ตัวอย่างการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษจาก Eng Breaking ด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีแนะนำตัวเองที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
ไม่เพียงแต่สำหรับนักเรียนเท่านั้น ทุกคนสามารถใช้เทมเพลตเหล่านี้เพื่อให้มั่นใจมากขึ้นในการสื่อสารรายวันหรือการสัมภาษณ์งาน
1 – โครงสร้างการแนะนำตนเองเป็นภาษาอังกฤษ
การแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานมักประกอบด้วย 4 ส่วน ซึ่งคุณสามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคล เน้นย้ำจุดแข็ง ความสนใจ หรือเป้าหมายของคุณแก่ผู้อ่านหรือผู้ฟังได้ ด้านล่างนี้เป็นโครงสร้างการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ:
Greeting (การทักทาย)
คำทักทายที่น่าดึงดูดและเป็นกันเองจะช่วยให้คุณสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่เริ่มต้น
ตัวอย่าง:
Hello everyone, my name is [Your Name].
(สวัสดีทุกคน ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ])
Good morning/afternoon/evening, I am [Your Name].
(สวัสดีตอนเช้า ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ])
Let me introduce myself.
(ให้ฉันแนะนำตัวเอง.)
Introduction (การแนะนำ)
ในส่วนนี้ คุณจะแนะนำข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับอายุ ระดับการศึกษา การศึกษาและประสบการณ์การทำงาน หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่คุณต้องการแสดง
ตัวอย่าง
I’m… years old.
(อายุของฉันคือ… )
I am from [City, Country] and I recently graduated from [University] with a degree in [Field of Study].
(ฉันมาจาก [เมือง ประเทศ] และฉันเพิ่งสำเร็จการศึกษาจาก [ชื่อโรงเรียน] ด้วย [สาขาวิชา])
I have been working as a [Job Title] at [Company] for the past [number] years.
(ฉันทำงานเป็น [ตำแหน่งงาน] ที่ [บริษัท] มาตลอด [จำนวน] ปีที่ผ่านมา)
Interest or Passion (งานอดิเรกหรือความหลงใหล)
เน้นความสนใจและความหลงใหลของคุณที่สะท้อนถึงบุคลิกภาพ ลักษณะนิสัย และคุณสมบัติที่น่าประทับใจของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถแนะนำแผนการในอนาคตของคุณเพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจคุณได้ดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น:
In my free time, I enjoy [hobby], and I am particularly passionate about [interest or cause].
(ในเวลาว่าง ฉันชอบ [งานอดิเรก] และฉันก็หลงใหลใน [งานอดิเรกหรือเป้าหมาย] เป็นพิเศษ)
One of my biggest passions is [passion], and I love spending time [related activity].
(ความหลงใหลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของฉันคือ [ความหลงใหล] และฉันสนุกกับการใช้เวลาไปกับ [กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง])
In the future, I hope…
(ในอนาคตฉันหวังว่า…)
Closing (สรุป)
คุณสามารถจบการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษด้วยการขอบคุณ หรือคำถามเปิด ความสัมพันธ์หรือการติดต่อ
ตัวอย่างเช่น:
Thank you for listening to my introduction. I look forward to getting to know all of you.
ตัวอย่าง:
(ขอบคุณที่รับฟังการแนะนำของฉัน ฉันหวังว่าจะได้รู้จักพวกคุณทุกคน)
That’s a little bit about me. If you have any questions or would like to connect, please feel free to reach out.
(นั่นเป็นเพียงฉันเล็กน้อย หากคุณมีคำถามหรือต้องการเชื่อมต่อ โปรดติดต่อ)
คุณก็อาจจะสนใจ:
- เรียนพูดภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว ก้าวยาวสู่ความสำเร็จ
- เคล็ดลับเด็ด ๆ แยกการใช้ Say Tell Speak Talk ง่ายกว่าที่คิด
2. ตัวอย่างประโยคการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษตามหัวข้อ
สำหรับตัวอย่างที่เจาะจงและคุ้นเคยที่สุด Eng Breaking จะให้ตัวอย่างประโยคแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษตามหัวข้อในแต่ละส่วนต่อไปนี้
2.1. ตัวอย่างประโยคแนะนำชื่อ
- My name is…
ตัวอย่าง: My name is John.
