ยี่สิบสอง |
twenty-three | เทว็นทิ ธรี | ยี่สิบสาม |
twenty-four | เทว็นทิ ฟอ | ยี่สิบสี่ |
twenty-five | เทว็นทิ ไฟฝ | ยี่สิบห้า |
twenty-six | เทว็นทิ ซิกส์ | ยี่สิบหก |
twenty-seven | เทว็นทิ เซ็ฝเวิน | ยี่สิบเจ็ด |
twenty-eight | เทว็นทิ เอท | ยี่สิบแปด |
twenty-nine | เทวนทิ ไนน์ | ยี่สิบเก้า |
thirty | เธ๊อทิ | สามสิบ |
thirty-one | เธ๊อทิ วัน | สามสิบเอ็ด |
thirty-two | เธ๊อทิ ทู | สามสิบสอง |
thirty-three | เธ๊อทิ ธรี | สามสิบสาม |
thirty-four | เธ๊อทิ ฟอ | สามสิบสี่ |
thirty-five | เธ๊อทิ ไฟฝ | สามสิบห้า |
thirty-six | เธ๊อทิ ซิกส์ | สามสิบหก |
thirty-seven | เธ๊อทิ เซ็ฝเวิน | สามสิบเจ็ด |
thirty-eight | เธ๊อทิ เอท | สามสิบแปด |
thirty-nine | เธอทิ ไนน์ | สามสิบเก้า |
forty | ฟ๊อทิ | สี่สิบ |
forty-one | ฟ๊อทิ วัน | สี่สิบเอ็ด |
forty-two | ฟ๊อทิ ทู | สี่สิบสอง |
forty-three | ฟ๊อทิ ธรี | สี่สิบสาม |
forty-four | ฟ๊อทิ ฟอ | สี่สิบสี่ |
forty-five | ฟ๊อทิ ไฟฝ | สี่สิบห้า |
forty-six | ฟ๊ททิ ซิกส์ | สี่สิบหก |
forty-seven | ฟ๊อทิ เซ็ฝเวิน | สี่สิบเจ็ด |
forty-eight | ฟ๊อทิ เอท | สี่สิบแปด |
forty-nine | ฟอทิ ไนน | สี่สิบเก้า |
fifty | ฟิ๊ฟทิ | ห้าสิบ |
6 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับร่างกาย
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ “ร่างกาย” (Body Parts Vocabulary)
ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
head | เฮด | หัว |
face | เฟสฺ | ใบหน้า |
eye | อาย | ตา |
eyebrow | อายเบรา | คิ้ว |
ear | เอียรฺ | หู |
cheek | ชีคฺ | แก้ม |
nose | โนสฺ | จมูก |
lip | ลิพ | ริมฝีปาก |
mouth | เมาธฺ | ปาก |
tooth | ทูธฺ | ฟัน |
tongue | ทัง | ลิ้น |
neck | เน็คฺ | คอ |
hair | แฮรฺ | ผม |
skin | สคิน | ผิวหนัง |
limbs | ลิมบสฺ | แขนขา |
shoulder | โชลเดอรฺ | ไหล่ |
back | แบ็คฺ | หลัง |
arm | อารม | แขน |
elbow | เอลโบ | ศอก |
hand | แฮนดฺ | มือ |
finger | ฟิงเกอ | นิ้วมือ |
nail | เนล | เล็บ |
body | บอดี | ร่างกาย |
chest | เชสทฺ | อก |
foot | ฟูท | เท้า |
toe | โท | นิ้วเท้า |
brain | เบรน | สมอง |
heart | ฮารทฺ | หัวใจ |

7 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ | วิธีการออกเสียง | ความหมายภาษาไทย |
---|---|---|
Zebra | /ˈziː.brə/ | ม้าลาย |
Elephant | /ˈel.ɪ.fənt/ | ช้าง |
Buffalo | /ˈbʌf.ə.ləʊ/ | ควาย |
Crocodile | /ˈkrɒk.ə.daɪl/ | จระเข้ |
Dog | /dɑːɡ/ | สุนัข |
Cat | /kæt/ | แมว |
Chicken | /’tʃikin/ | ไก่ |
Lamb | /læm/ | แกะ |
Horse | /hɔːs/ | ม้า |
Rabbit | /ˈræb.ɪt/ | กระต่าย |
Mouse | /maʊs/ | เมาส์ |
ดูเพิ่มเติมที่:
รวมคําศัพท์กีฬาภาษาอังกฤษที่ผู้เรียนไม่ควรพลาด