(ฉันชื่อจอห์น.)
- I am called…
ตัวอย่าง: I am called Sarah.
(ฉันชื่อซาร่าห์)
- My full/ first/ last name is…
ตัวอย่าง: My name is John, My full name is John Michael Smith.
(ฉันชื่อจอห์น ชื่อเต็มของฉันคือจอห์น ไมเคิล สมิธ)
- People know me as…
ตัวอย่าง: People know me as Michael.
(ทุกคนรู้จักฉันในชื่อไมเคิล)
- You can call me…
ตัวอย่าง: You can call me Emily.
(เรียกฉันว่าเอมิลี่ก็ได้)
- I go by the name…
ตัวอย่าง: I go by the name David.
(ฉันใช้ชื่อเดวิด)
2.2. ตัวอย่างประโยคแนะนำบ้านเกิด
- I am from…
ตัวอย่าง: I am from Vietnam.
(ฉันมาจากเวียดนาม.)
- I was born and raised in…
ตัวอย่าง: I was born and raised in Canada.
(ฉันเกิดและโตที่แคนาดา)
- My country is…
ตัวอย่าง: My country is Japan.
(ประเทศของฉันคือญี่ปุ่น)
- I come from…
ตัวอย่าง: I come from Australia.
(ฉันมาจากออสเตรเลีย.)
- I grew up in…
ตัวอย่าง: I grew up in France.
(ฉันโตที่ฝรั่งเศส)
2.3. ตัวอย่างประโยคแนะนำเกี่ยวกับที่อยู่
- I live in…
ตัวอย่าง: I live in New York.
(ฉันอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก)
- Currently, I reside in…
ตัวอย่าง: Currently, I reside in London.
(ปัจจุบันฉันอาศัยอยู่ที่ลอนดอน)
- I am currently living in…
ตัวอย่าง: I am currently living in Tokyo.
(ปัจจุบันฉันอาศัยอยู่ที่โตเกียว)
- My current place of residence is…
ตัวอย่าง: My current place of residence is Paris.
(ที่อยู่ปัจจุบันของฉันคือปารีส)
- I have been living in [[สถานที่อยู่อาศัยปัจจุบัน] for [เวลา]
ตัวอย่าง: I have been living in Sydney for 2 years.
(ฉันอาศัยอยู่ที่ซิดนีย์มา 2 ปีแล้ว)
2.4. ตัวอย่างประโยคแนะนำครอบครัว
- There are [จำนวนสมาชิก]people in my family.
ตัวอย่าง: There are four people in my family.
(ครอบครัวของฉันมีสี่คน)
- I have [จำนวน] siblings.
ตัวอย่าง: I have two siblings.
(ฉันมีพี่น้องสองคน.)
- My family consists of [สมาชิกในครอบครัว].
ตัวอย่าง: My family consists of my parents, my sister, and me.
(ครอบครัวของฉันประกอบด้วยพ่อแม่ พี่สาว และฉัน)
- I live with my [สมาชิกในครอบครัว].
ตัวอย่าง: I live with my parents and younger brother.
(ฉันอาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้องชาย)
- My [สมาชิกในครอบครัว] works as a [อาชีพ].
ตัวอย่าง: My father works as a doctor and my mother is a teacher.
(พ่อของฉันเป็นหมอและแม่ของฉันเป็นครู)
2.5. ประโยคตัวอย่างแนะนำวุฒิการศึกษา
- I hold a [ปริญญา] in [สาขา] from [มหาวิทยาลัย].
ตัวอย่าง: I hold a Bachelor’s degree in Business Administration from Harvard University.
(ฉันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
- I graduated with a [ปริญญา] in [สาขา] from [มหาวิทยาลัย].
ตัวอย่าง: I graduated with a Master’s degree in Environmental Science from the University of California, Berkeley.
(ฉันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์)
- I earned my [ปริญญา] in [สาขา] from [มหาวิทยาลัย].
ตัวอย่าง: I earned my PhD in Physics from MIT.
(ฉันได้รับปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์จาก MIT)
- I completed my studies in [สาขา] at [มหาวิทยาลัย].
ตัวอย่าง: I completed my studies in Psychology at Yale University.
(ฉันสำเร็จการศึกษาสาขาจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยเยล)
- I have a [ปริญญา] in [สาขา] with a focus on [วิชาเอก] from [มหาวิทยาลัย].
ตัวอย่าง: I have a Master’s degree in Computer Science with a focus on Artificial Intelligence from Stanford University.
(ฉันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยเน้นด้านปัญญาประดิษฐ์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด)
2.6. ประโยคตัวอย่างแนะนำอาชีพและตำแหน่งงาน
- I work as a [ตำแหน่ง] at [บริษัท].
ตัวอย่าง: I work as a software engineer at Google.
(ฉันทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ Google)
- I am currently employed as a [ตำแหน่ง] at [บริษัท].
ตัวอย่าง: I am currently employed as a marketing manager at Unilever.
(ปัจจุบันฉันทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ Unilever)
- My position is [ตำแหน่ง] at [บริษัท].
ตัวอย่าง: My position is project manager at Microsoft.
(ตำแหน่งของฉันคือผู้จัดการโครงการที่ Microsoft)
- I hold the position of [ตำแหน่ง] at [บริษัท].
ตัวอย่าง: I hold the position of senior analyst at Deloitte.
(ฉันดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์ที่ Deloitte)
- I am a [ตำแหน่ง] working for [บริษัท].
ตัวอย่าง: I am a graphic designer working for Adobe.
(ฉันเป็นนักออกแบบกราฟิกที่ทำงานให้กับ Adobe)
2.7. ตัวอย่างประโยคแนะนำบุคลิกภาพ
- I am a [บุคลิกภาพ] person.
ตัวอย่าง: I am a friendly person.
(ฉันเป็นคนเป็นกันเอง.)
- People often describe me as [บุคลิกภาพ].
ตัวอย่าง: People often describe me as hardworking.
(ผู้คนมักเรียกฉันว่าเป็นคนที่ทำงานหนัก)
- I consider myself to be [บุคลิกภาพ].
ตัวอย่าง: I consider myself to be creative.
(ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์)
- One of my strongest qualities is being [บุคลิกภาพ].
ตัวอย่าง: One of my strongest qualities is being organized.
(จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งของฉันคือความเป็นระเบียบเรียบร้อย)
- I am known for being [บุคลิกภาพ].
ตัวอย่าง: I am known for being dependable.
(ฉันรู้แล้วว่าน่าเชื่อถือ)
2.8. ตัวอย่างประโยคแนะนำความสนใจส่วนบุคคล
- I enjoy [งานอดิเรก].
ตัวอย่าง: I enjoy reading books.
(ฉันชอบอ่านหนังสือ)
- My favorite hobby is [งานอดิเรก].
ตัวอย่าง: My favorite hobby is playing the guitar.
(งานอดิเรกที่ฉันชอบคือเล่นกีตาร์)
- In my free time, I like to [งานอดิเรก].
ตัวอย่าง: In my free time, I like to go hiking.
(เวลาว่างฉันชอบไปเดินป่า)
- I am passionate about [งานอดิเรก].
ตัวอย่าง: I am passionate about cooking.
(ฉันหลงใหลในการทำอาหาร)
- One of my hobbies is [งานอดิเรก].
ตัวอย่าง: One of my hobbies is traveling to new places.
(งานอดิเรกอย่างหนึ่งของฉันคือการเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ)
2.9. ตัวอย่างประโยคแนะนำสถานภาพการสมรส
- I am single.
ตัวอย่าง: I am single.
ฉันโสด
- I am married.
ตัวอย่าง: I am married.
ฉันแต่งงานแล้ว
- I am engaged.
ตัวอย่าง: I am engaged.
ฉันหมั้นแล้ว
- I am divorced.
ตัวอย่าง: I am divorced.
ฉันหย่ามาแล้ว
- I am in a relationship.
ตัวอย่าง: I am in a relationship.
ฉันกำลังมีความสัมพันธ์ทางอารมณ์
ดูเพิ่ม:
- 13 เทคนิค ช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 3 เดือน
- [How to] เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานอย่างเฉลียวฉลาด
3. ตัวอย่างเรียงความการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษตามหัวข้อ
3.1. ย่อหน้าการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงาน
ตัวอย่างบทเรียนที่ 1
Hello, my name is James Carter. I hold a Bachelor’s degree in Computer Science from MIT and currently work as a software engineer at Google. I specialize in developing scalable web applications and have a strong background in machine learning and artificial intelligence. Over the past five years, I’ve led several successful projects, contributing to the improvement of our company’s core products. In my free time, I enjoy participating in coding challenges and staying updated with the latest technology trends.