8 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับอาชีพ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | ความหมายภาษาไทย |
---|---|---|
cook | คุค | พ่อครัว |
doctor | ด็อคเทอะ | หมอ |
driver | ไดร๊เฝอะ | คนขับรถ |
farmer | ฟ๊าเมอะ | ชาวนา |
policeman | พะลิ๊สเมิน | ตำรวจ |
student | สติ๊วเดินท | นักเรียน |
teacher | ที๊ชเชอะ | ครู |
ยังมีอีกหลายคำศัพท์เกี่ยวกับหัวข้อนี้นะคะแต่เราแค่แนะนำคำศัพท์ที่มักใช้บ่อย และออกเสียงไม่ยากมากเกินไปให้เด็กๆ ค่อยๆ เรียนรู้นะคะ เพราะในช่วงเวลาแรกๆ คุณพ่อและคุณแม่ก็ไม่ควรรีบมาก เด็กๆ เขามีการจินตนาการ และความพัฒนาการของเขาสิ่งที่เราควรทำคือชี้แนวทาง และหาวิธีการเรียนอย่างไรให้อย่างสนุกสนานเท่านั้นเองค่ะ
9 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับรูปทรง
รูปทรงเรขาคณิต ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าอะไร สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงรี วงกลม ทรงกลม…
ภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|
Circle | เซ๊อเคิล | วงกลม |
oval | โอ๊เวิล | วงรี |
Star | สตารฺ | รูปดาว |
Pentagon | เพ็นเทอะเกิน | ห้าเหลี่ยม |
Square | สแกว๊ | สี่เหลี่ยมจัตุรัส |
Star | สตา | รูปดาว |
Ellipse | อิลิพซฺ | วงรี |
10 – คำศัพท์ภาษาอังกฤษในหัวข้อเกี่ยวกับ Prepositions of place. (คำบุพบทบอกตำแหน่ง)
Preposition of Place บอกตำแหน่งของพื้นที่หรือจุดตำแหน่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเด็กๆ เริ่มเรียนภาษา ต่อไปนี้เป็นความหมาย และวิธีการใช้คำบุพบทบอกตำแหน่งที่มักจะใช้บ่อย เพื่อคุณพ่อและคุณแม่สามารถบันทึกไว้เพื่อสอนลูกได้ดังต่อไปนี้การใช้
-
in/อินกรณีนี้จะใช้ในความหมายว่าในอาจจะเป็นการบอกเล่าว่าสิ่งของนั้นอยู่ใน…
– หรือภายในหรือเพื่อตอบคำถามกรณีมีคนถามว่าของบางอย่างอยู่ไหนคนอยู่ที่ไหนอยู่ in/อิน/ในรถ ตัวอย่างประโยค :
Teacher is in the classroom.
-
ตัวอย่างการใช้คำบุพบท on
– กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า บน สิ่งของนั้นๆ อยู่บนสิ่งใด อยู่บนวัตถุใด นอกจากการบอกเล่าแล้ว จะใช้ตอบคำ ถามที่ขึ้นต้นด้วย What เช่น อะไรวางอยู่บนโต๊ะ ของขวัญวางอยู่ บน/on โต๊ะ ตัวอย่างประโยค :
The book is on the table.
-
ตัวอย่างการใช้คำบุพบท at
– กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า อยู่ที่ สิ่งของใดๆ อยู่ที่ไหน ตำแหน่งไหน เช่น at the school/แอ๊ด เดอะ สกูล/อยู่ที่ โรงเรียน อาจจะใช้ at ในประโยคบอกเล่าว่าอะไรอยู่ตรงไหน หรือตอบคำถามกรณีมีคนถามว่า คน สัตว์ สิ่งของ อยู่ที่ไหน ตัวอย่างประโยค :
He is at coffee shop now.1
-
ตัวอย่างการใช้คำบุพบท above
– กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า อยู่เหนือศีรษะ เช่น ชูมือ เหนือ ศีรษะ ห้องที่อยู่ เหนือศีรษะ ตัวอย่างประโยค :
The room above us is noisy.