สวัสดี ฉันชื่อเจมส์ คาร์เตอร์ ฉันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก MIT และปัจจุบันทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ Google ฉันเชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ปรับขนาดได้ และมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านการเรียนรู้ของเครื่องและปัญญาประดิษฐ์ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ฉันได้เป็นผู้นำโครงการที่ประสบความสำเร็จหลายโครงการซึ่งมีส่วนช่วยปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทในเวลาว่าง ฉันชอบมีส่วนร่วมในความท้าทายในการเขียนโปรแกรมและติดตามเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุด
ตัวอย่างบทเรียนที่ 2
Greetings, I’m Emily Johnson. I am a marketing manager with eight years of experience in digital marketing and brand management. I currently work at Unilever, where I oversee marketing campaigns for various product lines, focusing on increasing brand awareness and driving sales growth. My expertise lies in creating innovative marketing strategies and leveraging data analytics to optimize campaign performance. Outside of work, I enjoy traveling and exploring new cultures, which often inspires my creative marketing ideas.
สวัสดี ฉันชื่อเอมิลี่ จอห์นสัน ฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่มีประสบการณ์แปดปีในด้านการตลาดดิจิทัลและการจัดการแบรนด์ ปัจจุบัน ฉันทำงานที่ Unilever ซึ่งฉันดูแลแคมเปญการตลาดสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และผลักดันการเติบโตของยอดขาย ความเชี่ยวชาญของฉันอยู่ที่การสร้างกลยุทธ์การตลาดเชิงนวัตกรรมและการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ นอกเหนือจากการทำงาน ฉันสนุกกับการเดินทางและสำรวจวัฒนธรรมใหม่ๆ ซึ่งมักจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดทางการตลาดที่สร้างสรรค์ของฉัน
ตัวอย่างบทเรียนที่ 3
Hi, my name is Michael Lee. I am an experienced project manager with a Master’s degree in Business Administration from Harvard University. I currently work at Microsoft, where I manage cross-functional teams to deliver high-impact projects on time and within budget. My strong leadership skills and ability to coordinate complex projects have led to significant improvements in operational efficiency and client satisfaction. In addition to my professional responsibilities, I am passionate about mentoring young professionals and helping them develop their careers.
สวัสดี ฉันชื่อไมเคิล ลี ฉันเป็นผู้จัดการโครงการที่มีประสบการณ์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปัจจุบัน ฉันทำงานที่ Microsoft โดยที่ฉันจัดการทีมข้ามสายงานเพื่อส่งมอบโครงการที่มีผลกระทบสูงตรงเวลาและอยู่ภายในงบประมาณ ทักษะความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและความสามารถในการประสานงานโครงการที่ซับซ้อนได้นำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากความรับผิดชอบในการทำงานของฉันแล้ว ฉันมีความหลงใหลในการให้คำปรึกษาแก่มืออาชีพรุ่นเยาว์และช่วยให้พวกเขาพัฒนาอาชีพของพวกเขา
3.2. ย่อหน้าการแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษา
ตัวอย่างบทเรียนที่ 1
Hello! My name is Jane, and I am currently a second-year student at Stanford University, majoring in Computer Science. I have always been passionate about technology and coding, and I am particularly interested in software development and artificial intelligence. Outside of my academic pursuits, I enjoy playing chess, and volunteering at local community centers. I am eager to learn and grow, and I am excited about the opportunities and challenges that lie ahead in my academic and professional journey.
สวัสดี! ฉันชื่อเจน ปัจจุบันฉันอยู่ชั้นปีที่สองที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ฉันหลงใหลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการเขียนโปรแกรมมาโดยตลอด และสนใจเป็นพิเศษในการพัฒนาซอฟต์แวร์และปัญญาประดิษฐ์ นอกจากกิจกรรมทางวิชาการแล้ว ฉันยังสนุกกับการเล่นหมากรุกและเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์ชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย ฉันกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และเติบโต และรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสและความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าในเส้นทางการศึกษาและอาชีพของฉัน
ตัวอย่างบทเรียนที่ 2
Greetings! I am Jenny, a third-year business administration student at Harvard University. My primary interests lie in marketing and entrepreneurship. I have been an active member of the university’s business club, where I have had the opportunity to work on several real-world projects and case studies. In my free time, I love reading business books, attending seminars, and networking with professionals in the industry. I am enthusiastic about applying my knowledge and skills in a practical setting and contributing to innovative business solutions.
สวัสดี! ฉันชื่อเจนนี่ นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจปีสามที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ความสนใจหลักของฉันคือการตลาดและการเป็นผู้ประกอบการ ฉันเป็นสมาชิกที่แข็งขันในชมรมธุรกิจของโรงเรียน ซึ่งฉันได้มีโอกาสทำงานในโครงการและกรณีศึกษาในชีวิตจริงหลายรายการ ในเวลาว่าง ฉันสนุกกับการอ่านหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจ เข้าร่วมสัมมนา และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ฉันกระตือรือร้นที่จะนำความรู้และทักษะของฉันไปใช้ในสภาพแวดล้อมจริง และมีส่วนร่วมในโซลูชันทางธุรกิจที่เป็นนวัตกรรม
ตัวอย่างบทเรียนที่ 3
Hello! I’m Alex, a marketing major at Boston College. I’m really passionate about branding, digital marketing, and market research. Right now, I’m actively working with a campus-based marketing agency, where I get to apply my skills and collaborate with other enthusiastic students. I’m always eager to connect with fellow students and industry professionals to exchange ideas and insights about the business world.
สวัสดี! ฉันชื่ออเล็กซ์ วิชาเอกการตลาดที่วิทยาลัยบอสตัน ฉันหลงใหลในการสร้างแบรนด์ การตลาดดิจิทัล และการวิจัยตลาดมาก ปัจจุบัน ฉันกำลังทำงานร่วมกับเอเจนซี่การตลาดในวิทยาเขต ซึ่งฉันสามารถใช้ทักษะและทำงานร่วมกับนักเรียนที่กระตือรือร้นคนอื่นๆ ได้ ฉันมองหาที่จะติดต่อกับนักศึกษาคนอื่นๆ และผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมอยู่เสมอเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโลกธุรกิจ
ข้างต้นนี้คือทั้งหมดของตัวอย่างประโยคและตัวอย่างสำหรับการเขียนแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ หวังว่าผ่านบทความนี้คุณจะสามารถสร้างบทแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษที่น่าสนใจและสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านและผู้ฟังได้
หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมกดไลค์ แชร์ และคอมเมนต์ด้านล่างด้วยนะคะ อย่าลืมเข้าไปที่ Eng Breaking เพื่อรับข้อมูลที่มีประโยชน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษของคุณด้วยค่ะ
ไม่พลาดกับบทความนี้:
- ฝึกฟังภาษาอังกฤษรับรองเป๊ะเวอร์ คุณลองหรือยัง?
- 100++ วลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย ความหมายน่าสนใจ ไม่รู้ไม่ได้
- 101+ สำนวนภาษาอังกฤษที่พบบ่อยพร้อมคำแปลฉบับสมบูรณ์
-
-
Mik Jakkaphat
เป็นวิธีเรียนที่ยอดเยี่ยมมากกกกก มีทั้งรูปภาพทั้งคำแปล ช่วยดึงดูดความสนใจในการเรียนมาก ๆ ครับ Eng Breaking ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในด้านการพูดและการสื่อสารมาก ๆ ครับ ผมอยากขอบคุณ Eng Breaking มาก ๆ ครับ ผมเหลืออีกแค่ไม่กี่ lesson ก็เรียนจบแล้วครับ
-
Soda Sodaaa
เรียนง่ายมั้ยคะ? คือเราเป็นคนที่ถอดใจง่ายมาก ๆ ค่ะ
-
RueThaiRut
เรียนง่ายนะคะ มีคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนให้ทุกวันค่ะ เนื้อหาก็ตามหัวข้อในแต่ละวันเลยค่ะเราก็เรียนได้ประมาณเดือนครึ่งแล้วนะ ตอนนี้เราสามารถสื่อสารได้แบบสบาย ๆ แล้ว ไม่ค่อยกลัวภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วล่ะ อิอิ
-
เจมส์ ธีรพงศ์
มีคำแนะนำที่ละเอียดดีมาก ๆ ครับ และผมรู้สึกว่าวิธีสอนดีมาก ส่วนตัวค่อนข้างชอบการเรียนแบบนี้มาก ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนเรียนในห้องเรียนครับ แถมยังเรียนง่ายอีก คอนนี้ผมเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้วล่ะครับ
-
Cat Catt
ชุดหนังสือสวยเว่อร์ บวกกับเนื้อหาในหนังสือคือดีและสมจริงมาก ๆ ด้านในมีคำแนะนำครบถ้วน ชัดเจนทุกกระบวนการ ตอนนี้เราเรียนได้ 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีพัฒน่การขึ้นเยอะมาก ๆ เลยนะ
-
Meawww Jhaa
เพื่อน ๆ คะ ชุดนี้เนื้อหาทั้งหมด รวม ๆ มีอะไรบ้างคะ?
-
Naphawan MeeJaiii
นี่ค่ะ ประกอบไปด้วยชุดหนังสือ เอกสารออนไลน์ app และยังมีของขวัญให้อีกด้วยค่ะ พูดรวม ๆ ก็คือครบเซ็ทค่ะ ^^!
-
GotCha
ผมซื้อให้น้องผมเรียน ผมรู้สึกได้ว่า ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากในการเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นผมซื้อหนังสือเรียนเล่มที่ใหญ่และหนากว่านี้มาหลายต่อหลายเล่ม แต่มันก็มีข้อจำกัด ในการเรียนคือบางเล่มไม่แนะนำรายละเอียดการเรียนที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นผมเรียนได้ไม่กี่หน้าก็เป็นอันต้องถอดใจไปทุกครั้ง น้องของผมติดตามหลักสูตรนี้มาเกือบหนึ่งเดือนแล้วและเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นน้องของผมก็กระตือรือร้นที่จะเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเมื่อก่อน จริง ๆ แล้วนี่เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากครับ!
-
ป๋อง ฤทธิเดช
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งหรือเรียกว่าอ่อนภาษาอังกฆษอย่างผมมาก ๆ ครับ ผมเพิ่งเรียนได้ 1 lesson แต่รู้สึกว่าการฟังและการออกเสียงของผมจะค่อนข้างดีขึ้นเลยทีเดียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นผมยังรู้คำศัพท์และประโยคคำถามเพิ่มอีกด้วย หนังสือเล่มนี้เรียนง่ายมากครับ เพื่อน ๆ ควรลองซื้อมาเรียนดูครับ รับรองว่าเรียนเสร็จเพื่อน ๆ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องตั้งใจและขยันเรียนด้วยนะครับ
-
ดวงใจ มาเต็ม
เราเรียนก็ค่อนข้างโอเคนะ บางทีอาจจะเหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำ เรียนด้วยความเข้าใจแบบเรา การออกแบบ ดีไซน์ก็ค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์อีกด้วยนะ
-
หนูน้อย หมวกแดง
เราค่อนข้างพอใจกับหนังสือเรียนนะ การห่อ แพ็คเก็จ บรรจุภัณฑ์ก็เรียบร้อยดี ส่งของตรงเวลา คุณภาพหนังสือดี ปกหนังสือมีสีสันสะดุดตา เรียนง่าย เราหวังว่าถ้าเรียนเล่มนี้ไปแล้วมันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้ได้.
Sudarat Manee
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ทีไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เพียงหนังสือที่ใช้เรียนเพียงแค่ 3 เดือน หรือได้ผลหลังจากที่เรียนเพียง 3 เดือน เท่านั้น แต่ยังมี new 12 lessons ที่ต้องเรียนรู้อีกด้วย มีการแจ้งเตือนทาง mail ทุกวัน เราเรียนตามแผนและกระบวนการตามที่ได้รับใน mailนั้น เนื้อหาดี ประโยคมีความทันสมัย มีหลายประโยคที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใช้สื่อสารกัน ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ มีการจัดรูปแบบและวางแผนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้เราฝึกนิสัยในการวางแผนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แผนการเรียนชัดเจนในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ มาสร้างนิสัยตามแผนการเรียนกันเถอะค่ะ ไม่ว่าจะมีวิธีที่ดีแค่ไหนถ้ามัวแต่ขี้เกียจแล้วเมื่อไหร่จะพัฒนาตัวเองได้ล่ะคะ .