-
ตัวอย่างการใช้คำบุพบท among
– กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า อยู่ท่ามกลาง คน สัตว์ หรือสิ่งของที่มีจำนวน 3 อย่างขึ้นไป เช่น แมวตัวหนึ่ง อยู่ท่ามกลางสุนัขหลายตัว (เป็นเพื่อนกันไม่กัดกัน เล่นกันได้) ตัวอย่างประโยค :
A cat is among the dogs.
-
ตัวอย่างการใช้คำบุพบท around
– กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า รอบๆ เช่น เขาเดินไปรอบๆ /around/ บ้าน ตัวอย่างประโยค :
He walks around the house.
-
ตัวอย่างการใช้คำบุพบท behind
– กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า อยู่ข้างหลัง อยู่ตำแหน่งข้างหลัง เช่น อยู่ข้างหลังต้นไม้ อยู่หลังบ้าน ตัวอย่างประโยค :
She stands behind her father.
-
ตัวอย่างการใช้คำบุพบท below
– กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า อยู่ใต้บางอย่าง อยู่ด้านล่าง บางอย่าง เช่น ปากกาอยู่ใต้เก้าอี้ ตัวอย่างประโยค :
A pen is below the chair.
-
Between/บิทวีน/กรณีนี้จะใช้ในความหมายว่า อยู่ระหว่าง หรืออยู่คั่นกลาง เช่น
– เธอนั่งอยู่ระหว่างพ่อและน้องสาว หรือนั่ง อยุ่ตรงกลางระหว่างพ่อและน้องสาว ตัวอย่างประโยค :
She stands between her father and her sister.

ประโยคสั้นๆ ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวัน
คุณพ่อและคุณแม่บรรทึกไว้เพื่อสอนเจ้าตัวเล็กนะคะ
- – I wake up: ฉันตื่นนอน- I take a shower: ฉันอาบน้ำ
- – I brush my teeth: ฉันแปรงฟัน
- – I brush my hair: ฉันหวีผม
- – I get dressed: ฉันแต่งตัว
- – I have breakfast: ฉันกินข้าวเช้า
- – I go to school: ฉันไปเรียน
- – I read book: ฉันอ่านหนังสือ
- – I have lunch: ฉันกินข้าวเที่ยง
- – I write: ฉันเขียน
- – I come home: ฉันกลับบ้าน
- – I do my homework: ฉันทำการบ้าน
- – I play with my friends: ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนๆ
- – I watch TV: ฉันดูทิวี
- – I have dinner: ฉันกินข้าวเย็น
- – I wash the dishes: ฉันล้างจาน
- – I go to sleep: ฉันเข้านอน
ว่าอย่างไรบ้างคะคุณพ่อและคุณแม่อย่าลืมแชร์หรือบันทึกไว้เพื่อสอนลูกนะคะ สำหรับเด็กในวัย 3-8 ขวบเป็นช่วงเวลาทองในการรเรียนภาษาที่สองพ่อแม่อย่ามองผ่านความสำคัญของการเรียนการสอนในช่วงเวลานี้และลองฝึกออกเสียงให้เด็กๆ ด้วยนะคะ
ช่วงเวลาแรกๆ เด็กได้สัมผัสกับภาษาที่สองแบบนี้ ไม่ต้องเน้นเรื่องไวยกากรณ์นะคะ หลักๆ คือหาวิธีการเรียนการสอนแบบเรียนปนเล่น เล่นปนเรียน ให้เด็กฝึกฟังบ่อยๆ ให้จินหูไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือคุณพ่อและคุณแม่อ่านออกเสียงก่อนแล้วฝึกให้เด็กออกเสียงตาม วันละนิดก็จะเก่งแน่นอนค่ะ ให้กำลังใจนะคะ
ไม่พลาดกับบทความนี้:
-
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.

Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .